“ปชป.” เดินหน้าชง 6 ร่างแก้รธน. เพิ่มปชต.มากขึ้น กระจายอำนาจท้องถิ่น ดับอำนาจ สว.เลือกนายก เน้นมาจากจากบัญชีรายชื่อที่พรรคเสนอ-ส.ส.เท่านั้น เผยรอหารือร่างที่ 7 กับ “ภท.-ชทพ.” 16 มิ.ย.นี้
เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2564 ที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ว่า มีทั้งหมด 6 ร่าง ยืนยันว่า พรรคประชาธิปัตย์ต้องการให้รัฐธรรมนูญเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น ซึ่งจะไม่มุ่งเน้นเพียงแค่การแก้ไขโครงสร้างทางการเมืองเท่านั้น แต่จะแก้ไขในส่วนของสิทธิความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นหลัก โดยร่างแรก เป็นเรื่องสิทธิของประชาชนเช่น สิทธิชุมชน สิทธิผู้บริโภคเรื่องที่ดินทำกิน สิทธิในกระบวนการยุติธรรม
นายราเมศ กล่าวต่อว่า ร่างที่ 2 เกี่ยวกับระบบเลือกตั้ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ เสนอให้มีส.ส.จากเขตเลือกตั้ง 400 คน และอีก 100 คนมาจากบัญชีรายชื่อ และกระบวนการใช้บัตรเลือกตั้ง 2 ใบ ส่วนการคำนวณสัดส่วนคะแนนจะกำหนดไว้ในกฎหมายลูก พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และร่างที่ 3 เกี่ยวข้องกับอำนาจสมาชิกวุฒิสภาเชื่อมโยงกับการเลือกนายกรัฐมนตรีพรรคประชาธิปัตย์เตรียมร่างไว้เพื่อเสนอ ว่าบุคคลที่จะเสนอตัวเป็นนายกรัฐมนตรีในสภา จะต้องเป็นบุคคลที่อยู่ในบัญชีรายชื่อนายกรัฐมนตรีที่ถือว่าผ่านการตรวจสอบและเลือกมาแล้วส่วนหนึ่งจากประชาชนและพรรค หรือนายกรัฐมนตรีต้องมาจากสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร หากนอกเหนือจากนี้ไม่ควรกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญ และไม่ให้อำนาจสมาชิกวุฒิสภาเลือกนายกรัฐมนตรีในมาตรา 272
นายราเมศ กล่าวด้วยว่า ร่างที่ 4 การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญมาตรา 256 โครงสร้างเดิมตัดอำนาจของสว.ออกไปในวาระที่ 1 และวาระที่ 3 จำนวน1ใน 3ออกไป โดยใช้จำนวนสมาชิก 3 ใน 5 ในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ สำหรับร่างที่5 จะเป็นเรื่องการตรวจสอบทุจริตให้เกิดความเข้มข้นเรื่องการดำเนินคดีกับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติหรือป.ป.ช.แก้ไขกระบวนการตรวจสอบ ไม่ควรให้ส.ส. ยื่นเรื่องให้แค่ประธานรัฐสภาเพื่อให้ดำเนินคดีต่อป.ป.ช. ชั้นเดียวเนื่องจากประธานรัฐสภามาจากพรรคการเมืองซึ่งอาจมีการเจรจาต่อรองระหว่างพรรคการเมืองกับประธานรัฐสภาเพื่อไม่ให้ยื่นเรื่องตรวจสอบไปยังศาลฎีกาได้ จึงต้องตั้งคณะกรรมการไต่สวนอิสระขึ้นมาเพื่อป้องกันการแทรกแซงจากหลายฝ่าย ก่อนจะส่งเรื่องไปยังศาลฎีกา
“และร่างที่ 6 ของประชาธิปัตย์ ต้องการแก้ไขเรื่องระบบการเลือกตั้งองค์ปกครองส่วนท้องถิ่น ต้องมาจากการเลือกตั้งจากประชาชนเพียงอย่างเดียว เพื่อให้เกิดการกระจายอำนาจสู่ท้องถิ่นและต้องมีรัฐธรรมนูญเลือกอำนวยให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการปกครองส่วนท้องถิ่นอย่างแท้จริงด้วย” นายราเมศ กล่าว
นายราเมศ กล่าวอีกว่า มีแนวโน้มจะมีร่างที่ 7 ที่มาจากพรรคร่วมรัฐบาล โดยร่วมกับพรรคภูมิใจไทย (ภท.) และชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) ซึ่งทางพรรคได้มอบหมายให้นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะประธานวิปพรรคไปหารือพบว่า มีความเห็นพ้องต้องกันหลายส่วน ซึ่งต้องฟังจากทั้ง 3 พรรคให้เกิดข้อสรุปโดยจะหารือกันในวันที่ 16มิ.ย.นี้ อีกครั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี