เมื่อวันที่ 26 สิงหาคม 2564 ที่อาคารเอเวอรี่มอลล์ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ พร้อมด้วยนายสมบัติ บุญงามอนงค์ หรือ บก.ลายจุด ร่วมแถลงกิจกรรม Car Mob - Call out วันที่ 29 ส.ค.ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี พร้อมกันทั่วประเทศว่า เริ่มตั้งแต่เวลา 14.00 น. หัวขบวนทางลงอุโมงค์เกษตรมุ่งหน้าวิภาวดี 15.00 น. เคลื่อนทัพทางไกล 50 กิโลเมตร งามวงศ์วาน รัตนาธิเบศร์ ราชพฤกษ์ ชัยพฤกษ์ ติวานนท์ สะพานปทุมธานี ปลายทางสวนเทพปทุมถึงที่หมายปราศรัยปิดเวทีเตรียมชุมนุมใหญ่ นอกจากนี้ยังประกวดแต่งรถ ป้ายข้อความ ภาพนิ่ง คลิปเคลื่อนขบวน กองเชียร์ข้างทางด้วย
นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า กิจกรรมครั้งนี้เดินทางระยะไกลร่วม 50 กิโลเมตร เพื่อเชื่อมต่อ กทม.และปริมณฑล กินพื้นที่ 3 จังหวัด เมื่อถึงที่หมาย จ.ปทุมธานี จะมีการปราศรัยปิดขบวนตรงนั้น เพื่อประกาศเจตนารมณ์ขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ เชื่อว่า การชุมนุมในวันที่ 29 สิงหาคมนี้จะมีประชาชนเข้าร่วมมากที่สุดตั้งแต่ทำกิจกรรมกันมา เพื่อส่งเสียงไปยังพล.อ.ประยุทธ์ และพรรคร่วมรัฐบาล ไม่อย่างนั้นฝ่ายการเมืองจะบอกว่าเป็นเพียงแค่ประชาชนกลุ่มหนึ่ง
"หลังกิจกรรมวันที่ 29 สิงหาคม จะเป็นช่วงเวลาสำคัญเชื่อมต่อระหว่างกิจกรรมในสภาและกิจกรรมนอกสภา จะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาล จะมีกิจกรรมขนาดใหญ่หลังจากนั้น อาจจะเป็นรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่คาร์ม็อบ จะเป็นการลงคะแนนไม่ไว้วางใจพล.อ.ประยุทธ์และรัฐบาลนอกสภา หากเสียงในสภายังไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ และรัฐบาลอยู่ จะเป็นเงื่อนไขในการชุมนุมใหญ่ เรากำลังสู้กับยางอายของพล.อ.ประยุทธ์ เป็นผู้นำที่สงสัยว่ามียางอายหรือไม่ คิดว่า 2 อาทิตย์น่าจะรู้เรื่อง"นายณัฐวุฒิ กล่าว
เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าการจัดกิจกรรมในวันที่ 29 ส.ค.จะเกิดการปะทะบริเวณแยกดินแดงแม้เลี่ยงเส้นทางแล้ว นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า จะมีเหตุปะทะกันที่ใดก็ตามเราห่วงใยอยู่แล้ว เพราะแนวทางหรือวัตถุประสงค์ของการเคลื่อนไหวมันไม่มีเรื่องนี้ และแสดงเจตนาโดยเปิดเผยว่าจะหลีกเลี่ยงให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ จึงขอแสดงความหวังจากตรงนี้ว่าในวันที่ 29 ส.ค. ทุกอย่างจะเริ่มต้นและจบลงด้วยความสงบเรียบร้อย หวังใจว่าจะไม่มีเหตุปะทะรุนแรงไม่ว่าจะเกิดขึ้นที่ใดก็ตามในวันนั้น หวังว่าพลังเนื้อหา สาระ หรือรูปแบบการเคลื่อนไหวในวันที่ 29 ส.ค. จะมีพื้นทีสาธารณะในทุกช่องทางสื่อสารมวลชนและสื่อออนไลน์สื่อไปถึงประชาชน และคนทั่วโลกได้อย่างเต็มที่อย่างที่ควรจะเป็น
ถามว่ามองการปะทะที่สามเหลี่ยมดินแดงในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างไร นายณัฐวุฒิ กล่าวว่า คือสถานการณ์ที่ทุกฝ่ายต้องตระหนักร่วมกันว่า ไม่ใช่สถานการณ์ที่เป็นประโยชน์ต่อฝ่ายใด ไม่ว่าจะประชาชนหรือเจ้าหน้าที่ โดยหลักการในสังคมประเทศที่เกิดเหตุปะทะกับเจ้าหน้าที่ทุกวัน จนเกือบกลายเป็นเรื่องปกติ รัฐจะปฏิเสธความรับผิดชอบไม่ได้ รัฐจะเอาชนะประชาชน โดยใช้กำลังกลางถนนทุกวันไม่ได้ เรียกร้องให้รัฐเปิดพื้นที่รับฟังเสียงจากเยาวชนให้มากขึ้น และปรับรูปแบบการปฏิบัติการลดเงื่อนไขความรุนแรงลง ส่วนผู้ชุมนุมต้องลดเงื่อนไขการปะทะลง เราจะไปก้าวก่ายก็ไม่ได้ เพราะเขาเป็นอิสระ ไม่ได้มาร่วมแนวทางเดียวกับเราตั้งแต่แรก
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี