"นายกฯ"ย้ำให้ความสำคัญ EEC เดินหน้าปฏิรูปประเทศด้านเศรษฐกิจ การค้า การลงทุนทุกมิติ เพื่อวันนี้และอนาคต รองรับโลกยุคใหม่เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ
เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 4 สิงหาคม 2564 ที่ห้อง PMOC ชั้น 2 ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (กพอ.) ครั้งที่ 2/2564 (ผ่านระบบ Video Conference) ซึ่งที่ประชุม ฯ รับทราบความก้าวหน้าโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาและเมืองการบินภาคตะวันออก และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน โดยย้ำว่ารัฐบาลให้ความสำคัญกับการเดินหน้าปฏิรูปประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนในทุกมิติ
โครงการ EEC ถือเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญเร่งด่วน รัฐบาลทำงานเพื่อวันนี้และอนาคต รองรับโลกยุคใหม่และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศเพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงการพบปะหารือกับเอกอัครราชทูตหลายประเทศว่า หลายประเทศมีความสนใจที่จะมาร่วมลงทุนในประเทศไทย รวมถึงความร่วมมือในการที่จะถ่ายทอดเทคโนโลยีต่างๆ จึงขอให้ทุกหน่วยติดตามและทำให้เกิดผลเป็นรูปธรรมอย่างแท้จริง รวมทั้ง ขอให้เร่งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนทราบความถึง ผลงานและความก้าวหน้าของโครงการเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยเฉพาะประโยชน์ที่ประชาชนในพื้นที่และทั้งประเทศจะได้รับจากโครงการ EEC สำหรับแก้ไขปัญหา อุปสรรคต่างๆ ที่เกิดขึ้นของทุกหน่วยงานบูรณาการการทำงานให้เป็นไปตามกรอบกฎหมายที่เกี่ยวข้องต่อไป
นายกรัฐมนตรี ได้มอบหมายให้กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เร่งเพิ่มขีดความสามารถของแรงงานในประเทศ ให้เป็นแรงงานที่มีฝีมือสอดคล้องกับความต้องการของตลาดและการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะการดึงคนรุ่นใหม่ หรือ Start Up ที่มีความรู้ความสามารถในแต่ละด้านมาร่วมทำงานด้วย เพิ่มการจ้างงาน ทำให้คนมีรายได้เพิ่มขึ้น รวมทั้งเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทยอันส่งผลดีต่อเศรษฐกิจ GDP และเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศอีกด้วย
นายกรัฐมนตรี ขอบคุณ สทนช.และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในดำเนินการเรื่องของการจัดหาแหล่งน้ำรองรับเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) และเตรียมความพร้อมเรื่องน้ำทั้งด้านอุปโภคบริโภค การเกษตร การผลิต และอุตสาหกรรม สำหรับรองรับ EEC ในอนาคต ขณะที่การพัฒนาโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อมสามสนามบิน และการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภา ซึ่งจะส่งผลให้เกิดการพัฒนาเมืองใหม่ที่จะมีประชากรเพิ่มขึ้นให้มีน้ำเพียงพอกับความต้องการของประชาชน
อย่างไรก็ตาม การดำเนินการในเรื่องของอุตสาหกรรมต้องไม่ทำให้ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ให้มากที่สุดเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความขัดแย้งอันจะทำให้การดำเนินโครงการต่างๆ ของรัฐเกิดผลได้เร็วขึ้นและเป็นไปตามเป้าหมายที่กำหนด
นอกจากนี้ ในที่ประชุม นายกรัฐมนตรียืนยันรัฐบาลให้ความสำคัญเดินหน้าปฏิรูปประเทศทั้งด้านเศรษฐกิจ การค้าและการลงทุนในทุกมิติ โครงการ EEC ถือเป็นหนึ่งในโครงการสำคัญเร่งด่วน รัฐบาลทำงานเพื่อวันนี้และอนาคต รองรับโลกยุคใหม่และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าการลงทุนระหว่างประเทศไทยกับต่างประเทศ พร้อมกำชับทุกส่วนราชการเน้นใช้จ่ายงบประมาณต้องเป็นไปด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ เกิดความคุ้มค่าและประโยชน์สูงสุดต่อประชาชนด้วย
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี