ตร.รวบเด็กม.5
ผสมโรงม็อบทะลุแก๊ส
ยกพวกทุบตู้ไฟจราจร
ตำรวจ จัดกำลังดูแลความเรียบร้อย ม็อบนัดชุมนุม 3 วันรวด บช.น.แถลง จับกุมผู้ชุมนุม 16 คน ไม่ออกจากพื้นที่แยกดินแดง ก่อความวุ่นวาย ยิงหนังสติ๊ก-พลุไฟ-ระเบิดแสวงเครื่อง ด้าน ตร.บางรัก-สืบ 6 รวบ เด็ก ม.5 ยกพวกตระเวนทุบตู้สัญญาณจราจรหลังโดนสลายชุมนุม ขณะที่ตร.จับ‘เบนจา’แนวร่วมม็อบ ผิด ม.112 คาดโยงคาร์ม็อบ10 สิงหา
เมื่อวันที่ 24 กันยายน 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล(รอง ผบช.น.) และโฆษก บช.น.แถลงว่ากรณีที่มีการนัดหมายชุมนุมผ่านช่องทางออนไลน์ ในพื้นที่กรุงเทพมหานครซึ่งกลุ่มหลักทำการนัดหมายรวมตัวกันในห้วง วันที่ 24–26ก.ย.64 ดังนี้ ในวันที่ 24-26ก.ย.กลุ่มทะลุแก๊ส ที่สามเหลี่ยมดินแดง ส่วน วันที่ 25 ก.ย.กลุ่มทะลุฟ้า ได้นัดหมายรวมตัวโดยยังไม่มีการระบุเวลาและสถานที่ ส่วนวันที่ 26 ก.ย.กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม นัดหมาย เวลา 16.00–19.00น.ที่ลานหน้าหอศิลป์ แยกปทุมวัน
ทั้งนี้ บช.น.ขอเตือนว่ากรุงเทพมหานคร เป็นพื้นที่ที่ประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การชุมนุมหรือรวมกลุ่มทำกิจกรรมที่มีลักษณะเสี่ยงต่อการแพร่โรคจะเป็นความผิดตาม พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, ประกาศหัวหน้าผู้รับผิดชอบในการแก้ไข สถานการณ์ฉุกเฉินฯฉบับที่10 ลง 31 ส.ค.64 และ พ.ร.บ.โรคติดต่อฯอีกส่วนหนึ่ง โดยทางบช.น.ได้จัดเตรียมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยของบ้านเมืองไว้แล้ว
พล.ต.ต.ปิยะยังกล่าวว่าจากการชุมนุมในวันที่23 ก.ย.ที่ผ่านมา ของกลุ่มทะลุแก๊ส ที่แยกดินแดง เวลา19.35–21.00น.กลุ่มดังกล่าวมารวมตัวกันบริเวณฝั่งถนนมิตรไมตรี มีการขว้างปาประทัด ยิงหนังสติ๊ก ลูกแก้ว พลุไฟ ระเบิดต่างๆ อาทิ ระเบิดแสวงเครื่องเป็นระยะๆและเวลา21.05น.เจ้าหน้าที่ตำรวจประกาศ แจ้งเตือนให้ยุติการกระทำและให้ออกจากพื้นที่ดังกล่าวเนื่องจากเป็นเวลาเคอร์ฟิวแล้ว แต่กลุ่มดังกล่าวไม่ยอมเชื่อฟังและยังคงก่อความวุ่นวายต่อ
กระทั่งเวลา21.40–22.40น.เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงเข้าบังคับใช้กฎหมาย และผลักดันให้กลุ่มออกจากพื้นที่เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อย และได้จับกุมผู้กระทำผิดดังกล่าว 16 คนข้อหามั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปก่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมืองฯ,เมื่อเจ้าพนักงานสั่งให้ผู้ที่มั่วสุมเลิกแล้วไม่เลิกฯ,ฝ่าฝืนพ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ,ออกนอกเคหสถานใน เวลาห้ามตั้งแต่เวลา21.00–04.00น.ของวันรุ่งขึ้นและความผิดอื่นๆที่เกี่ยวข้อง สำหรับการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่เดือนก.ค.2564ที่ผ่านมาจนถึงปัจจุบันรวมทั้งสิ้น 223 คดี มีผู้ต้องหาทั้งหมด 825 คน ขณะนี้ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 580 คน
ขณะเดียวกันพล.ต.ต.เมธี รักพันธุ์ ผบก.น.6 สั่งการให้ พ.ต.อ.วัชรวีร์ ธรรมเสมา ผกก.สน.บางรัก พ.ต.อ.นริศ ปรารถนาพร ผกก.สส.บก.น.6 และเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก จับกุมตัว นายเป็ด (นามสมมุติ) อายุ 17 ปี ผู้ต้องหาทุบตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรพร้อมของกลางเสื้อยืดแขนสั้นคอกลมสีดำ 1 ตัว กางเกงขายาวสีครีม 1 ตัว ที่ใส่ในวันก่อเหตุ โดยสามารถจับกุมได้หน้าบ้านหลังหนึ่ง ซอยประชาอุทิศ 44 แขวงบางมด เขตทุ่งครุ
การจับกุมครั้งนี้ สืบเนื่องจาก เมื่อวันที่ 11 ส.ค. เวลาประมาณ 20.00 น.ที่ผ่านมา ตำรวจ สน.บางรัก ได้รับแจ้งว่า ตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรแยกมเหสักข์ แขวงสี่พระยา เขตบางรัก ถูกกลุ่มคนร้ายทุบ ทำลาย ทำให้กระจกแตกได้รับความเสียหาย หลังจากนั้นพนักงานสอบสวน และกองพิสูจน์หลักฐานได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณที่เกิดเหตุ และตามเส้นทางหลบหนีของกลุ่มคนร้าย รวบรวมพยานหลักฐานขออนุมัติหมายจับศาลแขวงพระนคร จากนั้นตำรวจฝ่ายสืบสวน สน.บางรัก กับ กก.สส.บก.น.6 เข้าจับกุมนายเป็ด ได้ที่หน้าบ้านหลังดังกล่าว ก่อนควบคุมตัวมาสอบปากคำที่ สน.บางรัก
จากการสอบสวนนายเป็ด ให้การรับสารภาพว่า กำลังศึกษาอยู่ชั้น ม.5 โรงเรียนดังในย่านเขตราษฎร์บูรณะ ที่ผ่านมาร่วมการชุมนุมฯ มาแล้ว 4 ครั้ง ตั้งแต่ เดือน ส.ค.-ปัจจุบัน เมื่อวันที่ 11 ส.ค. ไปร่วมการชุมนุมฯกับพวกที่รู้จักกันและนัดหมายผ่านทางออนไลน์ หลังจากได้มีการสลายการชุมนุมฯของตำรวจ ตนพร้อมเพื่อนอีก 8 คน ขับขี่รถจยย. 4 คัน หลบหนีด่านตรวจ และทุบทำลายทรัพย์สินของทางราชการ ตามเส้นทางผ่าน โดยได้ร่วมกับพวกทุบทำลายตู้ควบคุมสัญญาณไฟจราจรแยกมเหสักข์จริง เบื้องต้นแจ้งข้อหาร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.บางรัก ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเพจแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ได้โพสต์ข้อความว่า น.ส.เบนจา อะปัญ ถูกตำรวจ เข้าจับกุมตัวด้วยหมายจับ ม.112 ขณะนี้กำลังถูกนำตัวไปที่ สน.ทองหล่อ ขอให้ทุกท่านช่วยกันกระจายข่าวและติดตามข่าวอย่างใกล้ชิด
นายธวัชชัย ชัยวัฒน์ รองอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยถึงการดูแลรักษาผู้ชุมนุมทางการเมืองที่เป็นผู้ต้องขังที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ว่า เมื่อ23 กันยายน 2564 เรือนจำพิเศษกรุงเทพ มหานคร ได้ส่งตัวนายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือเพนกวิน ทำการเอกซเรย์และตรวจเพิ่มเติมอย่างละเอียด หลังมีอาการหอบ โดยผลการตรวจพบว่านายพริษฐ์ มีอาการปวดศีรษะซีกซ้ายเป็นๆ หายๆ แต่ไม่มีไข้ ไม่มีอาการพูดไม่ชัด พิจารณาให้ยารักษาไมเกรนร่วมกับยาแก้ปวดกล้ามเนื้อ ยาทานวดแก้ปวด และยาทาแผลผื่นที่ขาขณะที่สัญญาณชีพอยู่ในเกณฑ์ปกติ ส่วนโรคหอบหืดหลังใช้ยาเดิมที่รักษา พบว่าไม่มีอาการเหนื่อยหอบ จึงพิจารณาให้กลับไปสังเกตอาการที่เรือนจำ แต่หากพบอาการผิดปกติให้รีบรายงานสถานพยาบาลโดยด่วน
ด้านนายอานนท์ นำภาและนายจตุภัทร์ บุญภัทรรักษาหรือไผ่ ดาวดิน ซึ่งถูกควบคุมที่ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ไม่พบอาการเจ็บป่วย ไม่พบบาดแผนตามร่างกาย สามารถรับประทานอาหารได้ นอนหลับได้ สุขภาพโดยรวมแข็งแรงดี โดยนายจตุภัทร์ ครบกำหนดกักตัว 14 วัน เพื่อสังเกตอาการผู้ที่หายจากการติดเชื้อโควิด – 19 แล้วจึงส่งตัวเข้าควบคุมต่อเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครเรียบร้อยแล้วตั้งแต่ในเวลาเย็นของเมื่อวานนี้ เช่นเดียวกับนายภานุพงศ์ จาดนอก หรือ ไมค์ จำเลยในความผิดเกี่ยวกับความมั่นคงแห่งราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 ได้ถูกส่งตัวมายังเรือนจำพิเศษกรุงเทพฯอีกครั้ง เมื่อคืนวานนี้(23 ก.ย.) หลังศาลไม่ให้ประกันตัว ทั้งนี้ ภายหลังรับตัวเรือนจำได้ทำการซักประวัติ ตรวจสุขภาพ และให้อยู่ให้ห้องกักโรค 21 วัน ตามมาตรการป้องกันการระบาดของเชื้อโควิดของกรมราชทัณฑ์
ส่วนผู้ป่วยโควิด-19 จำนวน2ราย ที่รักษาตัวอยู่ในทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์วันนี้ได้รับรายงานว่า นายเวหา แสนชนชนะศึก เจ้าของบัญชีทวิตเตอร์“ฟ้าฝน ver.เกรี้ยวกราด”ไม่มีอาการหอบเหนื่อย ไม่มีไข้ ไม่ไอ ไม่มีน้ำมูก จมูกได้กลิ่นปกติ ลิ้นรับรสได้ สัญญาณชีพปกติ อยู่ระหว่างพักฟื้นเพื่อรอส่งกลับไปคุมขังยังเรือนจำ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี