"นายกฯ"มอบเงินช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 พร้อมถุงยังชีพ (ถุงกำลังใจ)
เมื่อวันที่ 3 สิงหาคม 2564 นายอนุชา บูรพชัยศรี โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า เมื่อเวลา 15.00 น.ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เป็นประธานในพิธีมอบเงินช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และถุงยังชีพ (ถุงกำลังใจ) จากเงินบริจาคบัญชี "สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)" ซึ่งในช่วงที่ผ่านมาได้มีการช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ไปแล้ว จำนวน 126 ราย เป็นเงินประมาณ 4.5 ล้านบาทเศษ แบ่งเป็นบุคลากรทางการแพทย์ จำนวน 86 ราย และเจ้าหน้าที่สนับสนุน 40 ราย ในวันนี้ คณะกรรมการฯ ให้ความช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุน เพิ่มอีกจำนวน 27 ราย จำนวนเงินทั้งสิ้น 1,285,000 บาท โดยมี นายอนุชา นาคาศัย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข และนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี
นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการจัดตั้งบัญชี "สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีเพื่อรับบริจาคสนับสนุนการแก้ไขปัญหาโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19)" มีวัตถุประสงค์เพื่อช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) โดยเป็นความร่วมมือของรัฐบาล ภาครัฐ เอกชน และประชาชน โดยเป็นการช่วยเหลือเพิ่มเติมนอกจากการช่วยเหลือตามระบบราชการของแต่ละบุคคลอยู่แล้ว เพื่อเป็นขวัญกำลังแก่ผู้ปฏิบัติหน้าที่และครอบครัวที่เสียสละตนเองทำงานเพื่อประชาชนและประเทศชาติอย่างเต็มที่ รวมถึงการการมอบถุงยังชีพ "ถุงกำลังใจ" ซึ่งบรรจุเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็นแก่การดำรงชีวิต หน้ากากอนามัย และยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร สอดคล้องกับการดำเนินงาน Home Isolation ตามนโยบายของรัฐบาล สิ่งสำคัญ คือ ให้สามารถส่งสิ่งของช่วยเหลือต่างๆ และยา ให้ถึงบ้านและถึงมือประชาชนที่ได้รับผลกระทบโดยตรงอย่างรวดเร็วขึ้น
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรีขอบคุณคณะรัฐมนตรี ภาคเอกชน และประชาชน ที่ร่วมกันบริจาคเงินเข้ามา เพื่อช่วยเหลือบุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่สูญเสียและครอบครัว ซึ่งไม่มีใครต้องการให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้น คุณงามความดีที่บุคคลเหล่านั้นได้กระทำไว้ยังเป็นที่จดจำ รัฐบาลจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง รวมไปถึงการดูแลกลุ่มผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มเปราะบางในประเทศไทยด้วย
นายกรัฐมนตรี มอบเงินช่วยเหลือแก่บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่สนับสนุนที่ได้รับผลกระทบจากการปฏิบัติหน้าที่ด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) และและถุงยังชีพ (ถุงกำลังใจ) ประกอบด้วยเครื่องอุปโภคบริโภค หน้ากากอนามัยทางการแพทย์ แอลกอฮอลล์เจล และยาสมุนไพรฟ้าทะลายโจร เป็นต้น ดังนี้
1.บุคลากรทางการแพทย์และเจ้าหน้าที่ที่สนับสนุนสังกัดกระทรวงสาธารณสุข จำนวน 18 ราย รวมเป็นเงิน 1,020,000 บาท มี นายแพทย์ณรงค์ สายวงศ์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข เป็นผู้แทนรับมอบ
2.เจ้าหน้าที่สนับสนุนสังกัดกระทรวงหมาดไทย จำนวน 8 ราย รวมเป็นเงิน 250,000 บาท มีนายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย เป็นผู้แทนรับมอบ
3.เจ้าหน้าที่สนับสนุนสังกัดสำนักงานตำรวจแห่งชาติ จำนวน 1 ราย เป็นเงิน 15,000 บาท มีนายธีรภัทร ประยูรสิทธิ ปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้แทนรับมอบ
4.ถุงยังชีพช่วยเหลือครอบครัวกลุ่มเปราะบางในพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวน 6,796 ชุด รวมเป็นเงิน 6,796,000 บาท มีนางพัชรี อาระยะกุล ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นผู้รับมอบ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี