โพลเปิดมุมมองปชช.หลัง‘อภิปรายไม่ไว้วางใจ’ กับสิ่งที่ฝากถึง‘รัฐบาล-ฝ่ายค้าน’
12 กันยายน 2564 “สวนดุสิตโพล”มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนทั่วประเทศ จำนวนทั้งสิ้น 1,306 คน (สำรวจทางออนไลน์) ระหว่างวันที่ 6-9 กันยายน 2564 หัวข้อ “คนไทยได้อะไร? จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ” เพื่อสะท้อนความคิดเห็นของประชาชนภายหลังจากที่การอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีรายบุคคลเสร็จสิ้นลง และผลลงมติผ่านทั้งคณะ แต่กระแสวิพากษ์วิจารณ์ที่มีต่อการอภิปรายยังคงเป็นประเด็นที่ได้รับการพูดถึงอย่างกว้างขวาง สรุปผลได้ ดังนี้
1. “จุดเด่น-จุดด้อย” ของ การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งล่าสุดนี้ คือ
# จุดเด่น
1. เปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลได้แสดงความคิดเห็น 55.76%
2.ฝ่ายค้านมีข้อมูลที่น่าเชื่อถือมาประกอบการอภิปราย 44.31%
3.ทำให้รู้ทันนักการเมือง 43.76%
4.ประธานชวน หลีกภัย ควบคุมการอภิปรายได้ดี 42.59%
5.เป็นการตรวจสอบการทำงานของรัฐบาล 37.80%
# จุดด้อย
1.ใช้ถ้อยคำไม่สุภาพ โต้ตอบกันรุนแรง 50.82%
2.เล่นเกมการเมืองมากเกินไป 49.26%
3.ไม่เป็นการเมืองที่สร้างสรรค์ 48.57%
4.ฝ่ายรัฐบาลชี้แจง ตอบข้อซักถามไม่ชัดเจน 46.46%
5.ประท้วงบ่อย ทำให้เสียเวลา 43.20%
2.สิ่งที่ประชาชนได้รับจากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ
อันดับ 1 เห็นการทำหน้าที่ของ ส.ส. ในสภา 45.29%
อันดับ 2 ได้รู้จักนักการเมืองแต่ละคนมากขึ้น 44.44%
อันดับ 3 เห็นจุดเด่น จุดด้อยของรัฐบาล 42.96%
อันดับ 4 เสียเวลา น่าเบื่อ 40.62%
อันดับ 5 เห็นการทำงานของฝ่ายค้าน 39.61%
3. หลังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประชาชนคิดว่าการเมืองไทยจะเป็นอย่างไร
เหมือนเดิม 54.67%
แย่ลง 36.68%
ดีขึ้น 8.65%
4. สิ่งที่ประชาชนอยากฝากถึง “ฝ่ายรัฐบาล” และ “ฝ่ายค้าน”
# ฝ่ายรัฐบาล
1.แก้ปัญหาปากท้องของประชาชน 74.31%
2.แก้ปัญหาเรื่องวัคซีน 68.79%
3.ทำงานด้วยความโปร่งใส ตรวจสอบได้ 66.90%
4.ช่วยเหลือประชาชนอย่างจริงจัง 60.99%
5.อยากให้ฟังเสียงประชาชน 52.72%
# ฝ่ายค้าน
1.ตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างจริงจัง 63.79%
2.ช่วยประชาชนที่ร้องเรียน/เดือดร้อน 58.21%
3.ควรมีหลักฐานประกอบที่ชัดเจนมากขึ้น 55.07%
4.ร่วมมือกับรัฐบาลทำประโยชน์ให้ประชาชน 54.52%
5.ค้านอย่างเหมาะสม 52.40%
นางสาวพรพรรณ บัวทอง นักวิจัย สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เปิดเผยว่า สวนดุสิตโพล มหาวิทยาลัยสวนดุสิต สำรวจความคิดเห็นของประชาชนต่อกรณี คนไทยได้อะไร? จากการ “อภิปรายไม่ไว้วางใจ” กลุ่มตัวอย่างจำนวน 1,306 คน สำรวจระหว่างวันที่ 6-9 กันยายน 2564 พบว่า ประชาชนมองว่าจุดเด่นของการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ คือ เป็นการเปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านและฝ่ายรัฐบาลได้แสดงความคิดเห็น ร้อยละ 55.76 จุดด้อย คือ มีการใช้คำไม่สุภาพ โต้ตอบกันรุนแรง ร้อยละ 50.82 สิ่งที่ประชาชนได้รับ คือ ทำให้เห็นการทำหน้าที่ของ ส.ส. ในสภา ร้อยละ 45.29 หลังการอภิปรายคิดว่าการเมืองไทยน่าจะเหมือนเดิม ร้อยละ 54.67 สิ่งที่อยากฝากบอกรัฐบาล คือ เร่งแก้ปัญหาปากท้องของประชาชน ร้อยละ 74.31 และอยากให้ฝ่ายค้านตรวจสอบการทำงานของรัฐบาลอย่างจริงจัง ร้อยละ 63.79
“การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้นับเป็นครั้งที่ 3 ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ ถึงแม้จะไม่มีการยุบสภาดังเช่นในอดีต แต่ก็ทำให้เห็นท่าทีทางการเมืองของทั้งฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะ “รอยร้าว” ที่มีอยู่ทั้งสองฝ่าย ประชาชนเองก็ได้รับรู้ข้อมูลจากการอภิปรายครั้งนี้ โดยมองว่าการเมืองไทยหลังจากนี้ก็ยังคงเหมือนเดิม จึงอยากให้รัฐบาลหันมาเร่งแก้ปัญหาปากท้องและเร่งฉีดวัคซีนที่มีประสิทธิภาพให้กับประชาชนอย่างทั่วถึง” นางสาวพรพรรณ ระบุ
ด้าน ผู้ช่วยศาสตราจารย์ กัญญกานต์ เสถียรสุคนธ์ โรงเรียนกฎหมายและการเมือง มหาวิทยาลัยสวนดุสิต ระบุว่า จากผลการสำรวจแสดงให้เห็นว่าคนไทยค่อนข้างจะชินชาต่อการคงอยู่ของรัฐบาล โดยเฉพาะอย่างยิ่งการที่ประชาชนมากกว่าครึ่งเห็นว่าการเมืองไทยน่าจะยังเหมือนเดิม ไม่มีการเปลี่ยนแปลง อีกนัยหนึ่ง คือ การสะท้อนว่าประชาชนไม่มีความเชื่อมั่นว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจจะทำให้นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีหลุดออกจากการเป็นรัฐบาลได้ เพราะอย่างไรก็ดี ท่าทีของพรรคร่วมรัฐบาลที่มีต่อนายกรัฐมนตรีก็ยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงไปในทางลบมากนัก อีกทั้งในอดีตที่ผ่านมารัฐบาลที่เผชิญกับการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต่างก็รอดพ้นจากการลงมติไม่ไว้วางใจแทบทั้งสิ้น
“จึงอาจกล่าวได้ว่าการอภิปรายไม่ไว้วางใจของฝ่ายค้านที่ผ่านมานั้น ล้วนแล้วแต่มีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงข้อมูลหรือตอบข้อคำถามที่ประชาชนสงสัย ซึ่งรัฐบาลไม่สามารถอธิบายให้คำตอบได้อย่างแจ่มชัด การนำเสนอข้อมูลในประเด็นต่าง ๆ ของฝ่ายค้าน จึงเปรียบเสมือนการฝังเมล็ดแห่งความคลางแคลงใจต่อการทำงานของรัฐบาลในใจของประชาชนเสียมากกว่า” ผู้ช่วยศาสตราจารย์ กัญญกานต์ กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี