ประกาศิต‘บิ๊กป้อม’ยันคุมอยู่
ยกเครื่องพปชร.ไร้คลื่นใต้น้ำ
พท.โวยทีมกฎหมายรัฐสภา
ตีตกร่างแก้ไขรธน.ฝ่ายค้าน
งงเอาแค่บางส่วนมาตีความ
“บิ๊กป้อม” มาแล้ว ประกาศอย่างมั่นใจปรับโครงสร้าง พปชร.ไร้คลื่นใต้น้ำ ลั่น“ผมยังอยู่ ไม่มีปัญหาเด็ดขาด” ทั้งย้ำเปลี่ยนเลขาฯไม่เกี่ยวปรับครม. ขณะที่พรรคเพื่อไทยกุมขมับหลังทีมกฎหมายสภาตีตกร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปลุกแนวคิดร่วมคิดทำกฎหมายสูงสุดฉบับประชาชน
เมื่อวันที่ 19 มิถุนายน 2564 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เปิดเผยภายหลังที่ประชุมใหญ่สามัญประจำปี พปชร.เลือกกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ ที่มีตนเองเป็นหัวหน้าพรรคอีกสมัยและร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ขยับ เป็นเลขาธิการพรรคฯคนใหม่ จะมีความขัดแย้งอีกหรือไม่ว่า“ไม่มีหรอก ไม่มีอะไรเลย”
เมื่อถามย้ำว่า จะไม่มีแรงกระเพื่อมภายในพรรคอีกแล้วใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร ก็ยังยืนยันว่า“ไม่มี เพราะการปรับเปลี่ยนคณะกรรมการบริหารพรรคครั้งที่แล้ว ก็ไม่มีแรงกระเพื่อมอะไร มีแต่สื่อที่เขียนกันเอง” พร้อมกล่าวย้ำอีกครั้งว่า “ไม่มี ผมยังอยู่ ไม่มีอะไรหรอก”
เมื่อถามว่า มีการเปลี่ยนเลขาธิการพรรค จะทำให้มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามมาด้วยหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เป็นคนละเรื่องกัน เปลี่ยนกรรมการบริหาร เป็นเรื่องของพรรค จะเกี่ยวกับการปรับ ครม.ได้อย่างไร ส่วนที่ไม่ได้เข้าร่วมประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคพลังประชารัฐ เนื่องจากได้ลาออก จากเป็นหัวหน้าพรรคแล้ว จึงต้องให้ที่ประชุมใหญ่เลือก กก.บห.ชุดใหม่ก่อนเท่านั้น
จุรินทร์ชี้ไม่ควรปรับครม.ช่วงนี้
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(ปชป.) ปฎิเสธที่จะแสดงความเห็นถึงการปรับทัพในพปชร. และตอบไม่ได้ว่า พปชร. จะส่งสัญญาณอย่างไร แต่สำหรับ ปชป.นั้นเห็นว่าหากการเมืองไม่นิ่ง การแก้ปัญหาเศรษฐกิจก็ได้รับผลกระทบรวมทั้งโควิดด้วยซึ่งต้องแก้ควบคู่กันไป การที่จะทำให้การเมืองนิ่งนั้น ปชป.จะเป็นพรรคหนึ่ง ที่จะไม่ทำให้การเมืองเกิดปัญหากระเพื่อมโดยไม่จำเป็น ยกเว้น กระทบเงื่อนไขสำคัญที่เคยพูดกันไปแล้ว ระหว่างนี้เราจะพยายามทุกวิถีทางในการที่จะช่วยทำให้การเมืองเดินหน้าแก้ปัญหาโควิด เศรษฐกิจไปได้ และเราจะทำหน้าที่ของเราให้เต็มกำลังความสามารถ เพื่อให้ทุกอย่างคลี่คลายไปได้ภายใต้ความรับผิดชอบในส่วนของกระทรวงพาณิชย์
หนุนเดินหน้าแก้รธน.
นายจุรินทร์กล่าวอีกว่าเรื่องที่จะทำให้การเมืองนิ่งได้ ไม่มีผลกระทบโดยไม่จำเป็นก็คือการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะการแก้ไขรัฐธรรมนูญไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้น จะเป็นตัวช่วยอีกตัวหนึ่งที่ไม่ทำให้มาเป็นเงื่อนไขทำให้การเมืองมีปัญหา ฝ่ายบริหารจะได้มีเวลาไปทุ่มเทกับการแก้ปัญหาโควิดและเศรษฐกิจได้อย่างเต็มที่ต่อไปซึ่งเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญนั้น ปชป. ก็ยืนยันว่าเราสนับสนุนและเห็นด้วยกับการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อนำประเทศไปสู่ความเป็นประชาธิปไตยยิ่งขึ้นโดยไม่กระทบกับหมวด1 หมวด 2ที่ว่าด้วยรูปแบบการปกครองประเทศและสถาบันพระมหากษัตริย์
ย้ำไม่มีใครตอบได้อยู่ครบเทอม
เมื่อถามว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่า จะอยู่ครบเทอมหรือไม่ครบเทอมนั้นจะอยู่ที่ข้อเท็จจริง ไม่มีใครตอบได้ล่วงหน้า ทุกรัฐบาลเวลามีการยุบสภาหรือมีเหตุเปลี่ยนแปลงทางการเมืองก็ไม่ได้รู้ล่วงหน้าเช่นเดียวกันยกเว้นมีความประสงค์ตั้งใจไว้ตั้งแต่ต้น เช่นยุคสมัยท่านชวน2ที่เป็นรัฐบาลซึ่งได้ประกาศว่ารัฐบาลจะอยู่ไม่ครบเทอม ก่อนครบเทอม1-2 สัปดาห์ ท่านก็ยุบสภาตามคำพูด อันนั้น กำหนดไว้ล่วงหน้า แต่หลายกรณี จะไม่อยู่ในเงื่อนไขที่ใครจะไปเตรียมการไว้ล่วงหน้าได้เต็มร้อยเปอร์เซ็นต์
อย่าสร้างปมขัดแย้งโดยไม่จำเป็น
“สถานการณ์ ณ เวลานั้นและเงื่อนไขอื่นๆทางการเมืองก็จะมีผลในการที่จะให้คำตอบว่าการเมือง จะไปได้แค่ไหน รัฐบาลจะอยู่สั้น อยู่ยาวแค่ไหนแต่สำคัญคือถ้าประสงค์จะมีเวลาในการแก้ปัญหาโควิด เศรษฐกิจ รัฐบาลก็ต้องไม่ไปสร้างเงื่อนไขในการที่จะนำไปสู่การเกิดปัญหาทางการเมืองโดยไม่จำเป็น ซึ่งเป็นเรื่องที่ควรจะขีดเส้นใต้ไว้”นายจุรินทร์ ย้ำ และเมื่อถามย้ำว่าสถานการณ์ปัจจุบันไม่ควรจะปรับ ครม. ใช่หรือไม่ นายจุรินทร์ ไม่ตอบแต่ระบุเพียงว่า“สิ่งที่พูดทั้งหมดก็ชัดพอสมควรแล้ว”
ปชป.ไม่หวั่น‘ธรรมนัส’นั่งเลขาฯ
ด้านนายราเมศ รัตนะเชวง โฆษก ปชป. กล่าวว่าคงไม่ก้าวล่วงถึงการปรับทัพใน พปชร.และเราก็ทำหน้าที่ของเรา ถ้าหากมีการยุบสภา เลือกตั้งใหม่ ถึงตอนนั้น เราก็สู้เต็มที่ไม่ว่า พปชร.จะมีใครเป็นเลขาธิการพรรค เมื่อมีการเลือกตั้ง ก็ต้องเข้าสู่ครรลองประชาธิปไตย
เมื่อถามว่าประชาธิปัตย์กังวลเรื่องพื้นที่หรือไม่ โดยเฉพาะในพื้นที่ภาคใต้ ล่าสุดร.อ.ธรรมนัสก็สามารถพา ส.ส.พปชร.ชนะมาได้ นายราเมศ กล่าวว่า เราไม่ได้กังวล เพราะปกติร.อ.ธรรมนัส ก็ดูแลเรื่องการเลือกตั้งอยู่หลายเขต เป็นที่ทราบกันดี เราพร้อมต่อสู้ในระบอบในระบอบประชาธิปัตย์อยู่แล้ว ส่วนว่าอาจเกิดเทศกาลดูดส.ส.เข้าพรรคนั้น ก็ไม่สามรถตอบได้ ในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่มีว่า พรรคพลังประชารัฐ จะมาดึงตัวไปอยู่ด้วย เราอยากเห็นการเมืองที่พัฒนาไปเป็นประชาธิปไตยมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การทำงานการเมืองต้องทำแบบตรงไปตรงมาก็จะเป็นผลดีที่สุด
“ยืนยันพรรคก็เดินหน้าเต็มที่ไม่กังวลว่าจะยุบสภาในเวลาใด เราพร้อมที่จะเข้าสู่โหมดการเลือกตั้ง เพราะขณะนี้พรรคมีความเคลื่อนไหว มีการจัดตั้งตัวแทนสาขาพรรค ไว้แล้วประมาณ 323 เขต จาก 350 เขต และนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯและรมว.พณิชย์ หัวหน้าพรรคได้ทำพื้นที่โดยใช้โครงการ “จุรินทร์ออนทัวร์”ออกไปพบปะและรับฟังปัญหาประชาชน เพื่อให้ประชาชนมีส่วนร่วมกับพรรค”นายราเมศ ย้ำ
ปชป.คิวเข้มเตรียมข้อมูลถกแก้รธน.
นายราเมศ ยังแถลงถึงการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่จะเข้าสู่ที่ประชุมรวมรัฐสภาในวันที่22-24มิ.ย.นี้ซึ่งพรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคชาติไทยพัฒนา ร่วมกันยื่นให้ประธานรัฐสภาไปแล้ว 8ร่างว่า ในวันที่ 20 มิ.ย.นี้ เวลา 13.30 น. จะมีการประชุมคณะกรรมการด้านกฎหมายของพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีนายถวิล ไพรสณฑ์ ประธานคณะกรรมการกฎหมาย เป็นประธานเพื่อจัดเตรียมข้อมูลเกี่ยวรัฐธรรมนูญให้ส.ส.นำไปอภิปายร่วมกันรัฐสภา และวันที่ 21 มิ.ย.เวลา13.30 น.จะมีการประชุม ส.ส.พรรคเตรียมความพร้อมอีกครั้ง
วอนสว.อย่าตั้งป้อมคว้ำร่างแก้รธน.
เมื่อถามว่า ส.ว.ประกาศว่าจะไม่สนับสนุนร่างแก้ไขรัฐธรรมที่ไม่ใช่ร่างของพรรคพลังประชารัฐ นายราเมศ กล่าวว่า ขอเรียกร้องให้ ส.ว.อย่าตั้งหลักว่าจะไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมสักฉบับ หรือไม่เห็นชอบฉบับใดฉบับหนึ่ง ทั้งที่ยังไม่ได้ฟังรายละเอียดและสาระสำคัญ จึงขอให้ ส.ว.ฟังเสียงประชาชนก่อนว่าได้ประโยชน์มากน้อยแค่ไหน และประชาชนเรียกร้องให้มีการแก้ส่วนใดบ้าง เมื่อรับรู้ข้อมูลครบถ้วนแล้วเชื่อว่าจะเปลี่ยนใจสมาชิกรัฐสภาได้
‘วันชัย’หนุนปิดสวิตซ์สว.โหวตนายกฯ
นายวันชัย สอนศิริ สมาชิกวุฒิสภา(ส.ว.) ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมเพื่อพิจารณาญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ ในวันที่ 23-24 มิ.ย.นี้ ว่า ตนยืนยันจุดยืนเดิมในการสนับสนุนมาตราการปิดสวิตช์ส.ว.ในการเลือกนายกรัฐมนตรี ส่วนส.ว.คนอื่นจะคิดอย่างไร สนับสนุนหรือไม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ความจริงจะมีส.ว.หรือไม่มี ส.ว.โหวตนายกรัฐมนตรีนั้น ก็ไม่อยากให้ส.ส.หรือพรรคการเมืองหลงประเด็นต่อมาตรานี้ ซึ่งจะมีมาตรานี้หรือไม่ ส.ส.ก็เป็นใหญ่อยู่แล้วตามรัฐธรรมนูญอำนาจของรัฐบาลและใครจะเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่ที่ส.ส.และพรรคการเมืองทั้งสิ้น ไม่ได้เกี่ยวกับ ส.ว.แม้จะมีสิทธิโหวตนายกรัฐมนตรี ก็จะโหวตตามที่ ส.ส.มีเสียงรวมกันได้เกินกึ่งหนึ่ง ถ้าส.ส.รวมตัวกันได้เกินกึ่งหนึ่งเช่น270-300 เสียง ส.ว.ก็จะต้องโหวตให้คนนั้นเป็นนายกรัฐมนตรีอยู่แล้ว เพราะคนจะเป็นายกรัฐมนตรีและเป็นรัฐบาลได้นั้น จะต้องมีเสียงในสภาผู้แทนราษฎรเกินกว่ากึ่งหนึ่งจึงจะบริหารประเทศได้
เชื่อไม่มีใครอยากสวนมติปชช.
“หากส.ว.โหวตคนที่มีเสียงในสภา ไม่เกินกึ่งหนึ่งหรือว่าส.ว.สวนกระแสประชาชน รัฐบาลก็จะอยู่ได้ไม่เกิน 3 เดือน กฎหมายใดเข้าสภาก็ล้ม จึงไม่อยากให้ส.ส.และพรรคการเมืองหลงประเด็นและโจมตีส.ว. และที่พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกรัฐมนตรีได้ ไม่ใช่เพราะส.ว.แต่เพราะพรรคพลังประชารัฐ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย และพรรคเล็กพรรคน้อยที่โหวตท่านส.ว.จึงโหวตตาม หาก ส.ส.รวมกันได้เกินกว่ากึ่งหนึ่ง ผมเชื่อว่าไม่มี ส.ว.คนใดที่จะขวางมติประชาชนแน่”นายวันชัย กล่าว
พท.โต้สภาไม่รับร่างแก้ม.256ตั้งสสร.
นายชูศักดิ์ ศิรินิล ประธานคณะทํางานฝ่ายกฎหมายพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่ประชุมคณะกรรมการประสานงานและเสนอความเห็นเพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัยของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร มีมติต่อร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา256ของฝ่ายค้าน เป็นร่างที่นําไปสู่การจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ยกเลิกรัฐธรรมนูญ 2560จึงมิใช่ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256ขัดต่อคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญว่า เป็นการยกเอาคําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพียงบางส่วนมาอ้างเท่านั้น ถ้าอ่านคําวินิจฉัยโดยรวมทั้งหมด ทั้งคําวินิจฉัยในปี 2555และปี 2564 ศาลรัฐธรรมนูญ มิได้ห้ามในการจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ รัฐสภาสามารถใช้บทบัญญัติว่าด้วยการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญเพื่อจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ เพียงแต่ให้ประชาชนผู้มีอํานาจสถาปนารัฐธรรมนูญ ลงประชามติเสียก่อนว่าประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ การตีความว่า ญัตติของฝ่ายค้านขัดต่อรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 เพราะมิใช่เป็นการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ จะกลายเป็นเดดล็อก ทําอะไรไม่ได้เลย จะต้องใช้รัฐธรรมนูญ 2560 ไปชั่วนิจนิรันดร
ชี้อาคำวินิจฉัยฯบางส่วนมาตีความ
“จริงอยู่รัฐธรรมนูญ 2560 บัญญัติอํานาจหน้าที่ของรัฐสภาไว้เฉพาะการแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญตามมาตรา 256เพราะคงไม่มีผู้ร่างรัฐธรรมนูญคณะใดที่จะเขียนให้จัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่ไว้ในรัฐธรรมนูญที่ร่างขึ้น การเสนอญัตติร่างแก้ไขเพิ่มเติม บวกกับวิธีการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ ก็คือร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ ยังไม่มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เกิดขึ้น ศาลรัฐธรรมนูญก็มิได้บอกว่าผิดหรือทําไม่ได้ เพียงแต่ให้ไปทําประชามติเสียก่อน การจัดทํารัฐธรรมนูญฉบับใหม่เท่านั้น คําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ มีความไม่ชัดเจน แม้คําวินิจฉัยกลางออกมา ก็ยังหาข้อยุติไม่ได้ แต่ก็ไม่ควรหยิบยกเฉพาะบางส่วนบางตอนของคําวินิจฉัยมากล่าวอ้าง ต้องพิจารณาคําวินิจฉัยโดยรวมทั้งหมด”นายชูศักดิ์ กล่าว
ปลุกถึงเวลาจัดทำรธน.ฉบับปชช.
ทั้งนี้ นายชูศักดิ์ กล่าวว่าพรรคจะขอดูเหตุผลจากประธานรัฐสภา และจะหารือกันเพื่อหาทางออกเพราะกรรมการบอกญัตติ ยังไม่ตกไป ตนเองเห็นว่าปัญหาสําคัญอยู่ที่คําวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ไม่ชัดเจนส่วนหนึ่ง แต่อยากจะเรียกร้องทุกฝ่ายว่ารัฐธรรมนูญ 2560 คือปัญหาของประเทศ และควรมีรัฐธรรมนูญของประชาชนหรือไม่ เราเคยมีรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนมาแล้ว หากอยากจะปฏิรูปการเมือง ปฏิรูปประเทศ ทางเดียวคือ จัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่โดยประชาชน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี