‘วิรัช’ไม่รอด
อัยการสูงสุดสั่งฟ้องพร้อมพวก
คดีทุจริตสร้างสนามฟุตซอล
เจ้าตัวทำใจรับชะตากรรม
“อัยการสูงสุด” มีมติสั่งฟ้อง คดีทุจริตสนามฟุตซอล “วิรัช”เผยไม่รู้สึกกังวล เตรียมใจมา 2 ปีแล้ว ยังเชื่อมั่นในความบริสุทธิ์-ความยุติธรรมของศาล ด้าน กมธ.งบฯ’65 ประชุมนัดแรก เลือก “ขุนคลัง อาคม” นั่ง “ประธาน” ขณะเลือก รองประธานฯวุ่น “พท.” ส่ง “ประเสริฐ” นั่ง รองที่ 2 แต่ “พปชร.” ไม่ยอม สั่งพักประชุม 30 นาที ก่อนเลือก “นฤมล-นาที” คว้าไปครอง ส่วน “เรืองไกร” ซิวโฆษก กมธ.งบ
เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน นายวิรัช รัตนเศรษฐ สส.บัญชีรายชื่อและกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)และประธานกรรมการในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (ปธ.วิปรัฐบาล) กล่าวถึงกรณีอัยการและคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ปปช.)ได้ข้อสรุปที่จะสั่งฟ้องตนและบุคลากรทางการศึกษา 84ราย ในคดีถูกกล่าวหาทุจริตสร้างสนามฟุตซอล ว่า เรื่องนี้ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ ส่วนตัวไม่กังวลอะไร รู้สึกเฉยๆ ซึ่งคิดว่ากว่าจะดำเนินการเสร็จสิ้นคาดว่าต้องใช้เวลาดำเนินการอีกหลายเดือน
‘วิรัช’ไม่หวั่น’อัยการ-ปปช.’สั่งฟ้อง
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้เตรียมสู้คดีอย่างไร นายวิรัช กล่าวว่า ตนได้มีการฟ้องร้องคณะอนุกรรมการไต่สวนคดีดังกล่าวไปก่อนหน้านี้แล้วว่า สิ่งที่ทำนั้นไม่ถูกต้อง เป็นการปฏิบัติหน้าที่โดยไม่ชอบ แต่เผอิญว่าศาลยังไม่ได้รับพิจารณาเนื่องจากติดสถานการณ์โควิด ไม่เช่นนั้นเรื่องดังกล่าวคงเสร็จสิ้นไปแล้ว เมื่อถามว่าหากผลออกมาเป็นลบจะกระทบต่อการทำงานในฐานะประธานวิปรัฐบาลหรือไม่ นายวิรัช กล่าวว่า ไม่เป็นไร ไปได้แค่ไหนก็แค่นั้น หยุดแค่ไหนก็หยุดแค่นั้น’คนอื่นเขาไม่ได้เตรียมตัวเลย เขาไปปุบปับก็มี แต่เรื่องนี้ผมรู้มาตั้งนานแล้ว ผมก็เตรียมใจ เตรียมอะไรไว้มา 2ปีแล้ว ส่วนตัวมั่นใจในความบริสุทธิ์ของตัวเองและมั่นใจในความยุติธรรมของศาล’
ขณะที่ นายวงศ์สกุล กิตติพรหมวงศ์ อัยการสูงสุด (อสส.) กล่าวว่า ตนมีความเห็นสั่งฟ้อง นายวิรัช รัตนเศรษฐ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐและประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล หรือประธานวิปรัฐบาล เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง สส.พรรคเพื่อไทย กับพวก คดีทุจริตก่อสร้างสนามฟุตซอลใน จ.นครราชสีมาไปแล้ว 7สำนวน ส่วนการยื่นฟ้องอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีปราบปรามการทุจริต รับผิดชอบร่างคำฟ้องเพื่อยื่นฟ้องต่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับคดีทุจริตเงินจัดสรรงบประมาณก่อสร้างสนามฟุตซอลโรงเรียนในพื้นที่เขตการศึกษาต่างๆใน จ.นครราชสีมา เป็นโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขึ้นพื้นฐาน (สพฐ.)ที่ ปปช.มีความเห็นสั่งฟ้องและได้ส่งสำนวนให้ อสส.พิจารณาแล้วเห็นว่า ยังมีข้อไม่สมบูรณ์ จึงได้มีการตั้งคณะทำงานพิจารณาสำนวนคดีร่วมกันระหว่างอัยการและปปช.โดยก่อนหน้านี้ อสส.มีความเห็นสั่งฟ้องนายวิรัช ไปแล้ว 1สำนวน
กมธ.งบฯเคาะ‘อาคม’นั่งประธาน
ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมคณะกรรมาธิการ (กมธ.)วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สภาผู้แทนราษฎร นัดแรก โดยมีวาระสำคัญเลือกตำแหน่งต่าง ๆ อาทิ ประธาน รองประธาน เลขานุการและโฆษกกมธ.โดยมี นายอุบลศักดิ์ บัวหลวงงาม สส.ลพบุรี พรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นประธานชั่วคราว
ซึ่งที่ประชุมมีมติเสียงข้างมากให้ นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะกรรมาธิการ ดำรงตำแหน่งประธานกมธ.ฯ ตำแหน่งรองประธานกมธ.ที่ประชุมมีมติให้ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลังเป็นรองประธานคนที่1 ส่วนตำแหน่งรองประธานคนที 2ที่ประชุมไม่สามารถตกลงกันได้ เนื่องจากตามธรรมเนียมปฏิบัติ ตำแหน่งรองประธานคนที่2 ต้องมาจากพรรคการเมืองที่มีเสียงมากที่สุดในสภา คือ พรรคเพื่อไทย โดยพรรคเพื่อไทยเสนอชื่อ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา ในฐานะเลขาธิการพรรค เป็นรองประธาน แต่ฝ่ายรัฐบาลไม่ยินยอม เนื่องจากต้องการให้ นางนาที รัชกิจประการ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย (ภท.) ดำรงตำแหน่งดังกล่าว โดยไม่ต้องคำนึงถึงธรรมเนียมปฏิบัติที่จะต้องสลับฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลในตำแหน่งต่างๆทำให้ฝ่ายค้านไม่พอใจ จนต้องพักการประชุม 30นาที เพื่อหารือถึงแนวทางแต่ละฝ่าย ก่อนจะกลับเข้ามาประชุมอีกครั้ง
‘นฤมล-นาที’คว้าเก้าอี้รองประธาน
จากนั้นเวลา 13.00น.นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ สส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะโฆษก กมธ.แถลงผลการประชุมว่า ที่ประชุมเลือก นายอาคม เป็นประธาน โดยมีรองประธาน 22คน จากรัฐมนตรีและพรรคการเมืองต่างๆ โดยรองประธานคนที่2 คือ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน รองประธานคนที่3 นายวิรัช รัตนเศรษฐ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค พปชร.รองประธานคนที่4 คือ นางนาที รัชกิจประการ อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ภท.รองประธานคนที่5 คือ นายวิเชียร ชวลิต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร.รองประธานคนที่6 คือ นายประเสริฐ จันทรรวงทอง สส.นครราชสีมา พรรคเพื่อไทย เป็นต้น
นายสรวุฒิ กล่าวต่อว่า ส่วนตำแหน่งเลขานุการจำนวน 7คน มีนายอรรถกร ศิริลัทยากร ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคพลังประชารัฐ เป็นเลขานุการกรรมาธิการคนที่ 1ตำแหน่งโฆษกจำนวน 9คน ซึ่งนอกจากตนแล้วยังมี นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ กมธ.สัดส่วนพรรคพปชร.เป็นโฆษกด้วย ส่วนตำแหน่งที่ปรึกษากมธ.จำนวน 10คน ทั้งนี้ที่ประชุมได้วางกรอบการพิจารณาทุกวัน เริ่มวันที่ 7มิ.ย.เวลา 13.00น.โดยสำนักงบประมาณได้กำหนดแนวทางการพิจารณาเป็นแบบที่1 เรียงตามมาตราและแบบที่2 ตามกลุ่มภาระกิจ6 กลุ่ม 11แผนบูรณาการ ซึ่งคาดว่าที่ประชุมจะเลือกแบบที่ 2 เหมือนการพิจารณางบประมาณปี 64
‘บิ๊กป้อม’ไม่ตอบ’เรืองไกร’ย้ายซบ
ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ปฏิเสธให้สัมภาษณ์ประเด็นที่ นายเรืองไกร ลีกิจวัฒนะ ย้ายมาสมัครเป็นสมาชิกพรรค พปชร.และได้เป็น กมธ.วิสามัญพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2565 โดย พล.อ.ประวิตร ระบุว่า เรื่องดังกล่าว นายวิรัช รัตนเศรษฐ สส.บัญชีรายชื่อและกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคพลังประชารัฐ และประธานกรรมการในคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) พูดไปหมดแล้ว
‘ปารีณา’นั่งกมธ.งบฯเปิดใจคิดถึงสภา.
ด้านน.ส.ปารีณา ไกรคุปต์ สส.ราชบุรี พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ในฐานะคณะกรรมาธิการวิสามัญเพื่อพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณฯที่ถูกศาลวินิจฉัย พร้อมมีคำสั่งให้หยุดปฏิบัติหน้าที่กรณีบุกรุกพื้นที่ป่าสงวนใน จ.ราชบุรี ให้สัมภาษณ์ว่า รู้สึกดีใจมากที่ได้กลับมาทำงาน 16ปีที่ทำงานไม่เคยต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่ เมื่อหยุดไปก็คิดถึงสภา กรณีที่ประชุมสภาฯพิจารณาร่างพรบ.งบประมาณ ตนก็ติดตามการอภิปราย รู้สึกอยากจะขออภิปรายด้วยและอยากประท้วงบ้าง แต่ก็ได้แค่รับชม
เมื่อถามว่าเหมือนขาดสีสันในการประท้วงเรื่ององครักษ์พิทักษ์นายกฯ ใช่หรือไม่ น.ส.ปารีณา กล่าวว่า ไม่ได้เป็นองครักษ์ เป็นสมาชิกรัฐสภา หากผู้ใดทำผิดข้อบังคับการประชุมก็จำเป็นต้องประท้วง
ถามต่อว่าคาดหวังที่จะกลับมาทำหน้าที่สส.หรือไม่ น.ส.ปารีณา กล่าวว่า คาดหวังมาก เพราะเมื่อเรื่องไปถึงศาลก็มั่นใจในระบบยุติธรรม ทำให้มีความหวังและศาลก็เปิดให้ต่อสู้คดีอย่างเต็มที่ ถามอีกว่ามีความกังวลเรื่องคดีที่นัดพิจารณาครั้งแรกหรือไม่ น.ส.ปารีณา กล่าวว่า นัดแรกเป็นการนัดวันว่า จะไต่สวนวันใด ก็ต้องเตรียมพยานหลักฐานเอกสารต่างๆ ซึ่งได้เพิ่มทีมทนายที่พรรคพปชร.เป็นผู้ดูแล จัดการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี