รวบแล้ว16รายป่วน‘นางเลิ้ง’
ตร.ตังข้อหาหนัก
วางเพลิง-ก่อความวุ่นวาย
เผยตั้งแต่เริ่มจัดชุมนุมก.ค.
ถูกจับดำเนินคดีแล้ว552คน
ตำรวจนครบาลตะครุบม็อบอีก 16 คน ป่วนนางเลิ้งตั้งข้อหาหนักวางเพลิง ก่อความวุ่นวาย ฯลฯ เผยตั้งแต่มีการชุมนุมมาจับได้แล้ว 552 คน พบว่ามีการทำลายทรัพย์สินของทางราชการเป็นจำนวนมาก อาทิ ตู้จราจร 10 แห่งกล้องวงจรปิด 40 ตัว รถยนต์-จักรยานยนต์อีก 50 คันโดนทุบ เผา พังยับ จ่อปรับแผนการรับมือชุมนุมอีกครั้ง
เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.) กล่าวถึง การชุมนุมวันที่ 19 ก.ย.ที่ผ่านมามี 2 กลุ่ม คือกลุ่มของนายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ จัดกิจกรรมคาร์ม็อบโดยเริ่มที่แยกอโศก ปลายทางที่อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มีการจัดกิจกรรมปิดการจราจรใช้ผ้าดำคลุมอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย ก่อนที่เวลา 18.00 น. จะประกาศยุติการชุมนุมโดยภาพรวมถือว่าเหตุการณ์ปกติ
แต่ระหว่างการเคลื่อนขบวนเวลาประมาณ 15.15 น. ที่บริเวณหน้าประตูศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ มีรถจักรยานยนต์ของกลุ่มผู้ชุมนุมขับมาและเกิดหกล้ม ก่อนที่จะเกิดระเบิดทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บรวม 4 คน เจ้าหน้าที่อีโอดีเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ เชื่อว่าหนึ่งในผู้ที่ได้รับบาดเจ็บพกพาอาวุธระเบิดมาด้วย เมื่อรถประสบอุบัติเหตุล้มลงทำให้เกิดระเบิดขึ้น ขณะนี้ผู้บาดเจ็บทั้งหมดถูกนำตัวส่งรักษาที่โรงพยาบาลตำรวจ หากการสอบสวนพบว่าผู้บาดเจ็บพกระเบิดเข้ามาในสถานที่ชุมนุมจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืนและวัตถุระเบิด อีกส่วนหนึ่งด้วย
ส่วนกลุ่มที่ 2 คือกลุ่มทะลุแก๊ส นัดหมายกันที่สามแยกดินแดง ก่อนจะเคลื่อนมวลชนไปชุมนุมที่แยกนางเลิ้งมีการจุดพลุเพลิง พลุไฟ ประทัดยักษ์ ใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ จากนั้นมีการเผาตู้จราจรที่แยกนางเลิ้งและแยกยมราชได้รับความเสียหายและในระหว่างที่เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน กำลังตรวจสอบที่เกิดเหตุ ถูกกลุ่มผู้ชุมนุมทุบทำลายรถและเผาเอกสารราชการที่มีความสำคัญต่อคดี ขณะที่เจ้าหน้าที่ได้บังคับใช้กฎหมายจับกุมผู้ก่อเหตุได้ทั้งหมด 16 คน ดำเนินคดีข้อหาร่วมกันตั้งแต่ 10 คนขึ้นไปก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง, ต่อสู้ขัดขวางเจ้าหน้าที่ขณะปฏิบัติหน้าที่, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ และฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในการชุมนุมตั้งแต่เดือนกรกฎาคมที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันดำเนินคดีไปแล้ว 219 คดี มีผู้กระทำความผิดจำนวน 797 คน สามารถจับกุมได้แล้ว 552 คน
รอง ผบช.น. กล่าวเพิ่มเติมว่า นับตั้งแต่มีการชุมนุมของกลุ่มก่อความไม่สงบ ได้ทำลายทรัพย์สินของราชการเสียหายจำนวนมาก เป็นตู้จราจรจำนวน 10 ป้อม ระบบควบคุมสัญญาณจราจรถูกทำลายเสียหาย กล้องวงจรปิด 40 ตัว รถยนต์และรถจักรยานยนต์ เสียหาย 50 คัน ตู้ควบคุมระบบไฟ ระบบระบายน้ำระบายอากาศอุโมงค์ดินแดงได้รับความเสียหาย ทั้งหมดที่กล่าวมาเป็นภาษีของประชาชนทั่วประเทศ
ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มทะลุแก๊สและแนวร่วมได้กระจายตัวก่อเหตุไปยังพื้นที่ต่างๆ จะมีมาตรการในการรับมืออย่างไร พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวว่า จะมีการเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่โดยใช้เจ้าหน้าที่จาก สน.ต่างๆ ในเขตกรุงเทพฯ และจะมีการปรับแผนการดำเนินการ บังคับใช้กฎหมายให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น รวมทั้งการเข้าระงับยับยั้งที่อาจเกิดเหตุบานปลายซึ่งเจ้าหน้าที่จะต้องมีการปรับแผนทุกวัน ขณะเดียวกันก็จะมีการรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับกลุ่มต่างๆ ที่อยู่เบื้องหลังของผู้ชุมนุมด้วย
วันเดียวกัน นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ และโฆษกกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยอาการผู้ต้องขังคดีชุมนุมที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า ทุกคนอาการปกติ คือ นายเวหา แสนชนชนะศึก นายอานนท์ นำภา นายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษา หรือ ไผ่ ดาวดิน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ“เพนกวิน” รวมทั้ง นายอมร อมรรัตนานนท์
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี