"เพื่อไทย"ออกแถลงการณ์ประกาศจุดยืนชัดแก้ไขรธน.มาตรา 256 ตั้ง ส.ส.ร. มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ตัดอำนาจ สว. ไม่เเตะหมวด 1 และหมวด 2 หลังจากก่อนหน้านี้โดน"พรรคก้าวไกล"เททิ้งไม่ร่วมลงชื่อด้วย โดยอ้างมีข้อจำกัดอำนาจของ สสร.ที่มาจากการเลือกตั้งของประชาชน ห้ามแก้ไขหมวดพระมหากษัตริย์
เมื่อวัน 15 มิถุนายน 2564 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.)อ่านแถลงการณ์พรรคเพื่อไทยเรื่องผารแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อให้ประเทศเป็นประชาธิปไตยมากขึ้นว่า จุดยืนและความคืบหน้าในการขับเคลื่อนของพรรคเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 เพื่อให้บ้านเมืองมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น พรรคเพื่อไทยเตรียมยื่นญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 เพื่อตั้ง ส.ส.ร. มาจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ โดยยกเว้นหมวด 1 และหมวด 2 โดยยึดถือตามร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ซึ่งผ่านการพิจารณาโดยกรรมาธิการซึ่งมีองค์ประกอบจากทุกฝ่ายของรัฐสภา ในการพิจารณาเมื่อครั้งที่ผ่านมา ซึ่งร่างดังกล่าวได้ผ่านการพิจารณาของรัฐสภาวาระที่ 2 เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2564 ไปแล้ว การยื่นร่างฉบับนี้ใหม่ จึงเป็นการยืนยันนโยบายและจุดยืนเดิมของพรรคในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560
นายประเสริฐ กล่าวต่อว่านอกจากการยื่นแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ทั้งฉบับ พรรคเพื่อไทยได้เสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราควบคู่กันไปด้วยหลายเรื่องได้ซึ่งเคยนำเสนอไปแล้ว เมื่อสิงหาคม 2563 โดยเลือกเอาประเด็นสำคัญที่เห็นว่าเป็นปัญหาต่อชาติบ้านเมือง และขัดหลักการประชาธิปไตยอย่างชัดแจ้ง เช่นแก้ไขเพื่อเพิ่มและคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของประชาชนหลายเรื่องที่ขาดหายไป เช่น สิทธิการแสดงออก และสิทธิการได้รับการประกันตัวของผู้ต้องหาและจำเลยในคดีอาญา เพิ่มสิทธิและหลักประกันของประชาชนในการได้รับหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า เพิ่มเติมสิทธิของประชาชนในการต่อต้านการกระทำรัฐประหาร เป็นต้น
นายประเสิรฐ ระบุว่า การเลือกนายกรัฐมนตรีโดย ส.ว. เป็นเรื่องที่ขัดหลักประชาธิปไตยอย่างรุนแรง จึงแก้ไขเพื่อตัดอำนาจ ส.ว. ในการเลือกนายกรัฐมนตรีโดยให้สภาผู้แทนราษฎรเท่านั้น เป็นผู้ให้ความเห็นชอบ เพื่อให้กติกามีความเป็นธรรมและมีความเป็นประชาธิปไตย และให้การเลือกนายกรัฐมนตรีตรงตามเจตนารมณ์ของประชาชนการแก้ไขระบบเลือกตั้งให้กลับไปใช้บัตร 2 ใบ ดังเช่นที่เคยใช้ในรัฐธรรมนูญปี 40 และ 50 เพื่อทำให้การเลือกตั้งตรงตามเจตนารมณ์ของประชาชน ประชาชนได้เลือกคนที่รัก เลือกพรรคที่ชอบ และสร้างระบบการเมืองที่มีเสถียรภาพ ซึ่งระบบนี้ประชาชนมีความคุ้นเคยและเข้าใจเป็นอย่างดีแล้ว นอกจากนั้น เป็นการแก้ไขไม่ให้เกิดการทำลายระบบพรรคการเมืองให้เกิดความอ่อนแอ ไม่ทำให้เกิดพรรคเล็กพรรคน้อยเป็นเบี้ยหัวแตกจำนวนมาก และง่ายต่อการซื้อขายแจกกล้วยเหมือนที่ผ่านมา
นอกจากนี้ การยกเลิกบทบัญญัติบางเรื่อง อาทิ ยุทธศาสตร์ชาติ อำนาจ ส.ว.บางเรื่อง ตามบทเฉพาะกาล และการนิรโทษกรรมแก่คณะ คสช. เพราะขัดต่อหลักการประชาธิปไตยเช่นเดียวกัน แม้การแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ 2560 จะเป็นไปด้วยความยากลำบากอย่างยิ่ง เพราะมีกับดักที่เขียนไว้โดยเจตนาที่จะไม่ให้มีการแก้รัฐธรรมนูญฉบับนี้ได้เลย
นายประเสริฐ กล่าวว่า พรรคเพื่อไทยเห็นว่ารัฐธรรมนูญ 2560 คือปัญหาของประเทศโดยแท้จริง จึงจำเป็นในการที่จะต้องยึดหลักการว่า จะต้องมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ พร้อมกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จำเป็นบางมาตรา เพื่อให้ทุกฝ่ายเห็นว่าการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญทั้งฉบับคือความจำเป็นโดยแท้จริงของประเทศ และหากมีอุบัติเหตุทางการเมืองใดๆ ขึ้น การแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราจะช่วยลดทอนความเสียหายให้แก่ประเทศได้
นายประเสิรฐยัง กล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยขอยืนยันต่อพี่น้องประชาชนว่า การเสนอญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญในครั้งนี้ เพื่อหาทางออกให้แก่ประเทศและเป็นไปเพื่อประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชนอย่างแท้จริง ส่วนกรณีที่มีพรรคฝ่ายค้านบางพรรคไม่ร่วมลงชื่อด้วยนั้น ไม่ได้มีปัญหาแต่อย่างใด เนื่องจากที่ผ่านมาก่อนหน้านี้พรรคร่วมฝ่ายค้านก็เคยร่วมกันลงชื่อสนับสนุนมาแล้ว 5 ร่างแก้ไขเพิ่มเติม กรณีนี้ก็เป็นสิทธิของแต่ละพรรค (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'ก้าวไกล'พุ่งเป้าปิดสวิตช์ส.ว. หัก'เพื่อไทย'ไม่ร่วมลงชื่อแก้รัฐธรรมนูญ ม.256)
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี