กมธ.งบฯ65ซีกฝ่ายค้าน จ้องรอดูเอกสารกองทัพเรือเย็นนี้ ก่อนเคาะให้ผ่านหรือไม่ ขณะที่ฝั่งรัฐบาลซัดกลับเล่นการเมืองมากเกินไป คาดถกงบฯ ทร.ดุเดือด
เมื่อวันที่ 29 กรกฎาคม 2564 ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2565 แถลงว่า การประชุมวันนี้เป็นการรับทราบการแปรญัตติของสมาชิก และรับทราบรายงายผลการพิจารณาของคณะอนุ กมธ.ทั้ง 9 ซึ่งในส่วนของคณะอนุ กมธ.ฝึกอบรม สัมมนา ประชาสัมพันธ์ ให้ข้อสังเกตต่อสำนักงบประมาณ เรื่องการจัดอบรม สัมมนา ของหน่วยงายต่างๆ ที่จัดทำงบเข้ามาโดยไม่ได้มีการปรับเพื่อรับสถานการณ์ต่างๆ แต่ยังใช้การสัมมนาแบบพบปะกัน จึงให้ข้อสังเกตว่าถ้าจะอบรม สัมมนา จะปรับเป็นรูปแบบอื่นได้หรือไม่
ส่วนงบประมาณของคณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์และไอซีที ล่าสุดช่วงเย็นวันนี้ (29 ก.ค.) กองบัญชาการกองทัพเรือจะส่งเอกสารมาชี้แจง ซึ่ง กมธ.ในส่วนของฝ่ายค้านจะระดมคนเข้าร่วมประชุม เพื่อพิจารณาความจำเป็นในการจัดซื้อ เช่น เรือดำน้ำที่นายกรัฐมนตรี ให้ถอนออกไปก่อน เราก็จะพิจารณาว่าเมื่อถอนเรื่องเรือดำน้ำออกไปแล้วจะเอาเงินไปทำอะไร หรือแม้แต่อากาศยานไร้คนขับหรือโดรน และฐานทัพท่าเรือดำน้ำ ยังมีความจำเป็นแค่ไหน ซึ่งกมธ.ในส่วนของฝ่ายค้านจะก็ฟังก่อน จึงจะตัดสินใจว่าจะให้ผ่านหรือไม่ ทั้งนี้ การพิจารณาของคณะกมธ.งบฯ จะดำเนินการต่อไปให้แล้วเสร็จก่อนวันที่ 18 ส.ค.นี้ เนื่องจาก นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ได้กำหนดวันประชุมสภาฯ เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ ระหว่างวันที่ 18 - 20 ส.ค.นี้
นายจิรายุ กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ยังมีเรื่องที่นายศักดา วิเชียรศิลป์อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล แจ้งความหมิ่นประมาทตนไว้ที่ สภ.สายบุรี จ.ปัตตานี ซึ่งตนจะขอปกป้องการทำหน้าที่ในฐานะที่เป็นฝ่ายนิติบัญญัติ ที่ต้องติดตามตรวจสอบฝ่ายบริหาร ไม่ใช่เฉพาะกรมทรัพยากรน้ำบาดาล แต่รวมถึงทุกหน่วยงาน ซึ่งข้อมูลที่ได้จากคณะ กมธ.งบฯ จะถูกนำไปอภิปรายไม่ไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลต่อไป
ด้าน นายสรวุฒิ เนื่องจำนงค์ ส.ส.ชลบุรี พรรคพลังประชารัฐ ในฐานะโฆษกคณะ กมธ.งบฯ ปี 65 เปิดเผยว่า ภาพรวมการพิจารณารายงานของคณะอนุ กมธ.ชุดต่างๆ ไม่มีปัญหา ซึ่งการลงมติถือเป็นกระบวนการพิจารณาปกติที่ กมธ.งบฯ ชุดใหญ่ ต้องลงมติว่าจะรับหรือไม่รับรายงานของอนุ กมธ.ฯ อย่างไรก็ตาม การลงมติจากกมธ.ฝ่ายค้าน เห็นด้วยกับรายงานของอนุ กมธ.ฯ ยกเว้น กมธ.ในส่วนของพรรคก้าวไกล ที่ลงมติงดออกเสียง ซึ่งเข้าใจว่าเป็นการแสดงตามจุดยืนของพรรคก้าวไกล
นายสรวุฒิ ยังกล่าวในฐานะประธานคณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ ว่า สำหรับคณะอนุ กมธ.ครุภัณฑ์ฯ จะเป็นคณะอนุ กมธ.ท้ายสุดที่จะพิจารณา เบื้องต้นคาดว่า จะมีความดุเดือด หลังจากที่ นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย ในฐานะ กมธ.งบฯ และอนุ กมธ.ฯ ตั้งประเด็นที่จะให้กองทัพเรือแสดงเอกสารการจัดซื้อเรือดำน้ำ รวมถึงโครงการจัดซื้อเรือยกพลขึ้นบก (แอลพีดี) ก่อนจะอนุมัติเงินค่างวดเรือดำน้ำระยะที่ 1 ซึ่งเสนอขอประมาณ 1,000 ล้านบาท
"ผมมองว่าเรื่องที่กมธ.ซีกเพื่อไทย ขอให้ กมธ.งบฯ ใช้มติชี้ขาด คือการเล่นการเมืองมากเกินไป ทั้งที่ในการจัดซื้อเรือดำน้ำลำแรก กองทัพเรือได้เปิดเผยรายละเอียดแล้ว ส่วนการจัดซื้อลำที่ 2 และ 3 นั้น ยังต้องขออนุญาตจากหน่วยเหนือหน่วยงานอีกครั้ง เพราะติดเงื่อนไขที่ว่าหากเปิดเผยรายละเอียดสัญญากับบริษัทผู้ค้าก่อน อาจทำให้มีปัญหาได้" นายสรวุฒิ กล่าว
นายสรวุฒิ กล่าวยืนยันว่า สำหรับงบประมาณที่กองทัพเรือขอในส่วนเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 จำนวน 900 ล้านบาท ถูกถอนออกแล้ว เหลือเพียงการเสนอของบประมาณเพื่อชำระเงินค่างวด ประมาณ 1,000 ล้านบาท ส่วนที่นายยุทธพงศ์ ตั้งข้อสังเกตว่า ของบน้อยกว่าปี 2564 ที่ได้รับ 2,000 ล้านบาท ตนไม่เข้าใจว่าต้องการอะไร เพราะขอน้อยหรือขอมาก กลับตั้งข้อสังเกตที่เป็นปัญหาอีก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี