ตร.จับทะลุแก๊ส10คน
ป่วนเผาแยกดินแดง
‘เต้น’จ่อจัดคาร์ม็อบ
ชุมนุมใหญ่ปลายตุลา
ตำรวจนครบาล เดินหน้าตะครุบทะลุแก๊สต่อเนื่องป่วนแยกดินแดง “ณัฐวุฒิ” แย้ม เตรียมจัด“คาร์ม็อบ” ปลายเดือนตุลาคมนี้ “ก้าวไกล-ก้าวหน้า”โผล่ร่วมวันรำลึก 6 ตุลาคม จี้ยุติความรุนแรง
เมื่อเวลา 10.40 น.วันที่ 6 ต.ค.64 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.นิธิธร จินตกานนท์ รองโฆษก บช.น.เปิดเผยกรณีการชุมนุมเมื่อวันที่ 5 ต.ค.ที่ผ่านมาว่ากลุ่มพลเมืองโต้กลับ การชุมนุมเป็นไปด้วยความเรียบร้อย ไม่มีความวุ่นวายแต่อย่างใด ส่วนของกลุ่มที่ก่อความไม่สงบ กลุ่มทะลุแก๊สประมาณ 10 คน ได้รวมกลุ่มกันบริเวณแยกมิตรไมตรี 2 เมื่อเวลา 19.30 น.โดยได้มีการยิงเลเซอร์ และขว้างปาประทัด เพื่อยั่วยุเจ้าหน้าที่อย่างต่อเนื่อง ต่อมาเวลา 20.40 น. เจ้าหน้าที่ได้เข้ากระชับพื้นที่ บริเวณแยกมิตรไมตรี 2 ในเวลา 22.20 น. มีกลุ่มผู้ก่อความไม่สงบเริ่มมีการจุดไฟเผายางรถยนต์พื้นถนน บริเวณแยกใต้ด่วนดินแดงและได้มีการขว้างปาประทัด ระเบิดแสวงเครื่องอย่างต่อเนื่อง
จนกระทั่งเวลา 22.25น.เจ้าหน้าที่ประกาศให้ยุติ ก่อนที่จะเข้ากระชับพื้นที่อีกครั้ง และปฏิบัติหน้าที่ดูแลความสงบในพื้นที่เพื่อสร้างความปลอดภัยให้แก่ประชาชนจนถึงเวลา 04.00 น.โดยทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ใช้สายตรวจร่วม 191 กองปราบและตำรวจท่องเที่ยวตรวจสอบ ถึงระบุตัวตนไม่ได้ก็ดำเนินการตรวจสอบ ส่วนการดำเนินการทางกฎหมายตั้งแต่เดือน ก.ค.2563 จนถึงปัจจุบันมีมีคดีที่เกี่ยวข้องกับการชุมนุม ในเขตพื้นที่กรุงเทพมหานคร จำนวนทั้งสิ้น 606 คดี ขณะนี้ได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นและสั่งฟ้องไปแล้ว 278 คดี อยู่ระหว่างดำเนินการสอบสวน 328 คดี
เช้าวันเดียวกัน ที่ลานประติมากรรม มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ แกนนำพรรคก้าวไกล และคณะก้าวหน้า ประกอบด้วย นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า,น.ส.พรรณิการ์ วานิช แกนนำคณะก้าวหน้า,นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และนายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ร่วมพิธีรำลึกครบรอบ 45 ปีเหตุการณ์ 6 ตุลา 19 และวางพวงมาลารำลึกวีรชนผู้สูญเสียจากเหตุการณ์ ร่วมกับญาติวีรชน คนเดือนตุลา ภาคประชาสังคม นักเรียน นิสิต นักศึกษา และตัวแทนพรรคการเมืองต่าง ๆ
นายพิธา ให้สัมภาษณ์ว่าพรรคก้าวไกลมีข้อเสนอ นั่นคือรัฐต้องยุติความรุนแรงกับประชาชนและนิติสงครามโดยทันที พฤติกรรมของรัฐในวันนี้สะท้อนถึงความแข็งตัวของรัฐ ยิ่งใช้ความรุนแรงเข้าสู้กับอนาคตของชาติ การชุมนุมแต่ละครั้งยิ่งจะปะทุรุนแรงมากขึ้น การใช้คดีความเข้าปราบปรามประชาชนก็ไม่ได้ทำให้ผลลัพธ์เปลี่ยนแปลงไป
ด้านนายชัยธวัช ระบุว่า สิ่งที่เราเรียกร้องในวันนี้ คือรัฐต้องยุติการดำเนินคดีความทางการเมืองต่าง ๆ รวมทั้งการควบคุมและสลายการชุมนุมที่รุนแรงเกินกว่าเหตุ เพราะยิ่งจะทำให้เกิดความคับแค้นคับข้องใจในหมู่ประชาชน และจะทำให้ประชาชนเลือกตอบโต้ด้วยความรุนแรงมากขึ้น
ขณะที่นายธนาธร กล่าวว่า ในวันนี้เรามารำลึกถึงอดีต ไม่ใช่เพียงเพื่ออดีตเท่านั้น แต่เรายังต้องการส่งเสียงว่าเราต้องการเห็นอนาคตแบบไหน นั่นคืออนาคตที่คนในสังคมอยู่ด้วยกันอย่างโอบอ้อมอารี ความเห็นต่างได้รับการยอมรับ มีแต่อนาคตแบบนี้เท่านั้น ที่ประทศไทยจะก้าวไปข้างหน้าได้ การรำลึก 6 ตุลาของเรา ไม่ใช่การรำลึกแต่เพียงอดีตและคุณูปการของคนเดือนตุลา แต่เรามาป่าวประกาศ ว่าสังคมไทยที่เราอยากสร้างไปด้วยกันจะเป็นเช่นไรด้วย
ส่วนน.ส.พรรณิการ์ กล่าวว่า 45 ปีที่ผ่านมา เราได้เห็นแล้วว่าความอำมหิตที่รัฐได้กระทำต่อประชาชนยังคงไม่เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม ยังคงไม่มีการเรียนรู้บทเรียนจากความรุนแรง ซึ่งนี่คือสิ่งที่ประชาชนยังคงต่อสู้อยู่ในวันนี้ เหมือนดั่งที่ได้ต่อสู้มาเมื่อ 45 ปีที่แล้ว และการต่อสู้ยังคงต้องดำเนินต่อไป ฝากไปถึงพลเอกประยุทธ์ และผู้ที่ค้ำจุนอำนาจของรัฐบาลว่า อำนาจปืนไม่อาจลบล้างหรือขัดขวางอนาคตของประเทศได้ อนาคตของประเทศเป็นของประชาชน ส่วนอนาคตของพวกคุณอยู่ในเรือนจำ
ทั้งนี้ พวงมาลารำลึกของพรรคก้าวไกลและคณะก้าวหน้า ได้มีการเขียนข้อความระบุ “คนยังคงยืนเด่นโดยท้าทาย” และ “ดาวยังพรายศรัทธาเย้ยฟ้าดิน” ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของเนื้อเพลง “แสงดาวแห่งศรัทธา” ที่ประพันธ์โดยจิตร ภูมิศักดิ์ อันเป็นเพลงที่นิยมขับขานในหมู่คนเดือนตุลา
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ อดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าว การนัดชุมนุมเพื่อขับไล่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในเดือน ต.ค.นี้จะมีกิจกรรมของคนหนุ่มสาวอย่างต่อเนื่อง กลุ่มของตนเองจึงต้องชะลอกิจกรรมออกไปก่อน เพื่อให้การเคลื่อนไหวของคนหนุ่มสาวเป็นจุดศูนย์รวมของการขับเคลื่อน และมองว่าข้อจำกัดของเรื่องโควิด-19 เป็นอุปสรรคในการออกมาร่วมชุมนุมทางการเมือง รูปแบบคาร์ม็อบจึงเป็นรูปแบบที่ตอบโจทย์ในการแสดงออกได้ดีที่สุดในความคิดของตนเองตอนนี้ซึ่งจะมีการจัดคาร์ม็อบอีกครั้งช่วงประมาณปลายเดือน ต.ค.
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี