"นายกฯ"พร้อมแจงทุกประเด็นหลังฝ่ายค้านยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ย้ำยังมั่นใจว่าระบบสาธารณสุขของไทย เชื่องบประมาณเพียงพอทั้งแก้ปัญหาโควิดและเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบ ให้คำมั่นใช้งบประมาณอย่างรอบคอบ คำนึงถึงวินัยการเงิน การคลังเคร่งครัด
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม มอบหมาย นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามที่ผู้สื่อข่าวถามไปแทน โดยผู้สื่อข่าวถามถึงความพร้อมรับมือการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ที่ฝ่ายค้านได้ยื่นอภิปรายนายกรัฐมนตรี โดยเน้นเรื่องการบริหารสถานการณ์โควิด ที่กำลังระบาดรุนแรงในขณะนี้
ซึ่งนายอนุชา กล่าวว่า นายกฯ พร้อมที่จะชี้แจงทุกประเด็นที่สมาชิกสภา สงสัยโดยที่ผ่านมานายกฯ ได้ประชุมในส่วนที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย ทุกหน่วยงาน รวมถึงผู้ว่าราชการจังหวัดต่างๆ เพื่อหาทางควบคุมและแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด หารือทั้งในเรื่องของยา เวชภัณฑ์ต่างๆ รวมถึงวัคซีน หรือแม้แต่การจัดตั้งโรงพยาบาล อย่างเช่นที่โรงพยาบาลบุษราคัมหรือโรงพยาบาลที่กำลังจะเกิดขึ้นที่ดอนเมือง ตลอดจนการบริหารจัดการโรงพยาบาลสนาม การดูแลบุคลากรทางการแพทย์และบุคลากรด่านหน้าต่างๆซึ่งนายกได้เร่งรัดในปัญหาที่ยังคงมีอยู่ รวมถึงการดูแลผู้ป่วยให้ได้เข้ารับการรักษาโดยเร็วและยังมีเรื่องของการมี home isolation การตรวจหาเชื้อด้วยตัวเองจาก antigen test ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องพร้อมที่จะชี้แจงทุกประเด็น
นายอนุชา กล่าวว่า นอกจากนี้นายกฯ อยากให้ประชาชนและสื่อมวลชนติดตามวิธีการแก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 ในต่างประเทศด้วยก็จะเห็นวิธีการที่แตกต่างกันไป บางประเทศมีวัคซีนหลายชนิดเช่น mRNA หรือไวรัลเวกเตอร์ หรือวัคซีนเชื้อตายต่างๆแต่ทุกประเทศก็ยังคงกลับมาล็อกดาวน์เพื่อควบคุมการระบาดอีกครั้งหนึ่ง แม้ว่าจะมีวัคซีนแล้วก็ตามเพราะฉะนั้นในส่วนของประเทศไทยก็เช่นเดียวกันที่จะต้องมีมาตรการต่างๆออกมาในการที่จะควบคุมการแพร่ระบาดให้น้อยลงพร้อมกับมีเรื่องของการเยียวยาเข้ามาด้วย
นายอนุชา กล่าวว่า นายกฯ มีความมั่นใจว่าระบบสาธารณสุขของประเทศไทยยังสามารถที่จะรองรับผู้ป่วยได้หลังจากที่มีการปรับปรุงหลายส่วน จากที่มีการประเมินสถานการณ์และมีการยกระดับการควบคุมมากขึ้น
ผู้สื่อข่าวถามว่า มีความพยายามจากหลายภาคส่วนที่จะกดดันพรรคร่วมรัฐบาลให้ถอนตัว ขณะที่มีภาพนายกรัฐมนตรีร่วมพูดคุยกับแกนนำพรรคร่วมรัฐบาลแสดงให้เห็นถึงความเป็นปึกแผ่นของรัฐบาลกรือไม่ นายอนุชา กล่าวแทนนายกฯว่า นายกฯ ยังยืนยันตลอดระยะเวลาที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลต่างๆ ยังทำงานร่วมกันด้วยความเข้าใจและมีความมุ่งมั่นที่จะแก้ไขสถานการณ์โควิด ด้วยความร่วมมือของประชาชนและนายกฯ ยังได้ชื่นชม คณะแพทย์ พยาบาล บุคลากรด้านหน้าที่ยังมีความตั้งใจมุ่งมั่นที่จะดูแลรักษาประชาชนที่ติดเชื้อโควิดเป็นอย่างดี
"นายกฯ ได้ย้ำว่า อะไรที่เป็นอุปสรรคก็จะลงมาแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง โดยเฉพาะหากมีปัญหาเกี่ยวกับงบประมาณ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการจัดหาเวชภัณฑ์ การจัดตั้งโรงพยาบาลสนาม หรือดูแลบุคลากรทางการแพทย์ก็จะให้ความสำคัญเป็นพิเศษ"
เมื่อถามว่า ตอนนี้มี พ.ร.ก.เงินกู้ มาแล้ว 2 ฉบับ โดยฉบับแรกคือเงินกู้ 1 ล้านล้านบาท และฉบับที่ 2 คือ เงินกู้ 5 แสนล้านบาท จะเพียงพอหรือไม่ในขณะที่การล็อกดาวน์ยังมีการเพิ่มระยะเวลาให้มากขึ้น รวมถึงยังคงต้องมีการจ่ายเงินเยียวยาอย่างต่อเนื่องอีก นายอนุชา ตอบคำถามแทนนายกฯ ว่า นายกฯ ได้ให้คำมั่นสัญญาในเรื่องของการใช้จ่ายเงินกู้ ว่าจะใช้จ่ายอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุดโดยเฉพาะเงินกู้รอบล่าสุดคือ 5 แสนล้านบาทนี้จะอนุมัติเพื่อดูแลประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์โควิด ซึ่งงบประมาณที่ใช้เยียวยาผู้ปกครองนักเรียน นักศึกษา ทั้งภาครัฐและเอกชนโดยจะมีวงเงินอยู่ทั้งสิ้น 3.2 หมื่นล้านบาท ส่วนงบประมาณที่ใช้เยียวยาช่วยเหลือแรงงานตามมาตรการที่ล็อกดาวน์เพิ่มขึ้น จะมีวงเงินอยู่ที่ 6 หมื่นล้านบาท ดังนั้นรวมแล้ว จะใช้งบประมาณทั้งหมดรวมแล้วประมาณ 9 หมื่นล้าน ซึ่งยังเหลืองบประมาณอีก 4 หมื่นกว่าล้าน โดยนายกฯให้ความมั่นใจว่าจะดูสิ่งที่จะต้องเยียวยา หรือสิ่งที่จะต้องพยายามให้ประชาชนได้รับผลกระทบและจะมีมาตรการต่างๆออกมาอย่างต่อเนื่อง
เมื่อถามว่า ในอนาคตมีแนวโน้มที่จะกู้เงินเพิ่มหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า แล้วแต่สถานการณ์ ถ้าในอนาคตมีความจำเป็นที่จะต้องดูแลประชาชนก็คงจะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบโดยจะต้องคำนึงถึงเสถียรภาพทางการคลังและวินัยทางการเงินอย่างเคร่งครัด
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี