“เลขาฯสมช.” เผยอาจไม่ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน หลังสิ้นสุดการบังคับใช้สิ้นก.ย.นี้ ชี้ พ.ร.บ.โรคติดต่อฉบับใหม่ครอบคลุม ต่างจากพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่เข้มงวด แต่ไม่ตอบโจทย์ พร้อมแปรสภาพศบค.เป็นส่วนหนึ่งในคณะทำงาน
เมื่อวันที่ 6 กันยาน 2564 เวลา 11.30 น. ที่ทำเนียบฯ พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 หรือ ศปก.ศบค. กล่าวถึงกระแสข่าวพิจารณายกเลิกพระราชกำหนดฉุกเฉิน โดยระบุว่า ทุกอย่างเป็นการเตรียมการไว้ล่วงหน้า ซึ่งนโยบายของนายกรัฐมนตรีและศบค. ให้มีการเตรียมการไว้อยู่แล้ว ซึ่งทราบดีว่า สังคมไม่สบายใจกับเรื่องนี้ ซึ่งจะเห็นว่า ห้วงเวลาที่ผ่านมาเราอยู่กับพ.ร.ก.ฉุกเฉิน แทบจะไม่รู้สึกด้วยซ้ำ เพราะใช้เฉพาะมาตรการควบคุมโรคติดต่อเท่านั้น ซึ่งก็ต้องมีวันสิ้นสุด เป็นการเตรียมการไว้เท่านั้น ส่วนจะให้สิ้นสุดเมื่อใดต้องขึ้นอยู่กับนโยบายรัฐบาล และศบค.
พล.อ.ณัฐพล ยอมรับว่ามีกฎหมายอื่น ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขพยายามปรับปรุงและพัฒนาพ.ร.บ.โรคติดต่อ ให้ตอบสนองต่อการแพร่ระบาดของโรคได้ ซึ่งหากกฎหมายนี้เสร็จสิ้นก็พร้อมที่จะมาแทนพ.ร.ก.ฉุกเฉินได้ และพร้อมที่จะปรับไปใช้พ.ร.บ.โรคติดต่อฉบับแก้ไข
ผู้สื่อข่าวถามว่า สถานการณ์ขณะนี้เป็นไปได้หรือไม่ที่จะไม่ขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ที่จะครบกำหนดในสิ้นเดือนนี้ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ถ้าสถานการณ์ทรงๆแบบนี้ก็มีความเป็นไปได้ที่จะไม่ต่อพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ซึ่งที่ผ่านมาได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนดีพอสมควร และประชาชนเองก็มีความเข้าใจบ้างแล้ว แม้จะมีภาคเอกชนหรือประชาชนส่วนหนึ่งไม่ปฏิบัติตามมาตรการ แต่ในภาพรวมถือว่าอยู่ในเกณฑ์ที่รับได้ ถ้าอยู่ในระดับนี้ต่อไป หรือดียิ่งขึ้นก็สามารถที่จะพิจารณาได้ ความจริงแล้วไม่ใช่ตัวตัดสินว่าจะใช้พ.ร.กฉุกเฉินหรือไม่ใช้ หรือสถานการณ์ก็ไม่ใช่ตัวตัดสินทีเดียว เพียงแต่เป็นปัจจัยในการพิจารณาเท่านั้น ทั้งนี้ต้องขึ้นอยู่กับนโยบายของนายกรัฐมนตรี ศบค. และรัฐบาลด้วย
ผู้สื่อข่าวถามว่า หากไม่มีพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ศบค.ต้องจบภารกิจไปด้วยหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า หากไม่ได้บังคับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ศบค. ก็ต้องจบภารกิจไป แต่ไม่ได้จบหรือหายไปจากวงจร หรทือจากระบบ อาจจะแปรสภาพเป็นระบบอื่นที่มีกฎหมายใหม่รองรับได้ ซึ่งกฏหมายใหม่ที่จะรองรับนี้ ทางรัฐบาลกำลังพิจารณาอยู่ว่าจะต้องสามารถตอบโจทย์หรือสามารถแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้นในปัจจุบันได้ เพราะเราแก้ปัญหาโควิดมาเกือบ 2 ปีแล้ว เราทราบดีว่าอะไรคือปัญหา กฏหมายทุกฉบับทางสภาและรัฐบาลต้องพิจารณาปัญหาที่เกิดขึ้นว่าเกิดจากอะไร เพราะฉะนั้นการออกกฎหมายก็ต้องรองรับและแก้ไขปัญหาต่างๆเหล่านั้นได้ ขอประชาชนอย่าเป็นห่วงว่าหากไม่มี ศบค. แล้วจะสามารถรับมือได้โควิดได้หรือไม่ ขอยืนยันว่ากฎหมายใหม่สามารถรับมือได้อย่างแน่นอน
พล.อ.ณัฐพล กล่าวด้วยว่า ขณะนี้กฎหมายใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ โดยหากระงับการบังคับใช้พ.ร.ก.ในช่วงนี้กฎหมายเก่าที่มีอยู่ไม่เพียงพอ แต่กฎหมายใหม่นั้นสามารถรองรับสถานการณ์ได้ ด้วยประสบการณ์การทำงานที่ผ่านมาตนคิดว่าเพียงพอ และบางทีอาจดีกว่าพ.ร.ก.ฉุกเฉินด้วยซ้ำ เนื่องจากพ.ร.ก.ฉุกเฉินมีแต่ความเข้ม แต่ไม่ได้ตอบโจทย์ในทุกกรณี แต่กฎหมายใหม่สามารถตอบโจทย์ได้ทุกกรณี เนื่องจากได้รับการเสนอโดยกระทรวงสาธารณสุข ซึ่งกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้ที่ทราบเรื่องดีที่สุดว่าอะไรคือปัญหาและอะไรที่ต้องแก้ไขปัญหา พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มีแต่ความแข้มแข็งแต่ไม่ได้ตอบโจทย์ และพ.ร.ก.ฉุกเฉิน เราใช้ในทุกกรณีไม่ว่าจะเป็นภัยอะไรก็ตาม แต่พ.ร.บ.โรคติดต่อฉบับแก้ไข จะตอบโจทย์ในเรื่องของโรคติดต่อ
เมื่อถามว่า หากไม่มีการขยายพ.ร.ก.ฉุกเฉินออกไป ซึ่งจะหมดในช่วงสิ้นเดือนนี้ ขณะที่กฎหมายใหม่ยังไม่แล้วเสร็จ จะทำอย่างไร เลขาฯสมช.กล่าวว่า ก็ต้องมาพิจารณากันอีกที แต่ทางรัฐบาลเองก็ยังเร่งรัดอยู่ เพราะทราบดีถึงกระแสสังคม แม้ว่าที่ผ่านมาการใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินในการในการควบคุมโรคไม่ได้มีผลกระทบอะไรต่อประชาชนมากมาย แต่ทราบดีว่าในแง่ของความรู้สึกแล้วประชาชนไม่ค่อยสบายใจกันซึ่งรัฐบาลก็ไม่ได้นิ่งนอนใจในเรื่องนี้ จึงพยายามเร่งรัดในการปรับปรุงกฎหมายใหม่ฉบับนี้ให้ทัน แต่หากถึงเวลาจริงๆแล้วไม่ทันก็ค่อยมาว่ากันอีกที แต่อย่างที่บอกว่าเป็นแผนที่เราต้องเตรียมไว้ ไม่ใช่ว่าพอทราบว่าจะมีกฎหมายใหม่มาสัปดาห์หน้าแล้วจบภารกิจเลยก็จะทำให้กระทรวงสาธารณสุขซึ่งจะต้องรับช่วงต่อเตรียมการไม่ทัน ทางศบค. หรือศปก.ศบค.ก็อยากเตรียมการเอาไว้ให้พร้อม เมื่อรัฐบาลสั่งเราก็สามารถส่งมอบได้ทันที
เพราะเพียงแค่แปรสภาพศบค.เท่านั้นเอง ส่วนรูปแบบการแปรสภาพจะเป็นอย่างไรก็คงแล้วแต่กระทรวงสาธารณสุขและทีมงานของคณะกรรมการโรคติดต่อแห่งชาติ ว่าจะใช้รูปแบบศบค.ปัจจุบันไปประยุกต์ใช้ หรือจะใช้แบบอื่นเลย
ผู้สื่อข่าวถามว่า จากการผ่อนคลายมาตรการที่ผ่านมา ประเมินแล้วว่าในการประชุมศบค.ชุดใหม่ครั้งต่อไปจะมีการคลายล็อคมากขึ้นหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า ขณะนี้ขอให้รอฟังกระทรวงสาธารณสุขเป็นผู้เสนอมาก่อน เนื่องจากต้องฟังนโยบายจากกระทรวงสาธารณสุขก่อน ที่จะต้องมาหารือร่วมกับกระทรวงอื่น พร้อมย้ำว่าต้องฟังข้อเสนอของกระทรวงสาธารณสุขเป็นหลัก
ผู้สื่อข่าวถามถึงโครงการภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ที่พบผู้ติดเชื้อจำนวนมากถึง 900 คนจะมีการทบทวนหรือไม่ พล.อ.ณัฐพล กล่าวว่า เราดูอยู่ทุกวัน ซึ่งทางศปก.ศบค.ประชุมร่วมกับทางภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์แบบวันเว้นวัน เพราะนายกฯ สั่งการให้ติดตามอย่างใกล้ชิด เนื่องจากนายกฯ ได้สั่งการให้ติดตามอย่างใกล้ชิด ซึ่งตัวเลขการติดเชื้อ 900 คน ยอมรับว่า เป็นจำนวนที่มาก แม้ว่า จะมีการเตรียมความพร้อมไว้แล้ว แต่ในแง่ของกระทรวงสาธารณสุขก็ไม่น่าหนักใจ เนื่องจากปัจจุบันจะต้องมีการปรับใช้จาก Pandemic หรือการระบาดใหญ่ เป็น Endemic หรือ การระบาดเฉพาะถิ่น ซึ่งหลายประเทศก็ปรับตามในสภาพนั้น เพราะฉะนั้นในอนาคต ตัวเลขผู้ติดเชื้อ จะไม่ใช่เรื่องความเร่งด่วนสูงสุด เพียงแต่ว่าขณะนี้ยังไม่มีการสรุปอย่างเป็นทางการ แต่ยืนยันว่าพิจารณามาตรการจะต้องพิจารณาหลายอย่างประกอบกัน ทั้งจำนวนผู้ติดเชื้อ ผู้เสียชีวิตและขีดความสามารถของจำนวนเตียงที่รองรับ และดูลักษณะของการแพร่ระบาด ว่าเป็นวงกว้างหรือเฉพาะจุด หากเป็นเฉพาะจุดสามารถควบคุมได้ก็ไม่ใช่ปัญหา
พล.อ.ณัฐพล ยังกล่าวถึงเลขาสมช. คนใหม่ว่า ยังไม่มีการนำเข้าที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาในสัปดาห์นี้ เนื่องจากอยู่ระหว่างการจัดการด้านเอกสาร ระหว่าง สมช. และ กระทรวงกลาโหม ซึ่งมีขั้นตอนมากกว่าทั่วไป เนื่องจากเป็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่ของ เพราะมีเรื่องของขั้นตอนการโปรดเกล้าฯ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี