“แรมโบ้” ซัด “ยิ่งลักษณ์” อย่าทำตัวดราม่า ซ้ำเติมปัญหาประเทศ วิจารณ์รัฐบาลแก้โควิดล้มเหลว ทิ้งคนตายกลางถนน ย้อนชาวนาผูกคอตายถูกโกงจำนำข้าวกลับหนีคดีไปอยู่สุขสบาย ‘ธนกร’ป้อง‘บิ๊กตู่’ช่วยทุกเรื่อง ย้อน‘จิรายุ’จิตใจอำมหิตเล่นการเมืองบนความเดือดร้อนปชช. ‘พปชร.’หนุน พรรคร่วมรบ.ทุ่มเท-เสียสละ ร่วมแก้วิกฤติ ปท.สภาฯงดประชุมลุยแก้ปัญหา เปิดช่องสส.ส่งปัญหาเดือดร้อนปชช.ถึง’ปธ.ชวน’ส่งให้รบ.-หน่วยงานแก้ไข เปิด4ช่องทางให้ปชช.ร้องเรียนสารพัดทุกข์
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม 2564 นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีโพสต์เฟซบุ๊กวิพากษ์วิจารณ์การแก้ไขปัญหาโควิดของรัฐบาลล้มเหลว ไม่ได้วางแผน ทิ้งคนตายกลางถนนว่า ยืนยันว่า ไม่มีนายกฯ คนในรัฐบาลหรือใครอยาก ให้มีผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิต หรือแม้แต่มีผู้เสียชีวิตบนท้องถนนแม้แต่คนเดียว แต่นายกฯ รัฐบาล บุคลากรทางการแพทย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ไม่เคยนิ่งนอนใจที่จะแก้ไขปัญหาต่างๆอย่างสุดความสามารถ ทำเต็มที่ที่สุด หามาตรการต่างๆออกมาเพื่อที่จะให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้ได้ การทำงานของนายกฯในการแก้ไขปัญหาสถานการณ์โควิดไม่ได้ทำงานแต่เพียงผู้เดียว แต่ได้ทำงานร่วมกันกับรัฐมนตรี บุคลากรทางการแพทย์ และทุกหน่วนงานที่เกี่ยวข้องอยู่แล้วในการวางแผนแก้ไขปัญหาต่างๆ ที่เกิดขึ้น
ซัดยิ่งลักษณ์เลิกซ้ำเติมปัญหา
“น.ส.ยิ่งลักษณ์ที่หลบหนีคดีไปอยู่ต่างประเทศ มีความสุขสบาย จะไปเข้าใจในสถานการณ์ประเทศไทยและการทำงานของนายกฯรัฐบาล ได้อย่างไร การออกมาวิพากษ์วิจารณ์การทำงานของคนทำงานก็อยากถามว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์เคยทำประโยชน์อะไรให้กับประเทศบ้าง นอกจาก สร้างปัญหาให้เกิดขึ้นมากมายในขณะที่เป็นนายกฯ จนนายกฯประยุทธ์ ต้องออกมาแก้ไขปัญหาให้ แบบนี้เรียกว่าขาดวิสัยทัศน์หรือไม่
ถ้าน.ส.ยิ่งลักษณ์ อยากช่วยคนไทย ช่วยประเทศไทยให้พ้นวิกฤตจริง ขอแค่ให้เลิกออกมาแสดงความเห็นต่างๆเพราะไม่ได้สร้างประโยชน์แต่จะทำให้บุคลากรทางการแพทย์ และคนทำงานหมดกำลังใจ ทำให้ประชาชนสับสนหรืออาจทำให้เกิดความขัดแย้งยิ่งขึ้น ขณะนี้ประเทศต้องการความร่วมมืออย่างมากเพื่อให้สถานการณ์คลี่คลายลงให้เร็วที่สุด
อย่าทำตัวดราม่าให้ตัวเองดูดี
“ไม่ว่าที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ หรือ นายทักษิณ ชินวัตร จะออกมาแสดงความเห็น กล่าวหาโจมตี นายกฯ รัฐบาลในการทำงานขณะนี้ ช่วยพรรคเพื่อไทยกดดันให้นายกฯ ลาออก ให้พรรคเพื่อไทย ให้กลับมามีอำนาจ จะได้นำน.ส.ยิ่งลักษณ์ และ นายทักษิณ กลับประเทศ ตนขอย้ำว่า คงยังไม่ได้กลับ เพราะนายกฯจะอยู่แก้ไขปัญหาจนครบเทอม หากอยากกลับมาก ตนขอย้ำเช่นเดิม 2 ข้อคือกลับมารับโทษตามกระบวนการกฎหมายและชดใช้หนี้ที่เคยปล้นประชาชนไป ซึ่งน.ส.ยิ่งลักษณ์ กรุณาอย่าดราม่า ให้ตัวเองดูดี เพื่อด้อยค่าคนอื่น ในอดีตที่ชาวนาถูกโกงค่าข้าว จนผูกคอตายไปหลายราย เป็นหนี้เป็นสินจนล้มละลายสิ้นเนื้อประดาตัว ทำไมน.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่แสดงความห่วงใจสะเทือนใจ หันมาเหลียวแลครอบครัวชาวนาเหล่านั้นบ้างหรือลืมชาวนาที่ถูกโกงเหล่านั้นไปจากใจเสียแล้ว”นายเสกสกล กล่าว
‘ธนกร’ป้อง‘บิ๊กตู่’สวนกลับ‘จิรายุ’
นายธนกร วังบุญคงชนะ เลขานุการรัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะโฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์เศรษฐกิจ(ศบศ.)กล่าวถึงกรณีที่นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ สส.กทม.พรรคเพื่อไทย ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาล องค์กรอิสระ องค์กรอัยการ รัฐวิสาหกิจ องค์กรมหาชนและกองทุน กล่าวหารัฐบาลใจดำ อำมหิต ผลักภาระให้ประชาชน พร้อมเรียกร้องให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม สั่งรัฐวิสาหกิจแบ่งเบาภาระประชาชนว่า นายจิรายุไม่เคยเปลี่ยนเลยขนาดขึ้นชั้นเป็นประธานกรรมาธิการฯแล้ว แต่ยังใส่ร้ายรัฐบาลแบบหน้าตาเฉย
“ยืนยันว่าสิ่งที่นายจิรายุพูด ไม่เป็นความจริง รัฐบาลช่วยเหลือประชาชนทุกเรื่อง ไม่เคยผลักภาระให้ประชาชนไม่ว่าจะเป็นการลดค่าน้ำค่าไฟ 2 เดือน การดูแลค่าเทอมให้นักเรียนนักศึกษา การเยียวยาประชาชนในจังหวัดที่ประกาศล็อกดาวน์ ไม่ว่าจะเป็นตามมาตรา 33, 39,40 การพักหนี้ให้กับผู้ประกอบรายย่อยรวมไปถึงการออกมาตรการทางการเงินการคลังในการช่วยผู้ประกอบการต่างๆ การปรับโครงสร้างหนี้ การพักหนี้ การสนับสนุนสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำฯลฯ”โฆษก ศบศ.ย้ำ
ใจอำมหิต เล่นการเมืองบนความทุกข์
นายธนกร กล่าวอีกว่า เวลานี้ไม่ใช่เวลาเล่นการเมือง แต่เป็นเวลาที่ทุกฝ่ายจะต้องช่วยเหลือบ้านเมือง คนที่อำมหิต ไม่ใช่รัฐบาล แต่เป็นนายจิรายุที่เล่นการเมืองบนความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน พล.อ.ประยุทธ์สั่งการให้หน่วยงานของรัฐช่วยเหลือประชาชนทุกเรื่อง ถ้ามีอะไรนายจิรายุก็ส่งมาได้หรือประสานนายเสกสกล อัตถาวงษ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี จะดำเนินการให้ทุกเรื่อง แต่ขอให้เป็นสิ่งที่ประชาชนต้องการ และอยากจะขอให้นายจิรายุหยุดการเมืองไว้ก่อน มาร่วมแรงร่วมใจช่วยเหลือประชาชนจะดีกว่า ที่ผ่านมานายจิรายุ ทำหน้าที่ประธานกรรมาธิการฯได้ดีมาก อย่าถอยกลับไปเลย ขึ้นลิฟต์ไปแล้ว ไม่ควรออกมาสะเปะสะปะ หน้ามืด ตามัวโจมตีรัฐบาลแบบไร้เหตุผลเหมือนนายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ให้ตัวเองต้องเสียราคา
พปชร.หนุนพรรครบ.แก้วิกฤติปท.
