ดัน‘พปชร.’ตั้งรัฐบาลพรรคเดียว
หนุนบิ๊กตู่นั่งนายกฯ
‘ธรรมนัส’โวฟอร์มทีมศก.แล้ว
ลั่นไม่ดูดสส.-ถ้ามาต้องเต็มใจ
‘บิ๊กป้อม’ยืนยันยังไม่ปรับครม.
‘จุรินทร์’ไฟเขียวดับสวิตช์สว.
“ธรรมนัส”ยันเข็น“พปชร.”เป็นรัฐบาลพรรคเดียว เผยฟอร์มทีมศก.ไว้แล้ว ไม่มีสส.ปัจจุบันร่วมทีมกั๊กชื่อ“นฤมล”แจงนั่งเลขาฯพรรค กับเก้าอี้รมว.มหาดไทย คนละเรื่องกัน ย้ำหนุน“บิ๊กตู่”
นั่งนายกฯอีกสมัย ด้าน“ประธานชวน”ตรวจความพร้อมเดินหน้าประชุมร่วมสส.-สว. 22-24 มิถุนายน เข้มมาตรการเลี่ยงแออัดแน่นหนา ป้องกันเชื้อโควิดลุกลาม ย้ำไม่บรรจุญัตติตั้งส.ส.ร.เล่นตามกติกา ยึดตามข้อบังคับ-กม.เคร่งครัด ไร้ใบสั่ง กรีดเบาๆอาจไม่ได้ดั่งใจบางคนเลยออกมาโวยวาย’บิ๊กป้อม’โยนถาม’ธรรมนัส’กวาดส.ส.200คน ลั่นปรับเลขาฯพปชร.ไม่เกี่ยวปรับ ครม.ขณะที่‘จุรินทร์’หัวหน้าประชาธิปัตย์ ย้ำจุดยืนหนุนปิดสวิทส์’สว.’
เมื่อวันที่ 21มิถุนายน นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา พร้อมด้วย นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เดินทางไปตรวจดูความพร้อมของห้องประชุมพระสุริยันต์ เพื่อตรียมความพร้อมการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 22มิถุนายน เนื่องจากต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดของเชื่อไวรัสโควิดของกระทรวงสาธารณสุข
โดย นายชวน กล่าวว่า วันที่ 22มิถุนายน เป็นการประชมร่วมรัฐสภา ซึ่งมีสมาชิก 700กว่าคน จึงต้องไปดูความพร้อมห้องประชุมและแท่นการอภิปราย โดยเสริมเพิ่มขึ้นมาอีก1ที่ตรงกลางห้องและต้องขอความร่วมมือทุกคนในเรื่องสวมหน้ากากตลอดเวลาที่อยู่ในอาคารและขอร้องสมาชิกรัฐสภาว่า ผู้ที่ไม่ได้อภิปราย ไม่จำเป็นต้องอยู่ในห้อง เพื่อไม่ให้เกิดความหนาแน่น เชื่อว่าสมาชิกให้ความร่วมมือดีอยู่แล้ว
สภาเตรียมพร้อมประชุม23-24มิ.ย.
ขณะเดียวกัน ยังได้เตรียมเรื่องของการลงมติกรณีร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งมีการประชุมวันที่ 23-24 มิถุนายน รวม 13ฉบับ เพื่อให้มีประสิทธิภาพในการลงมติด้วยเวลาที่ไม่นานเกินไป โดยยึดระเบียบข้อบังคับโดยเคร่งครัด ซึ่งทุกคนจะต้องพูดทั้ง 13ฉบับว่า เห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยทุกฉบับ จากเดิมในที่ประชุมวิป 3 ฝ่าย จะใช้วิธีว่าเห็นด้วยฉบับที่เท่าไหร่บ้าง ไม่เห็นด้วยฉบับที่เท่าไหร่บ้าง เพราะเกรงคนนับคะแนนจะสับสน จึงต้องยอมเสียเวลา รวมทั้งจะมีระบบตรวจสอบบันทึกไว้ด้วย
ผูสื่อข่าวรายงานว่า การพิจารณาญัตติแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ2560 มีวาระการพิจารณา 13 ร่าง เสนอโดยพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) 1ร่าง พรรคเพื่อไทย (พท.) 4ร่าง พรรคภูมิใจไทย (ภท.) 2 ร่าง และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) 6ร่าง
ไม่บรรจุญัตติตั้งสสร.ยึดข้อกฎหมาย
นายชวน ยังกล่าวถึงกรณีไม่บรรจุญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา256 เรื่องตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ(ส.ส.ร.) ของฝ่ายค้านว่า ยืนยันว่าเคารพความเห็นของทุกคน แต่ประธานมีหน้าที่ทำตามข้อบังคับและกฎหมายโดยเคร่งครัดว่า อะไรที่บรรจุได้ อะไรที่บรรจุไม่ได้ ซึ่งก่อนจะบรรจุระเบียบวาระ สภามีวิธีปฎิบัติอยู่แล้ว โดยมีเจ้าหน้าที่กลั่นกรองและกรณีใดต้องการความมั่นใจก็จะประชุมคณะกรรมการที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ซึ่งความจริงไม่มีปัญหาอะไร เพียงแต่บางคนอาจไม่ได้ดั่งใจ จึงออกมาโวยวายหน่อย แต่โดยทั่วไปมีระบบอยู่แล้ว ประธานจะทำเป็นอย่างอื่นไม่ได้ สมมติว่าขัดต่อระเบียบและคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรม จะไปทำอย่างอื่นไม่ได้ ทุกอย่างอยู่ในกติกากฎเกณฑ์โดยเคร่งครัด โดยสุจริตและเปิดเผย ไม่มีอะไรเป็นลับลมคมใน และไม่มีใครมายุ่งหรือสั่ง ไม่ว่ารัฐบาลหรือใคร บางครั้งอาจมีบางญัตติไม่ตรงใจรัฐบาลด้วยซ้ำ เช่น ญัตติอภิปรายเรื่องการถวายสัตย์ฯ รัฐบาลเห็นว่าไม่ควรบรจุ แต่ตนก็บรรจุ เพราะเห็นว่าเรื่อนี้เป็นเรื่องที่ศาลรัฐธรรมนูญไม่ได้วินิจฉัย เป็นแค่ให้ความเห็น ยืนยันว่าทุกอย่างตรงไปตรงมา ประธานฯไม่มีสิทธิ์ทำอะไรที่ละเมิดกฎเกณฑ์ ส่วนญัตติดังกล่าวตกไปหรือไม่ ยังไม่วินิจฉัยในเรื่องนี้
‘บิ๊กป้อม’โบ้ยธรรมนัสกวาด200สส.
ด้าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) มีมติให้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ ดำรงตำแหน่งเลขาฯ จะทำให้ชนะเลือกตั้งในครั้งหน้าใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า เหตุการณ์ข้างหน้ายังไม่รู้ ส่วน ร.อ.ธรรมนัส ระบุว่า การเลือกตั้งครั้งหน้าจะได้ สส.200เสียง พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ให้ไปถามเลขาฯ คนใหม่
ไม่ปรับครม.-ยังไม่สั่งงาน’กก.บห.’
เมื่อถามว่า คนที่เป็นเลขาธิการพรรคต้องขึ้นเป็นรัฐมนตรีว่าการหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ไม่เกี่ยว เรื่องรัฐมนตรีกับเรื่องพรรคการเมืองเป็นคนละเรื่องกัน คนที่เป็นรัฐมนตรีเป็นคนที่มีความสามารถไปทำงานให้กับประชาชนและยังไม่มีการปรับคณะรัฐมนตรี (ครม.) ในตอนนี้ ส่วนการได้ ร.อ.ธรรมนัส มาเป็นเลขาธิการพรรค จะทำให้การทำงานดีขึ้นหรือไม่ ก็เป็นเรื่องที่สมาชิกเขาเลือก ตนจะไปรู้ได้อย่างไรว่าใครจะได้ เมื่อถามต่อว่าได้เลขาฯ คนใหม่ การทำงานจะคล่องตัวมากขึ้นหรือไม่ พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า ก็คล่องตัวทั้งนั้น ไม่ว่าใครก็ทำงานให้พรรคและตนยังไม่ได้มอบนโยบายให้กรรมการบริหารพรรค (กก.บห.)ชุดใหม่และวันเดียวกันนี้ ตนก็ไม่ได้เข้าร่วมการประชุม สส.พรรค เพื่อเตรียมพร้อมก่อนประชุมร่วมรัฐสภา เพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 22-24มิถุนายน เพราะเป็นเรื่องของ สส.ส่วนแนวทางพรรคจะเป็นอย่างไรนั้น ขณะนี้ยังไม่ได้ประชุม
‘ธรรมนัส’ฟอร์มทีมเศรษฐกิจไว้แล้ว
ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า รมช.เกษตรและสหกรณ์ และเลขาธิการ พปชร.ให้สัมภาษณ์กรณีจะนำ พปชร.ขึ้นเป็นพรรคอันดับหนึ่งและเป็นรัฐบาลพรรคเดียว ว่า เราต้องไปสร้างทิศทางของตัวเองในหลายเรื่อง สิ่งไหนเราทำดีแล้วจะทำต่อไป สิ่งไหนที่ยังไม่ทำจะเริ่มทำ โดยเฉพาะนโยบายที่หาเสียงไว้ปี62 มีหลายเรื่องที่ทำแล้วและหลายเรื่องยังไม่ได้ทำ ตอนนี้เหลือเวลาอีก 2ปี ต้องรีบทำ
ผู้สื่อข่าวถามว่า แสดงว่ามีการเตรียมทำนโยบายที่ยังไม่ได้ทำเอาไว้แล้วใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ที่ผ่านมาแอบเตรียมไว้บ้างแล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของความเข้มแข็งทางด้านการเมืองและเศรษฐกิจ รวมถึงการสร้างความรักความสามัคคีในสังคมไทย โดยเริ่มทำไปบ้างแล้ว เมื่อถามว่า จะเตรียมทีมเศรษฐกิจไว้ด้วยหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า แอบเตรียมไว้แล้ว แต่ยังไม่ได้เปิดเผย ซึ่งจะต้องมีการประชุมกันในสัปดาห์หน้า ขออนุญาตไม่เปิดเผย เมื่อถามว่า ทีมเศรษฐกิจของพรรคกับทีมเศรษฐกิจของรัฐบาลในอนาคต มีชื่อนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมช.แรงงาน หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่มี ส.ส.ในปัจจุบัน
ไม่ยุบสภาตอนนี้-ประชาชนเดือดร้อน
เมื่อถามว่า การเตรียมการอะไรต่างๆ ตอนนี้ ประเมินว่าจะมีการยุบสภาหลังการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า มองว่ามันไม่ใช่ เวลานี้ถ้ายุบสภาจะเดือดร้อนประชาชน โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ยังยุบสภาไม่ได้ เพราะรัฐบาลต้องบริหารประเทศให้หลุดพ้น
เมื่อถามว่า จะเร็วไปหรือไม่ที่ประกาศว่าจะจัดตั้งรัฐบาลพรรคเดียว ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเมืองไม่มีอะไรแน่นอน ต้องใช้เวลา สิ่งสำคัญที่สุดต้องทำให้ตัวเองมีความเข้มแข็ง ทำองค์กรและครอบครัว พปชร.ให้มีความเข้มแข็ง ทำให้ประชาชนมีความเชื่อมั่นว่าเราสามารถแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคง
ไม่ปรับครม.-ไม่หวังนั่งรัฐมนตรีว่าการ
เมื่อถามว่า นักวิชาการมองว่าการปรับทัพของ พปชร.ครั้งนี้ จะนำไปสู่การปรับ ครม.โดย ร.อ.ธรรมนัส เองจะขยับไปนั่งในตำแหน่งสำคัญอย่าง รมว.มหาดไทย ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นคนละประเด็นกับการปรับ ครม.เป็นหน้าที่ของผู้ใหญ่ เป็นหน้าที่ของนายกฯที่จะใช้ดุลยพินิจของตัวเองว่า จะปรับหรือไม่ปรับ ส่วนเรื่องของ พปชร.เป็นนโยบายของหัวหน้าพรรค มันเป็นคนละเรื่องกัน ส่วนตัวไม่ได้คิดอะไรไปอย่างนั้น คิดอย่างเดียวว่าวันนี้พรุ่งนี้จะทำให้ครอบครัว พปชร.โดยความร่วมมือจากสมาชิกและกรรมการบริหารพรรค ทำให้ดี เดินหน้ากันไป เพื่อชาติบ้านเมือง ดังนั้น การปรับ ครม.คงไม่ใช่
เมื่อถามว่า เรื่องเตรียมตัวเลือกตั้งได้ประสานผู้สมัครจากพรรคอื่นให้มาสมัครในนามของ พปชร.บ้างหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การเตรียมตัวผู้สมัครเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องผู้สมัครรายใหม่ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรคระบุว่า ต้องเฟ้นหาแล้ว ส่วนจะเป็น สส.ปัจจุบันหรือคนรุ่นใหม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหาที่ต้องช่วยกัน
หนุน’บิ๊กตู่’นั่งเก้าอี้นายกฯอีกสมัย
เมื่อถามว่า หาก พปชร.ชนะเลือกตั้งครั้งหน้า จะชู พล.อ.ประวิตร ขึ้นเป็นนายกฯหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า การก่อตั้ง พปชร.ต้องการให้ พล.อ.ประยุทธ์ มาเป็นนายกฯและเราก็ทำได้ ตนยืนยันว่าในสถานการณ์บ้านเมืองที่ไม่ปกติ ผู้นำต้องเข้มแข็ง เด็ดขาด ช่วงเวลานี้ไม่มีใครเหมาะสมมากไปกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ส่วน พล.อ.ประวิตร ให้นโยบายและดูแลพวกเราได้เดินตามนโยบายที่ท่านวางไว้
ไม่มีการดูดสส.-ถ้ามาต้องเต็มใจ
เมื่อถามว่าตอนนี้อยากได้คนที่มีฐานเสียงเดิมอยู่แล้วมาอยู่กับ พปชร.หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัสกล่าวว่า เวลานี้ สส.แบบแบ่งเขตเราทุกคนมีคุณภาพและลงพื้นที่ดูแลประชาชนอย่างต่อเนื่อง ส่วนเรื่องผู้สมัครรายใหม่ ทาง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและหัวหน้าพรรค ระบุว่าต้องเฟ้นหาแล้ว ส่วนจะเป็น ส.ส.ปัจจุบันหรือคนรุ่นใหม่ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการสรรหาที่ต้องช่วยกัน
เมื่อถามว่าในภาคอีสานที่เหมือนเป็นจุดอ่อนของ พปชร.ขณะนี้ได้ทาบทาม ส.ส.จากพรรคเพื่อไทยไว้บ้างหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า เป็นคนมีมารยาทในการเล่นการเมือง ถ้าไม่จำเป็นเราไม่เอา ทุกสิ่งทุกอย่างต้องมาจากความสมัครใจ แต่เลือกที่จะสร้างคนใหม่ๆ มากกว่า เมื่อถามว่าหากมีนักการเมืองพรรคอื่นย้ายเข้ามาพร้อมที่จะรับใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ต้องไม่เป็นที่ครหา ไม่เป็นข้อพิพาทระหว่างพรรค
‘จุรินทร์’ยันปชป.ไฟเขียวปิดสวิตช์สว.
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงแนวทางพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตราของพรรคปชป.โดยย้ำว่า พรรคฯสนับสนุน 8ญัตติของ 3 พรรคร่วมรัฐบาลเสนอ เพราะสส.พรรคปชป.ได้ร่วมลงชื่อเพื่อเสนอแก้ไขด้วย ส่วนร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอื่น ๆนั้นพรรคฯจะพิจารณาเงื่อนไขประกอบ ทั้งการแก้ไขให้รัฐธรรมนูญมีความเป็นประชาธิปไตยมากขึ้น และไม่แตะแก้ไขในหมวด1และหมวด 2 รวมถึงการแก้ไขเพื่อประโยชน์ของประชาชนพรรคจึงจะสนับสนุน
เมื่อถามว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา272 เพื่อตัดอำนาจการโหวตเลือกนายกฯของ สว.จะผ่านความเห็นชอบจากที่ประชุมรัฐสภาหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวยืนยันว่า พรรคปชป.พร้อมสนับสนุนการแก้ไขในประเด็นดังกล่าว เพราะสว.ไม่ได้มาจากการเลือกตั้ง ควรมีอำนาจจำกัดตามวิถีประชาธิปไตย เช่น การกลั่นกรองกฎหมาย แต่ถึงขั้นการไปโหวตเลือกนายกฯ ทั้งนี้ วันที่ 24มิถุนายน วิปรัฐบาลจะหารือร่วมกันถึงแนวทางการลงมติร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญอีกครั้ง
‘วราวุธ’แจงไม่ยุ่งสว.ให้หมดวาระเอง
นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายและยุทธศาสตร์ พรรคชาติไทยพัฒนา (ชทพ.) กล่าวถึงกระแสการแก้รัฐธรรมนูญครั้งนี้มุ่งแต่ประโยชน์นักการเมือง แต่ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์ ว่า การแก้รัฐธรรมนูญแบบไหนก็แล้วแต่ จะต้องมีคนกลุ่มหนึ่งได้รับประโยชน์และอีกกลุ่มที่เสียประโยชน์ เช่น แก้รัฐธรรมนูญเพื่อให้ระบบเลือกตั้งเป็นแบบหนึ่งใบหรือสองใบ ซึ่งแต่ละรูปแบบจะมีทั้งผู้ได้ประโยชน์และเสียประโยชน์ รวมถึงมีข้อดีและข้อด้อย ซึ่งแต่ละห้วงเวลาและสถานการณ์ของประเทศจะเปลี่ยนไปเรื่อย แต่สิ่งที่ไม่เคยเปลี่ยนคือจะมีผู้เสียประโยชน์และได้ประโยชน์จากการแก้ไขกลไกของรัฐ ซึ่งเป็นสิ่งที่เข้าใจได้ ส่วนของพรรคชาติไทยพัฒนา ก็เห็นทั้งข้อดีและข้อด้อยของบัตรเลือกตั้งหนึ่งใบและสองใบ แต่ท้ายที่สุดเสียงส่วนใหญ่ของสภาฯออกมาแบบใดเราต้องเตรียมตัวไว้รองรับทุกรูปแบบสำหรับการเลือกตั้ง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี