เล่นตามฟอร์ม‘ก้าวไกล’ขวางสุดลิ่ม ตร.ซื้ออาวุธสงคราม 7,000กระบอก อ้างไม่ช่วยลดอาชญากรรม โยงแนวโน้มจะใช้ปราบผู้เห็นต่าง ขู่ถ้าให้ผ่านไป ระวังผู้แทนฯจะมือเปื้อนเลือด

เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 21 ส.ค.ที่รัฐสภา นายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคก้าวไกล อภิปรายมาตรา 27 งบประมาณรายจ่ายของส่วนราชการไม่สังกัดสำนักนายกรัฐมนตรี กระทรวง หรือทบวง และหน่วยงานภายใต้การควบคุมดูแลของนายกรัฐมนตรี จำนวน 37,303,062,700 บาท โดยเฉพาะโครงการจัดซื้ออาวุธสงคราม ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) ซึ่งมีอยู่3 โครงการ 1. ปืนเล็กสั้น1,000 กระบอก 2.ปืนยาว 2,000 กระบอก และ3. ปืนกลมือ 4,000 กระบอก รวม7,000 กระบอก ส่วนสาเหตุที่ต้องปรับลดงบประมาณเพราะในหลายประเทศโดยเฉพาะในสหรัฐอเมริกามีการศึกษาถึงผลกระทบการสะสมอาวุธสงครามที่เพิ่มขึ้น โดยจากการศึกษาระบุว่า นอกจากจะไม่ได้ช่วยลดอัตราการเกิด อาชญากรรมยังจะพบว่ามีแนวโน้มของการใช้ความรุนแรงใช้อาวุธสงครามเล่านั้นกับประชาชน ซึ่งที่ผ่านมาในระยะเวลา 25 ปี(2537 -2561) สหรัฐได้ซื้อปืนให้กับตำรวจจำนวน 78,619 กระบอก คิดเป็น 24 กระบอกต่อ 1 แสนประชากร ซึ่งหันกลับมาดูประเทศไทยภายใต้รัฐบาลพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เราได้ซื้ออาวุธสงครามให้กับตำรวจไปตั้งแต่ปี (2561-2565) รวม5 ปี จำนวน 80,303 กระบอก คิดเป็น 116 กระบอกต่อ 1 ประชากร ดังนั้นเมื่อเทียบกับสถิติของสหรัฐอเมริกาสรุปว่า 5 ปีที่ผ่านมาตำรวจไทยสะสมอาวุธสงครามต่อจำนวนประชากร สหรัฐอเมริกาจำนวน 5 เท่า ในระยะเวลาที่เร็วกว่า5 เท่ารวมซื้ออาวุธเยอะกว่า 25 เท่า

นายพิจารณ์ กล่าวว่า 3 โครงการนี้รวดเร็วมากหลังจากที่ผมตั้งข้อสังเกต ในอนุกรรมาธิการครุพันธ์ว่าต้องการให้ปรับลดเพราะเห็นว่าเป็นงบที่ฟุ่มเฟือย เพราะถูกตรวจสอบหรือไม่ถึงต้องรีบลงนาม เพราะกลัวไม่ได้งบประมาณ

จากนั้นนายพิจารณ์ได้เปิดคลิป เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้ใช้กระสุนยางยิงเข้าใส่ประชาชน ที่ขับมอเตอร์ไซค์ พร้อมกล่าวว่า“จะด้วยเหตุผลใดก็ตามพฤติกรรมลักษณะนี้ไม่ควรเกิดขึ้น ตำรวจไทยไม่ควรหันปืนเค้าใส่ประชาชน ตนยืนยันว่าการจะซื้อปืน7,000 กระบอกไม่ควรจะผ่านสภาไปในวันนี้ ในวันใดที่ปืนกระบอกใดกระบอกหนึ่งใน 7,000 กระบอกนี้หันเค้าใส่ประชาชนในวันนั้นเลือดจะอยู่ในมือของสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแห่งนี้ทุกคนที่เห็นชอบให้งบประมาณนี้ให้ผ่านไป”นายพิจารณ์ กล่าว