‘ยุทธพงศ์’ฉงนปมแบ่งงานก.เกษตรฯ แซะ‘พปชร.-ปชป.’ร้าวลึก ปูด‘บิ๊กป้อม’จ่อยึดอีกกรม
3 ตุลาคม 2564 ที่พรรคเพื่อไทย (พท.) นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (กษ.)โดยเป็นความขัดแย้งระหว่างพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) และพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า อยู่ๆก็มีมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่28 กันยายน ผ่านมา ให้ 4 กรมที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรฯ เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ประกอบด้วย กรมพัฒนาที่ดิน สปก. กรมการบินและฝนหลวง และอตก. ให้ไปขึ้นตรงกับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ทั้งที่เมื่อนายกฯปรับเอารัฐมนตรีช่วย ออกไปแล้วอำนาจในการกำกับกรมต่างๆควรกลับไปอยู่ที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวง ซึ่งคือนายเฉลิมชัย ศรีอ่อน
ทั้งนี้ ตนถามว่าเมื่อ 4 กรมนี้ไปอยู่กับ พล.อ.ประวิตร เวลามีการประชุมประจำเดือนที่กระทรวงเกษตรฯ ที่จะมีรัฐมนตรีว่าการกระทรวงนั่งหัวโต๊ะ แล้ว พล.อ.ประวิตร ซึ่งเป็นรองนายกฯ ใหญ่กว่ารัฐมนตรีว่าการ ท่านจะให้รัฐมนตรีไปนั่งตรงไหน ไปนั่งข้างๆ พล.อ.ประวิตรหรือ แค่หลักการคิด หลักการบริหารก็ผิดแล้ว
นอกจากนี้ เรื่องนี้ยังเป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์การบริหาร ที่เอา 4 กรมนี้ไปขึ้นตรงกับรองนายกฯ เพราะเวลาเสนอเรื่องเข้า ครม. รัฐมนตรีช่วยไม่มีอำนาจเสนอเรื่องเข้า ครม. เรื่องในกรมที่รัฐมนตรีช่วยดูแลจะเอาเข้าครม.ได้ต้องเสนอให้รัฐมนตรีว่าการก่อน แล้วรัฐมนตรีว่าการก็เสนอเรื่องให้นายกฯที่กำกับดูแลกระทรวงเกษตรฯ ซึ่งก็คือนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายจุรินทร์เซ็นผ่านจึงจะเข้าครม. ไปถึงนายกฯ ตนถามว่าเมื่อแบ่งงาน 4 กรม แบบนี้ หนังสือแบ่งงานจะแบ่งอย่างไร กระทรวงเกษตรฯไปขึ้นกับนายจุรินทร์บางส่วน ไปขึ้นกับพล.อ.ประวิตร บางส่วนอย่างนั้นหรือ แบบนี้ ปชป.ที่ร่วมรัฐบาลอยู่ก็เสียหน้าสิ ถ้าตนเป็นนายกฯ ตนจะแก้ปัญหาโดยการปรับครม. หรือไม่พล.อ.ประวิตร ก็ไปบอกพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ให้เอาร.อ.ธรรมนัสกลับมานั่งตำแหน่งนี้
“ผมไม่เชื่อว่าความขัดแย้งในรัฐบาลยังไม่จบ การที่พล.อ.ประวิตร มาเอา 4 กรมนี้คืนนั้น ผมไม่เชื่อว่า พล.อ.ประวิตรไม่มานั่งบริหารเองหรอก แต่เชื่อว่า ร.อ.ธรรมนัส จะกลายเป็นรัฐมนตรีเงา นอกจากนี้ ในการประชุม ครม. วันอังคารที่ 5 ตุลาคม นี้ ผมเชื่อว่า พล.อ.ประวิตร ต้องไปเอาอีกหน่วยงานหนึ่ง คือ ไปเอากรมพัฒนาฝีมือแรงงานคืนให้ นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ไม่เช่นนั้นนางนฤมลคงร้องไห้ไม่หยุด เพราะโดนยึดกรมนี้ไป ผมฝากพล.อ.ประวิตรว่าอย่าลืมนางนฤมล ไปเอากรมนี้คืนมาให้นางนฤมลด้วย” นายยุทธพงศ์ กล่าว
นายยุทธพงศ์ กล่าวอีกว่า วันนี้พรรคประชาธิปัตย์ ชูนายจุรินทร์ เป็นนายกฯ นี่คือสัญญาณความขัดแย้ง เพราะปชป.เป็นพรรคร่วมรัฐบาล มีประมาณ 50 กว่าเสียง กลุ่มกบฏของ ร.อ.ธรรมนัสมีประมาณ 40 เสียง หากกฎหมายสำคัญเข้าสภา แล้วเขาไม่เอาด้วยกับรัฐบาล รัฐบาลก็ล่มได้เลย อย่างไรก็ตาม เมื่อช่วงเย็นของที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา กกต. ได้ออกหนังสือเรื่อง การเตรียมความพร้อมในการส่งผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรเป็นการเลือกตั้งทั่วไปครั้งต่อไป โดยระบุให้แต่ละพรรคเร่งจัดตั้งตัวแทนเขต และเตรียมคัดเลือกผู้สมัคร ตนก็งง แทนที่กกต.จะออกหนังสือเรื่องการเตรียมการเลือกตั้ง อบต. ที่กำลังจะมีขึ้น แต่กลับออกหนังสือด่วนมาถึงหัวหน้าพรรคการเมืองเรื่องการเตรียมการเลือกตั้งใหญ่ นี่คือสิ่งสะท้อนว่าเสถียรภาพรัฐบาลไม่ค่อยดี ปัญหาความขัดแย้งในพรรคพปชร. วันนี้ก็ลุกลาม ไม่ได้หยุดแบบที่พล.อ.ประยุทธ์ และพล.อ.ประวิตร บอกว่ารักกันดี คุณแก้ปัญหาในพลังประชารัฐไม่จบ แต่กลับไปสร้างปัญหากับพรรคประชาธิปัตย์อีก
เมื่อถามถึงกรณี ป.ป.ช. ชี้มูลนายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ ส.ส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย กรณีเรียกรับเงิน 5 ล้านบาท แลกการผ่านงบประมาณกรมน้ำบาดาล นายยุทธพศ์ กล่าวว่า ตนนั่งใกล้นายอนุรักษ์ มีการโต้เถียงกันระหว่างนายอนุรักษ์ กับอธิบดีคนดังกล่าว แล้วก็มีเรื่องต่อในห้องอนุฯ 2 ทางพรรคก็ให้นายอนุรักษ์ชี้แจง และนายอนุรักษ์ปฏิเสธข้อกล่าวหา และพร้อมพิสูจน์ความบริสุทธิ์ และพรรคพท.เองก็ยินดีที่จะให้นายอนุรักษ์ได้พิสูจน์ข้อเท็จจริง ทั้งนี้ พรรคเพื่อไทยไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีนี้ เรื่องนี้เป็นเรื่องของคน2คน พรรคไม่เคยปกป้องคนผิด แต่นายอนุรักษ์ยืนยันว่าตัวเองมีหลักฐาน ก็ต้องเข้าสู่กระบวนการพิสูจน์ความจริงต่อไป
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี