ไปยืนพูดนะจ๊ะเพื่ออะไร! “จิรายุ”เหน็บ “นายกฯ”ไม่ต้องลงพื้นที่บ่อยคนด่าเยอะ ระวังภาพไม่สวย แนะเปิดห้องซิงเกิล คอมมานด์ สั่งการทีละภาค ไปเลย   จี้ถาม “ผู้ว่า กทม.”ลอกท่อระบายน้ำบ้างหรือไม่  เตือนคนกทม. 20 ต.ค. นำของมีค่ายกขึ้นที่สูงจะปลอดภัย

เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2564 ที่รัฐสภา นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม. พรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมในพื้นที่ต่างๆ ว่า ตนมองว่า นายกรัฐมนตรี ไม่ต้องลงพื้นที่บ่อย เพราะลงบ่อยคนก็ด่าบ่อย คนเชียร์ก็ตะโกนเชียร์ คนด่าก็ตะโกนด่า ภาพไม่สวย ท่านเคยเป็นผบ.ทบ. ตนว่า ท่านน่าจะไปเปิดห้องซิงเกิล คอมมานด์ แล้วเรียกแต่ละภาคมา ทั้งภาคเหนือ อีสาน กลาง ใต้ ประเมินสถานการณ์แล้วสั่งการไปเลย เช่น ทหารเตรียมรถหรือยัง อาหารที่จะดูแลประชาชนเตรียมพร้อมหรือยัง การไฟฟ้าส่วนภูมิภาคจะตัดไฟหรือต่อไฟพิเศษอย่างไร ไปยืนพูด “รักนะจ๊ะ” เพื่ออะไร ตนไม่เข้าใจจริงๆ แล้วก็ไปสร้างความขัดแย้ง

นายจิรายุ กล่าวต่อว่า แน่นอนวันนี้คนชอบนายกรัฐมนตรีก็มี คนไม่ชอบก็เยอะแยะ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ แต่เขาอยากฟังว่า นโยบายแก้ปัญหาของนายกรัฐมนตรีจะทำอย่างไร เขาไม่อยากฟังว่า บ้านต้องไปยกสูง เกิดมาเขาก็รู้อยู่แล้ว คนที่อยู่ จ.พระนครศรีอยุธยา ริมแม่น้ำป่าสัก ลพบุรี ชัยนาท เขาก็รู้อยู่แล้วว่า จะต้องสร้างบ้านยกสูง ไม่ต้องไปบอก สิ่งนี้เป็นปัญหา สมัยรัฐบาล น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เราเคยออกนโยบายเชื่อมแม่น้ำปิง วัง ยม น่าน เมื่อน้ำมาทางไหนก็มีประตูน้ำผันไป ในอ่าวไทยเราก็เคยเสนอว่า หากมีเขื่อนออกไปในทะเล เมื่อปิด น้ำเหนือก็จะไหลลงมากอง เมื่อน้ำลงก็ค่อยเปิดให้ไหลออกไป หากทำตั้งแต่ 10 ปีที่แล้วก็จบไปแล้ว

“นี่ยังมาพูด อดทนหน่อยนะ มันมาทุกปี รู้ แต่เขาต้องการผู้นำประเทศที่มีกึ๋น ไม่ใช่พูดอะไรไม่ถูกใจก็ไปตบกะโหลกคนแบบเมื่อวานนี้ (30 ก.ย.) ผมว่า ตลก ใจเย็นๆ หน่อยท่านนายกฯ หายใจลึกๆ” นายจิรายุ กล่าว

นายจิรายุ ยังกล่าวถึงกรณีที่ได้ไปตรวจน้ำท่วมที่เขื่อนชัยนาท จ.ชัยนาท ว่า ตนได้ถามคนที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับน้ำท่วมปี 2554 ซึ่งเป็นผู้อำนวยการเขื่อนภูมิพลว่า น้ำในปีนี้กับปี 2554 ต่างกันหรือไม่ เขาตอบว่า ต่างกันและน่ากลัว เพราะปริมาณน้ำมาเร็ว เมื่อน้ำมาไว พล.ต.อ.อัศวิน ขวัญเมือง ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ได้ลอกท่อระบายที่ไหน อย่างไรหรือไม่ ที่ผ่านมาเคยใช้กรมราชทัณฑ์ให้เอาคนที่อยู่เรือนจำไปลอกท่อ แต่ปัจจุบันนี้จ้างเอกชน แต่เอกชนก็ตัดจ้วงแค่ 2-3 ครั้งแล้วถ่ายรูปส่งหรือไม่ ซึ่งกทม.ไม่ได้มีการลอกท่อ ต่อไปนี้น้ำจะดันเมื่อมาถึงสามโคก จ.ปทุมธานี และเข้ากทม.ก็จะดันซ้ายขวา ผ่านประตูระบายน้ำที่รับแรงดันไม่ได้ก็จะดันผุดและไปท่วม รวมกับน้ำทะเลหนุนสูงด้วย ตนจึงฝากเตือนว่า กทม.อย่าไปนิ่งนอนใจ รัฐบาลไม่ต้องไปตรวจบ่อยเอาพอประมาณแล้วกลับมาวางแผนรับมือให้ดีๆ เขาบอกว่าไม่เกิน 20 วัน วันที่ 20 ต.ค.นี้ คนกทม.เตรียมตัวไว้ให้นำของมีค่ายกขึ้นที่สูงไว้ ซึ่งก็จะปลอดภัย แต่ไม่ท่วมก็ดีไป