นายรงค์ บุญสวยขวัญ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชานายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พูดตัดพ้อระหว่างประชุมครม.เมื่อวันที่20ก.ค.ว่า“ถ้าท่านจะออกจากผมก็แล้วแต่ผมก็จะทำงานของผมต่อไป ผมไม่ทิ้งคุณ พวกคุณจะทิ้งผมก็ตามใจ”ว่าการที่ระดับนายกฯออกมาพูดในที่ประชุมครม.แบบนี้ เชื่อว่าน่าจะมีข้อมูลหรือมีสัญญาณอะไรบ้างอย่างหรือไม่ แต่ตนเชื่อว่าบริบทบ้านเมืองในยามวิกฤตครั้งนี้ รัฐบาลจะต้องรับผิดชอบร่วมกัน เพราะจะเอาวิกฤตผู้ติดเชื้อที่ตอนนี้มีจำนวนสูงขึ้นรายวันแล้ว จะมาลาออกจากการ เป็นพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อแสดงความรับผิดชอบนั้น สปิริตในสถานการณ์แบบนี้ ไม่ควรเกิดขึ้น
ถ้าสถานการณ์ปกติ ไม่มีโควิด ถือเป็นเรื่องปกติ แต่วันนี้สถานการณ์ไม่ปกติและไม่ใช่เฉพาะเมืองไทย แต่เกิดขึ้นทั่วโลก ดังนั้นสปิริตความร่วมมือร่วมแรง ทุ่มเท เสียสละและความตั้งใจในการแก้ไขปัญหาตรงนี้ ผมมองว่ารัฐบาลจะต้องเดินไปข้างหน้าด้วยกัน ถ้าเป็นผมจะไม่นำวิกฤติโควิดมาเล่นในแง่ทางการเมือง รัฐบาลและพรรคร่วมรัฐบาล ควรช่วยกันทำงาน ต้องพูดคุยหารือร่วมกันเพื่อหาข้อเสนอแนะให้กับคณะทำงานเพื่อเดินหน้าช่วยกันแก้ไขปัญหาโควิดที่มีอยู่ในขณะนี้ และหากพรรคร่วมรัฐบาลถอนตัวตอนนี้ ถือเป็นปรากฏการณ์ที่น่าอับอาย เพราะถือว่าหนีความรับผิดชอบ
ส่วนที่มีส.ส.พรรคพลังประชารัฐกับพรรคภูมิใจไทย ตอบโต้กันนั้น เป็นเรื่องปกติ การวิวาทะระหว่างนักการเมือง เป็นความคิดเห็นแบบปัจเจกบุคคล ไม่ใช่มติพรรค
สภางดประชุมแต่เดินหน้าแก้ปัญหา
ที่รัฐสภา นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาประธานสภาผู้แทนราษฎร แถลงว่าเนื่องจากมีการงดประชุมสภาฯนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ตระหนักถึงความเดือดร้อนของประชาชนที่ไม่ได้งดตามไปด้วยและน่าจะเพิ่มขึ้นเป็นทวีคูณซึ่งปกติในการประชุมสภาฯจะเห็นว่าก่อนเข้าระเบียบวาระการประชุม จะอนุญาตให้ส.ส.ปรึกษา หารือเกี่ยวกับความเดือดร้อนของประชาชนได้ ประธานสภาผู้แทนฯจะส่งเรื่องไปให้หน่วยงานของรัฐที่รับผิดชอบดังนั้นประธานสภาผู้แทนฯจึงมีดำริว่าในช่วงงดประชุมนี้ปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนยังคงได้รับการแก้ไข จึงให้ส.ส.สามารถส่งปัญหาความเดือดร้อนมายังประธานสภาผู้แทนฯได้ทางไปรษณีย์โดยส่งมา ที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ถ.สามเสน เขตดุสิต กรุงเทพฯ10300 หรือทางสื่ออิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งทางสภาฯจะแจ้งรายละเอียดไปยังส.ส.ให้ทราบช่องทางเหล่านี้ และปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่ได้รับมา จะส่งไปยังรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเหมือนเดิมทุกประการ ส่วนเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนที่ สส.ต้องการตั้งกระทู้ถามเพื่อให้ตอบในราชกิจจานุเบกษาสามารถส่งทางไปรษณีย์ถึงประธานสภาผู้แทนฯช่องทางเดียวเท่านั้น ถ้าเป็นกระทู้ถามทั่วไปที่ให้ตอบในห้องประชุมสภาฯหรือให้ตอบในห้องกระทู้ถามแยกขอให้มายื่นในวันที่มีการประชุม
เปิด4ช่องทางปชช.ร้องสารพัดทุกข์
นพ.สุกิจกล่าวว่าส่วนประชาชนที่มีเรื่องราวร้องทุกข์ขอความกรุณา ยังไม่ต้องเดินทางมาที่สภาฯแต่จะมีช่องทางให้ร้องเรียน 4ช่องทางคือ1.โทรศัพท์ เบอร์ 02-242-5900 ต่อ 25041หรือโทรสาร 02-206-6505 ช่องทางที่2.ส่งทางไปรษณีย์ มาที่สำนักเลขาธิการสภาฯ 3.เว็บไซต์ https://www.parliament.go.th/help และ 4.อีเมล help@parliament.go.th โดยเรื่องที่ส่งมาจะได้รับการแก้ไขต่อไป จึงจะเห็นว่าแม้สภาฯจะงดประชุมก็ไม่ได้งดการทำงานโดยสิ้นเชิง ก็ยังแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้ประชาชนตามปกติ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี