มีการเปลี่ยนแปลงแน่! “เพื่อไทย” โหมโรงยื่นซักฟอกส.ค.นี้ พุ่งเป้าเชือด “3 ป.” บริหารล้มเหลว-โกง โวงานนี้ “พรรคร่วมรัฐบาล” คิดหนักแน่หากโหวตไว้วางใจ ขยี้ซ้ำลุยยื่น “ป.ป.ช.” ซ้ำดาบสอง
เมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2564 นายประเสริฐ จันทรรวงทอง ส.ส.นครราชสีมา เลขาธิการพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวถึงกรณีที่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ระบุ จะเปิดการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ในวันที่ 18-20 ส.ค.นี้ พรรคร่วมฝ่ายค้านจะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลเมื่อไหร่ ว่า เป้าหมายเดิมยื่นภายในเดือนส.ค. ขณะนี้ได้รวบรวมข้อมูลไว้ส่วนหนึ่งแล้ว และได้ข้อมูลเพิ่มเติมจากที่ประชาชนส่งมาให้เพิ่มเติม ยืนยันว่าการปภิปรายครั้งนี้เราให้ความสำคัญเป็นพิเศษ ยอมรับว่า เนื่องด้วยสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 อาจจะทำให้การดำเนินการในเรื่องนี้สะดุดอยู่บ้าง แต่อย่างไรก็ต้องยื่นภายในสมัยประชุมสภาฯนี้ โดยเบื้องต้นวางกรอบแนวทางไว้ว่า จะยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจในรายบุคคล แน่นอนว่าต้องมีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นจำเลยที่ 1 ส่วนรัฐมนตรีรายอื่นๆ นั้น ต้องรอสรุปจากพรรคร่วมฝ่ายค้านก่อน ซึ่งเราได้มีการนัดการประชุมในสัปดาห์หน้า แต่จำนวนรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายอาจจะไม่เยอะมากนัก ประมาณ 5 คน ซึ่งยังไม่สรุปว่าเป็นใครบ้าง
นายประเสริฐ กล่าวว่า ประเด็นในการอภิปรายในครั้งนี้จะพุ่งเป้าเรื่องการบริหารราชการแผ่นดินที่ผิดพลาดล้มเหลว ที่สำคัญการบริหารราชการแผ่นดินบางอย่างส่อไปในทางทุจริต ด้วยเหตุผลทั้งหลายทั้งปวงเรามีข้อมูลที่เพียงพอ เนื่องจากการอภิปรายครั้งนี้จะเป็นการอภิปรายครั้งสุดท้ายของอายุรัฐบาลนี้ ฉะนั้นเนื้อหาที่เราอภิปรายเมื่อเปรียบเทียบกับการอภิปรายครั้งที่แล้วข้อมูลมันนิ่ง เพราเราได้อภิปรายในเรื่องถุงมืองยาง และการทุจริตในเรื่องอื่นๆ แต่คราวนี้เป็นเรื่องสถานการณ์โควิด-19 ข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา อีกทั้งยังได้ข้อมูลจากประชาชนที่ส่งมายังพรรค พท. เพิ่มเติมในการพิจารณา ดังนั้นข้อมูลในการอภิปรายจะมีการอัพเดตอยู่ตลอดเวลา
“มั่นใจว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงในทางใดทางหนึ่ง ซึ่งระหว่างยื่นอภิปรายนายกฯยุบสภาฯไม่ได้ แต่ถ้าผลการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าเสียงออกมานายกฯได้รับเสียงไม่พอ หมายถึงไม่ได้รับความไว้วางใจ นายกฯต้องออกโดยปริยาย” นายประเสริฐ กล่าว
เมื่อถามว่า ข้อมูลที่มีอยู่จะถึงขั้นที่พรรคร่วมรัฐบาลจะถอนตัวได้หรือไม่ นายประเสริฐ กล่าวว่า ตนคิดว่าถ้าพรรคร่วมรัฐบาลได้ฟังข้อมูลแล้ว หากจะโหวตให้นายกฯก็ต้องคิดหนัก
เมื่อถามอีกว่า ข้อมูลเกี่ยวกับการ การบริหารราชการแผ่นดินที่ส่อการทุจริตจะยื่นให้กับคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) หรือไม่นั้น นายประเสริฐ กล่าวว่า เราเตรียมไว้เรียบร้อยแล้ว โดยเฉพาะเรื่องการบริหารงานที่ผิดพลาดทำให้เกิดความเสียหายอันนี้เราก็จะยื่น และที่ส่อไปในทางทุจริตเราก็จะยื่น
ด้าน นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ ข้อมูลจะเน้นไปในการทุจริต และเรื่องความมั่นคง โดยเน้นไปที่ 3 ป. โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ แต่อีก 2 ป. ไม่บอกว่าเป็นใคร ยืนยันว่ามีข้อมูลและหลักฐานชัดเจน เช่น เรื่องเรือดำน้ำ และสัญญาจีทูจีเก๊ เป็นต้น หากเปิดเผยมาเชื่อว่าประชาชนจะรับไม่ได้ ท่ามกลางประชาชนกำลังอดอยากหิวโหย และมีผู้เสียชีวิตอยู่ทุกวัน
เมื่อถามว่า กรณีของอีก 1 ป. คือ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ซึ่งการปรายไม่ไว้วางใจครั้งที่แล้ว ถูกพรรคก้าวไกลปฏิเสธยื่นรายชื่อผู้ถูกอภิปราย โดยครั้งนี้จะมีปัญหากันภายในพรรคร่วมฝ่ายค้านหรือไม่ นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า อยู่ที่ข้อมูลในการอภิปราย ไม่ได้ขึ้นอยู่กับว่าจะเป็นพรรคการเมืองใด ถ้าข้อมูลถึงจริงก็ต้องว่ากันไปตามเนื้อผ้า เพราะมันมีความสัมพันธ์กัน อย่างกรณีเช่นกรณีเรือดำน้ำ ถามว่าพล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร มีความเกี่ยวข้องในเรื่องนี้หรือไม่ ถ้าบอกว่าจะอภิปรายแค่พล.อ.ประยุทธ์ แต่ไม่อภิปรายพล.อ.ประวิตร มันเป็นไปได้หรือไม่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี