สภาผู้แทนฯเริ่มพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณปี’65 วาระสองวันแรก “รมว.คลัง”ปธ.กมธ.งบประมาณปี’65 แจงปรับลด-โอนงบฯคำนึงแก้ปัญหา-ภารกิจโควิดเติมงบกลาง 1.6 หมื่นล้าน “กมธ.ซีกฝ่ายค้าน” อภิปรายเดือด ขู่ห้ามไปซื้ออาวุธ-ยึดวินัยการเงิน-การคลัง เอาไปช่วยสู้โควิดดีกว่าจี้ตัดงบไขมันส่วนเกิน3 กลุ่ม “อาคม” ยันเป็นไปตามวินัยเงิน-การคลัง เน้นดูแลคุณภาพชีวิตประชาชน กมธ.ยันพิจารณารอบคอบดึง 1.6 หมื่นล้านโปะ ใช้แก้ปัญหาโควิดก่อนที่ประชุมโหวตผ่านงบกลางฉลุย
เมื่อเวลา09.30น.วันที่ 18สิงหาคม ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นประธานการประชุมเพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พรบ.)งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ.2565 วาระ2 หลังคณะกรรมาธิการวิสามัญฯพิจารณาเสร็สิ้นซึ่งมีมาตรการคุมเข้มเพื่อป้องกันการระบาดโควิด-19 ด้วย ซึ่งที่ประชุมมีข้อตกลงว่าจะใช้เวลาพิจารณาต่อเนื่องเรียงลำดับเป็นรายมาตรา ตั้งแต่มาตรา 1ถึง 42ไปจนจบโดยจะเริ่มตั้งแต่เวลา09.30น.จนถึง24.00น.
ปธ.กมธ.งบฯแจงปรับลด-โอนงบ
จากนั้นนายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง ในฐานะประธานกมธ.งบประมาณฯปี65ได้สรุปรายงานต่อที่ประชุมว่าร่างพรบ.งบฯ65 วงเงิน 3.1ล้านล้านบาท กมธ.ฯปรับลด 16,362ล้านบาท สำหรับการเพิ่มงบประมาณให้งบกลาง รายการค่าใช้จ่ายบรรเทาแก้ปัญหาและเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากการะบาดของโควิด ตามจำนวนที่ปรับลดงบประมาณ การปรับลดและเพิ่มงบประมาณให้ความสำคัญ ต่อความพร้อมและศักยภาพของหน่วยงาน ผลการดำเนินงานที่ผ่านมา ภารกิจเพื่อแก้ไขปัญหาโควิด รายการจำเป็นเร่งด่วน เป็นประโยชน์กับประชาชน เพื่อให้ดำเนินการตามกรอบวงเงินงบประมาณ3.1ล้านล้านบาท ตามที่สภาฯ รับหลักการวาระแรก จากนั้นที่ประชุมเข้าสู่การพิจารณา เป็นรายมาตรา ทั้งนี้ ร่างพรบ.งบฯ65 มีจำนวน 42มาตรา โดยมีการแก้ไขทั้งสิ้น 31มาตรา สำหรับมาตราที่ไม่แก้ไข มีทั้งสิ้น 11มาตรา แต่มีกมธ.ฯสงวนความเห็นและมีส.ส.ลงชื่อแปรญัตติไว้
ถกวาระ2มาตรา4อภิปรายดุเดือด
จากนั้นมีการพิจารณามีความเข้มข้นในเนื้อหาของการอภิปราย ในมาตรา4 งบประมาณรายจ่ายฯ 3.1ล้านล้านบาท ที่ขอให้ปรับลดหลักแสนล้านบาท เนื่องจากพบการจัดสรรงบประมาณที่ไม่ตอบโจทย์การแก้ปัญหาของประเทศ รวมถึงพบการจัดงบประมาณที่ไม่เหมาะสมกับสภาพและเหตุการณ์ของบ้านเมือง
ขู่ห้ามไปซื้ออาวุธ-ยึดวินัยการเงิน
โดยนายวรวัจน์ เอื้ออภิญญกุล ในฐานะกมธ.ฯเสียงข้างน้อย อภิปรายว่า งบประมาณปี 2565 ที่ปรับลดเมื่อเทียบกับปี2564และ2563พบว่า งบที่ลดคือ งบดำเนินงานและงบประมาณเพื่อแก้ไขปัญหาให้ประชาชน รวมถึงไม่มีโครงการที่พรรคการเมืองร่วมรัฐบาลได้หาเสียงไว้กับประชาชน ตนขอปรับลด 4% หรือ 1.2แสนล้านบาท เพื่อให้รัฐบาลจัดงบเพื่อแก้ปัญหา ไม่ใช่ซื้ออาวุธ เครื่องบิน หรือสิ่งที่ไม่จำเป็น งบประมาณรอบนี้คือโอกาสสุดท้ายที่จะปรับเปลี่ยนงบเพื่อช่วยเหลือประชาชน ให้พรรคซีกรัฐบาลนำไปใช้สำหรับนโยบายที่หาเสียงเลือกตั้งกับประชาชน ที่รัฐบาลปัจจุบันไม่ได้ตั้งไว้ เพราะหากไม่ดำเนินการ คาดว่าจะมีผู้ยื่นว่าพรรคร่วมรัฐบาลทำผิดกฎหมายเลือกตั้งและนำไปสู่ศาลฏีกา
‘พิธา’จี้ตัดงบไขมันส่วนเกิน3กลุ่ม
ด้าน นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกมธ.ฯ อภิปรายให้ปรับลดงบประมาณ1แสนล้านบาท เพราะยังพบกลุ่มงบประมาณที่ไม่ตอบโจทย์การแก้ไขวิกฤต แบ่งเป็น 3กลุ่มไขมัน คือ ไขมันความมั่นคง ที่พบว่ามีงบจัดซื้ออาวุธในกระทรวงกลาโหม หรืองบซื้อปืนตำรวจ ไขมันกลุ่มก่อสร้าง เป็นงบก่อสร้างบ้านพัก, สร้างอาคาร แม้งบปี2565 จะถูกตัด 1,000ล้านบาท จากเงินทั้งหมด 1.7 แสนล้านบาท ถือว่าน้อยเมื่อเทียบกับงบสวัสดิการประชาชน เช่น งบประกันสังคม ตัด1.9หมื่นล้านบาท, งบสวัสดิการประชาชน ตัด 2หมื่นล้านบาทและไขมันที่เป็นงบพิรุธ การจัดซื้อในมูลค่าที่สูงกว่าราคาตลาด ตนเชื่อว่าหากตัดได้อีกจะประหยัดความฟุ่มเฟือยของประเทศได้อีกหลายหมื่นล้านบาท
น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล อภิปรายว่าควรปรับโครงสร้างงบประมาณให้ตอบสนองวิกฤติคือทั้งค่าใช้จ่ายบุคลากร เงินเดือนข้าราชการ คิดเป็น 40%ของงบประมาณทั้งหมด เพิ่มขึ้นทุกปี คงเพิ่มต่อเนื่องในปีงบประมาณปี66และ67แต่การจัดเก็บรายได้น้อยกว่าที่ตั้งไว้อีกไม่นานสำนักงบประมาณ จะปรับลดเงินเดือนบุคลากรภาครัฐ หากไม่รื้อโครงสร้างงบประมาณใหม่
ขุนคลังแจงเน้นดูแลคุณภาพชีวิตปชช.
จากนั้น นายอาคม ชี้แจงยืนยันต่อการปรับลดงบประมาณว่า เป็นไปตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งวินัยการเงินการคลังของรัฐ หรือหนี้สาธารณะ ทั้งนี้การจัดงบในวงเงินดังกล่าวเมื่อชะลด หรือปรับลด กมธ.ฯเน้นแก้ปัญหาพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน
“เรื่องหนี้สาธารณะต้องปรับแผนการก่อหนี้ ในแผนที่ผ่านมา โครงการหรือแผนงานที่เสนอมีปัญหาความพร้อม หรือพร้อมแต่มีปัญหาการปฏิบัติ กระทรวงการคลังที่ผมให้นโยบาย คือ ทบทวนโครงการลงทุนต่างๆ ที่ขอใช้เงินกู้ ต้องเป็นไปตามนโยบายรัฐบาล ,ประเด็นของโลก โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ มิตรต่อสิ่งแวดล้อม โครงการที่เสนอต้องเข้มงวด ไม่ใช่แค่จองชื่อไว้ นอกจากนั้นโครงการที่บรรจุแต่ล่าช้า การเบิกจ่ายต้องพิจารณากู้เท่าที่จำเป็น”นายอาคม ย้ำ
รมว.คลัง ชี้แจงว่าการกู้เงินที่ได้รับอนุมัติ ต้องทยอยและพิจารณาตลาดพันธบัตรสภาพคล่องภายในประเทศ เพื่อไม่ให้รัฐบาลแย่งเงินของเอกชน การกู้เงินต้องพิจารณาแหล่งเงินกู้ ที่ผ่านมา 98% กู้ภายในประเทศ หากต้องการให้เอกชนลงทุนอาจกระทบสภาพคล่องภายในประเทศ ทำให้ต้องพิจารณาใช้เงินกู้ต่างประเทศ หลังจากกมธ.และสส.สงวนคำแปรญัตติ อภิปรายครบแล้ว ที่ประชุมลงมติ เสียงข้างมาก 224 เสียงเห็นด้วยกับกมธ.ฯ ต่อ 40เสียง งดออกเสียง 38 เสียง
อัดงบไม่ดูสถานการณ์-โยกงบสู้โควิด
นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.กมธ.งบประมาณฯ ผู้สงวนคำแปรญัตติ พรรคเพื่อไทยขอปรับลดงบภาพรวม10% หรือ3.1แสนล้านบาท จากยอด 3.1ล้านล้านบาท เพื่อลดการขาดดุลของประเทศแต่ละหน่วยงานจัดทำงบฯแบบใช้ไม่ได้ ไม่ดูสถานการณ์ปัจจุบัน หลายหน่วยงานยังตั้งงบฯจัดอบรมสัมมนาเหมือนกับปีที่แล้ว ไม่ปรับปรุงแก้ไข เมื่อมีการตัดออก ก็โวยวายและอธิบดีบางคนก็ร้อง กระทรวงกลาโหมไม่เคยตกอันดับ1ใน5ของประเทศ ที่ได้งบฯมากสุด สุดท้ายก็ยังจัดซื้ออาวุธ ขอให้ฉายาการจัดงบปี65ว่าจัดงบเละเทะไม่สนโรคภัยของประชาชน แถมยังกู้ลั่นสนั่นเมืองตั้งแต่ระลอกที่หนึ่งจนถึงปัจจุบัน
นพ.เรวัต วิศรุตเวช สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเสรีรวมไทย อภิปรายว่างบฯ65ไม่เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันจัดทำขึ้นก่อนจะมีการระบาดโควิดระลอกที่ 3 และ 4อีกทั้งงบฯในส่วนของสาธารณสุขปีนี้ ยังลดลงอีกประกอบกับปี65ไม่ได้ตั้งงบกลางไว้ ทั้งที่ปี64 ก็มีการตั้งงบกลางไว้ประมาณ 4หมื่นล้านบาท
สภาโหวตผ่านงบกลางฉลุย
เวลา15.15น.นายวิเชียร ชวลิต ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)รองประธาน กมธ. ชี้แจงว่าในส่วนมาตรา 6 งบกลาง ปีนี้ไม่ได้มีการจัดสรรงบเพื่อแก้ปัญหาโควิด-19 เอาไว้ในส่วนนี้ จึงต้องนำงบประมาณส่วนอื่นๆจำนวน1.6หมื่นล้านบาท มาใส่ไว้ในงบกลาง เพื่อที่จะใช้แก้ปัญหาสถานการณ์โควิด-19 นอกจากนี้ ยังมีกรณีฉุกเฉินเร่งด่วนและจำเป็น ปีนี้ก็ปรับลดลงจากปีที่แล้ว ส่วนเงินที่เกี่ยวกับข้าราชการ ไม่ว่าจะเป็นค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชย ก็ได้มีการปรับลดมาแล้ว ซึ่งการตั้งงบที่เกี่ยวกับข้าราชการไว้ในงบกลาง เนื่องจากค่าใช้จ่ายบางรายการ เช่น ค่ารักษาพยาบาล และเงินชดเชย เราไม่สามารถประเมินหรือกำหนดเป็นตัวเลขที่ตายตัวให้ส่วนราชการต่างๆ ได้ ซึ่งการจัดสรรไว้ในงบกลางจะคล่องตัวต่อการบริหารจัดการมากกว่า
“ในส่วนของงบกลางมีข้อกำหนดต่างๆ ไว้แล้ว ว่าต้องใช้ในสถานการณ์ความไม่สงบเรียบร้อย ความมั่นคง ภัยพิบัติ และการบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ยืนยันว่า กมธ.ได้พิจารณาอย่างละเอียดรอบคอบแล้ว และเห็นถึงความจำเป็นในการนำงบ 1.6 หมื่นล้านบาท มาไว้ในงบกลางเพื่อแก้ไขสถานการณ์โควิด-19”รองประธานกมธ.งบฯ ย้ำ
ท้ายที่สุด ที่ประชุมสภาฯ มีมติเห็นชอบมาตรา 6 งบกลาง ตาม กมธ.เสียงข้างมาก ด้วยคะแนนเห็นด้วย 326 เสียง ไม่เห็นด้วย 52 เสียง งดออกเสียง 2 เสียง และไม่ลงคะแนน 4 เสียง
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี