10 มิ.ย. 2564 นายเท่าพิภพ ลิ้มจิตรกร ส.ส.กรุงเทพฯ พรรคก้าวไกล โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัว เมื่อช่วงค่ำวันที่ 9 มิ.ย. 2564 ที่ผ่านมา สรุปเรื่องที่ตนได้อภิปราย พ.ร.ก.กู้เงิน ของรัฐบาลในวันดังกล่าว ดังนี้
[ ถ้าไม่คิด “รับผิดชอบหรือเยียวยา” ก็เอา “ชีวิต” ของพวกเขา “คืนมา” ]
ผมขอมาเป็นตัวแทนผู้ประกอบการธุรกิจบริการ ร้านนวด สปา คลินิคเสริมความงาม และโดยเฉพาะ "ธุรกิจกลางคืน" รวมถึงคนที่ทำงานที่เกี่ยวข้อง เช่น เด็กเสิร์ฟ นักดนตรี นักแสดงโชว์ คนขับรถเเท็กซี่ ไปจนถึงเด็กโบกรถที่ได้ผลกระทบจากความใจจืดใจดำของรัฐบาล ซึ่งใช้อำนาจสั่งปิดธุรกิจโดยไม่เยียวยา ไม่เหลียวเเล มิหนำซ้ำยังซ้ำเติมกล่าวหา โยนความผิดให้พวกเขาว่าคือต้นเหตุของวิกฤติโควิด-19
แต่น่าเสียดายนะครับว่าคำพูดของผมอาจจะไม่ทันที่จะช่วยพี่น้องเหล่านี้ที่ปิดลง
Thaisho ย่านอารีย์
The Exile ถนนข้าวสาร
ภัตตาคารศาลาไทย Original Salathai Restaurant พระราม 3
Bottle rocket craft beer bar พญาไท
บ้านหอมกลิ่นดิน สุโขทัย
สีดำ นมสด ปราจีนบุรี
Iberrygarden เชียงใหม่
ส่วนร้านที่ยังไม่ปิด ผมก็ขอให้กำลังใจเเละขอให้รัฐบาลช่วยเหลือเยียวยาธุรกิจของพวกเขาไม่ให้ต้องปิดตัวลงด้วย
'นานเท่าไหร่แล้ว ?'
18 มีนาคม - 31 มิถุนายน 2563 = 104
29 ธันวาคม 2563 -24 กุมภาพันธ์ 2564 = 54
6 เมษายน 2564 ถึงปัจจุบัน = 63
รวมๆก็ประมาณ 7 เดือน หรือคิดเป็น 221 วัน
เป็น 'สามครั้ง' เเล้วที่รัฐบาลสั่งปิดธุรกิจของพวกเรา
'สามครั้ง' ที่เราโดนสั่งปิดแบบไร้การเยียวยา
'สามครั้ง' ที่เราได้กลายเป็นผู้ร้ายของสังคม ทั้งๆที่พวกเราไม่ได้ทำอะไรผิด
'สามครั้ง' ที่รัฐบาลบอกให้เราเสียสละ แต่ไม่เคยสนใจแม้แต่เสียงของพวกเรา
'สามครั้ง' ที่เราโดนบังคับให้ตกงาน และต้องขาดรายได้
'สามครั้ง' ที่เราพยายามหาทางทำอย่างอื่นเพื่อให้ชีวิตเรายังพอเดินต่อไป
'สามครั้ง' ที่พวกเราพยายามเข้าใจและเสียสละตามที่รัฐบาลบอก
แต่พวกเราไม่เคยเห็นเห็นแม้แต่ครั้งเดียวที่รัฐบาลความพยายามที่จะเข้าใจและสนใจพวกเรา
นักดนตรีให้ไปเล่นออนไลน์ ลงยูทูป กว่าจะได้เเต่ละบาทมันยากเเค่ไหน
"บอกให้แต่ขายออนไลน์"
ร้านคราฟท์เบียร์ในเขตคลองสาน ร้าน Save Our Souls เตรียมตัวจะขายออนไลน์ สุดท้ายก่อนประกาศปิดร้าน รัฐบาลก็รีบออกกฎหมายมาห้ามขายเเอลกอฮอล์ออนไลน์ สุดท้ายร้านต้องปรับตัวมาผัดกะเพรา ที่นี่ Basil - กะเพราป่า เพื่อความอยู่รอด
หรืออย่างร้าน Teens of Thailand
ร้าน cocktail ชื่อดังในระดับ Asia แต่กลับต้องผันตัวมาขายขนมจีบ หรือแม้กระทั้ง เฝอหม้อไฟ สุกี้สไตล์เวียดนาม ไม่มีสาขา โกดังชาบู ก็ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 เช่นกัน
"บอกให้ร้านอาหารไปทำเดลิเวอรี่"
ผมขอยกตัวอย่างร้าน fine dinning อย่างร้าน Bo.lan ระดับ michelin star พวกท่านเข้าใจหรือไม่ว่าพวกเขาไม่ได้ขายแค่รสชาติอาหารหรือแค่กินพออิ่ม
ทราบหรือไม่!?
แพลตฟอร์มเดลิเวอรี่บางรายในไทยหัก GP (ค่าคอมมิชชัน) กันเท่าไหร่ ?
คำตอบคือ ตอนนี้ "เกือบแตะ 35% - 40%" เข้าไปทุกที
ผู้ดูแลแพลตฟอร์มบางรายยอมลดเหลือ 25% ในวิกฤติโควิด-19
เเต่ไหนจะค่าโปรโมชั่น ไหนจะถูกหั่นกำไร ค่าการตลาด
แถมยังมียอดค้างให้ไปหักรอบบิลหน้าอีก
แต่ถึงอย่างไรก็ตามตัวผมเข้าใจดีเรื่องที่ผู้ดูแลแพลตฟอร์มบางรายต้องแบกรับค่าใชัจ่ายอยู่สูง เเละอาจจะมีการเเข่งขันในตลาดด้วย
ก็หวังว่าสักวันหนึ่งเราจะหาตรงกลางระหว่าง ผู้ดูแลแพลตฟอร์ม ผู้ประกอบการรายย่อย หรือคนส่งเดลิเวอรี่ตาดำๆ ได้ในเร็ววัน
สรุปรัฐบาลอยากให้เค้าปรับตัวจริงๆ หรือเห็นประชาชนยากจนลำบากเเล้วมันสะใจหรือครับ ?
หรือให้ประชาชนจนไว้ จะได้โยนเศษเงินให้ จะได้เอาไว้มาทวงบุญคุณกันตอนเลือกตั้งครับ
นี่คือเป้าหมายของพรก.เงินกู้ฉบับนี้หรือเปล่า ?
ร้านผับบาร์ ร้านนวด และสปา เป็นธุรกิจเเรกที่ถูกปิด เเละเป็นธุรกิจสุดท้ายที่ได้เปิด
รอบนี้เปิดร้านอาหารไปแล้ว เเต่ร้านเหล่านี้ก็ยังปิดอยู่นะครับ พวกท่านลืมพวกเขาหรือเปล่าครับ
อย่าเอานิสัยขังลืมตอนเป็นทหาร มา "ขังลืม" ธุรกิจของพวกเขาเลย
หลอกให้เค้าปิดตั้งนานไม่มีอะไรดีขึ้น แทนที่ระหว่างปิดจะ "รีบฉีดวัคซีน"
ถ้ารีบหาวัคซีนวัคซีนเเต่เเรกก็รอดเเล้ว
"รายได้ไม่มีแต่หนี้ไม่เคยหยุดพัก"
โดนสั่งปิด ร้านเจ๊ง มีคนตกงานนับแสนนับล้านทันที แต่ไม่เคยมีมาตรการช่วยเหลือใดๆ ที่ยิงตรงเพื่อชดใช้ เยียวยาคนเหล่านั้นเลย
เห็นผมพูดมาขนาดนี้ อาจจะคิดว่าผมพูดพวกตัวเองหรือพวกพ้อง
ซึ่งก็ไม่ใช่เรื่องบังเอิญ เพราะคนเเบบพวกผมมีจำนวนไม่น้อยในประเทศนี้
เเต่ผมมีข้อมูลยืนยัน
ข้อมูลจากสถาบันวิจัยเศรษฐกิจป๋วย อึ๊งภากรณ์ และบริษัท วงใน มีเดีย จำกัด ได้ร่วมกันศึกษาธุรกิจบริการอาหารโดยวิเคราะห์ข้อมูลจาก 3 แหล่ง ได้แก่
(1) ข้อมูลสำมะโนอุตสาหกรรม ปี 2560 ที่จัดเก็บโดยสำนักงานสถิติแห่งชาติ
(2) ข้อมูลงบการเงินธุรกิจ จากกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์ ปี 2559 และ
(3) ข้อมูล Wongnai ที่มีการจัดเก็บในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ซึ่งข้อมูล 3 ชุดนี้ช่วยให้เราเข้าใจภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมบริการอาหารและเครื่องดื่มได้ดียิ่งขึ้น ข้อมูลจากสำมะโนอุตสาหกรรม สำนักงานสถิติแห่งชาติได้ทำการจัดเก็บทุก 5 ปี ครอบคลุมสถานบริการทุกแห่งที่มีหน้าร้านและมีหลักแหล่งแน่นอน ทั้งสถานประกอบการที่จดทะเบียนและไม่ได้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล โดยข้อมูลปี 2560 เป็นการเก็บครั้งล่าสุด ข้อมูลเบื้องต้นประกอบด้วยประเภทกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ที่ตั้งของสถานประกอบการ และจำนวนแรงงาน รวมถึงการใช้เทคโนโลยีประเภทต่าง ๆ ในการประกอบกิจการ ที่เกิดขึ้นในปี 2559 ซึ่งมีจำนวนสถานประกอบการในสำมะโนทั้งสิ้น 2,493,044 แห่ง เป็นสถานประกอบการในอุตสาหกรรมบริการอาหารและเครื่องดื่มจำนวน 325,890 แห่ง
GDP 18% ของประเทศไทย มาจากธุรกิจอาหารเเละเครื่องดื่ม
ปีนี้มูลค่าน่าจะลดลงเหลือ 4 แสนล้านจากการวิเคราะห์ของหลายหน่วยงาน
ผมอยากพาทุกท่านมาฟัง "เสียงจากผู้ประกอบการรายย่อย”
จากที่ผมดูแบบสำรวจผลกระทบของผู้ที่ทำงานในสถานบันเทิง
แทบจะเกือบ 80% พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า สิ่งที่ต้องการก็คือการพักชำระหนี้ เช่น บัตรเครดิต สินเชื่อส่วนบุคคลหรือการให้รัฐมาซัพพอร์ตเรื่องค่าเช่าที่ ค่าน้ำ ค่าไฟ
“รัฐบอกให้หยุดหาเงิน แต่ไม่บอกให้หยุดจ่ายหนี้ แล้วจะให้พวกเราเอาเงินที่ไหนมาจ่าย”
"เครดิต"พวกเราหลังจากนี้จะเป็นอย่างไร มันอาจเป็นเรื่อง “เล็กน้อย" สำหรับพวกท่าน แต่มันเป็น “เรื่องใหญ่” สำหรับประชาชนนะครับ
ที่ผ่านมา มีแต่มาตรการซึ่งเน้นเเต่การกระตุ้นการบริโภค
ไม่ได้มีมาตรการในการรักษาการจ้างงาน ส่วนในต่างประเทศนั้นกลับกัน
อาทิ โจ ไบเดน ออกมาทำโครงการทุนเพื่อฟื้นฟูร้านอาหาร (RRF) (Restaurant Revitalization Fund) โดยจะช่วยเหลือผู้ประกอบการที่มีคุณสมบัติครบตามเกณฑ์ตั้งแต่ 1,000-5,000,000 เหรียญ นอกจากนี้ยังเปิดให้ผู้ประกอบการผู้ด้อยโอกาสทางสังคมหรือทางเศรษฐกิจสามารถยื่นคำร้อง “ก่อน” ผู้ประกอบการรายอื่น
นี่เเสดงให้เห็นว่าการเปลี่ยนจาก "ลุงทรัมป์" มาเป็น "ลุงไบเดน" ก็สามารถเปลี่ยนแปลงประเทศให้ดีขึ้นได้ ผมว่าถึงเวลาเเล้วครับที่ประเทศเราจะลองเปลี่ยนลุงตู่ออกไปเสียที
ผมกลัวจริงๆว่าเมื่อเปิดประเทศเเล้ว อาจไม่มีมนต์เสน่ห์หลงเหลือให้นักท่องเที่ยวอีก
ด้วยเหตุผลข้างต้นเเละด้วยสิ่งที่รัฐบาลได้ใช้เงินกู้ไปก่อนหน้านี้
สุดท้ายหากท่านชี้แจงเเล้ว ยังไม่ได้ให้ความสำคัญกับธุรกิจบริการ ร้านอาหาร ร้านเหล้า ที่ท่านสั่งปิดไปโดยไม่เยียวยาหรือรับผิดชอบ
ถ้าท่านไม่เห็นความสำคัญของ "คนหาค่ำกินเช้า" อยู่เช่นนี้ต่อไป "ผมเองก็ไม่อาจเห็นชอบกับร่างพรก.เงินกู้นี้ได้ครับ"
อย่างน้อยผมหวังว่าถ้าไม่คิดจะรับผิดชอบเยียวยาเค้าด้วยเงิน ก็เอาโต๊ะ เอาเก้าอี้ เเละชีวิตของพวกเราคืนมาครับ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี