"กมธ.อุ้มหาย"เร่งดันกม. เตรียมถกลงรายมาตราปรับเน้นคำนิยาม"การทรมาน" สอดคล้องหลักสากล สร้างระบบตรวจสอบถ่วงดุล ไล่ตั้งแต่กระบวนการจับกุม-ดึงเทคโนโลยีสร้างโปร่งใส
เมื่อวันที่ 12 ตุลาคม 2564 น.ส.ศิริภา อินทวิเชียร รองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... สภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงการประชุม กมธ.ว่า ในการประชุมวันนี้มีผู้เชี่ยวชาญด้านสิทธิมนุษยชน หลายท่านเข้าร่วมการประชุมเพื่อแสดงความคิดเห็นต่อร่างกฎหมายดังกล่าว เช่น ศาสตราจารย์กิตติคุณ วิทิต มันตาภรณ์ และ ดร.น้ำแท้ มีบุญสล้าง เป็นต้น โดยความคิดเห็นจากผู้เชี่ยวชาญมีประเด็นที่น่าสนใจและเป็นประโยชน์อย่างยิ่งในกระบวนการร่างพระราชบัญญัติ
น.ส.ศิริภา กล่าวด้วยว่า สำหรับการประชุมในครั้งถัดไปจะเป็นการพิจารณารายมาตรา และกรรมาธิการจำเป็นจะต้องให้ความสำคัญกับการให้นิยามคำว่า "การทรมาน" เพื่อให้ครอบคลุมตามที่อนุสัญญาระหว่างประเทศได้วางหลักไว้ เนื่องจากประมวลกฎหมายอาญาของไทยในปัจจุบันไม่ได้มีการนิยามความของการทรมานไว้เลย และกฎหมายต้องมุ่งสร้างกระบวนการยุติธรรมทางอาญาที่มีวิธีการคุ้มครองผู้ต้องหาให้ปลอดภัยจากการถูกกระทำทรมานหรือทำให้สูญหายจากเจ้าหน้าที่รัฐ และสิ่งสำคัญอีกประการหนึ่งนอกเหนือจากการเยียวยาเหยื่อหรือครอบครัว คือการใช้กฎหมายสร้างกลไกป้องกันและปราบปรามการทรมานและทำให้สูญหายจากเจ้าหน้าที่รัฐ โดยการสร้างระบบตรวจสอบถ่วงดุลภายในให้เกิดขึ้นตั้งแต่มีการจับกุม พร้อมทั้งการบังคับให้นำเทคโนโลยีเข้ามาใช้เพื่อให้เกิดความโปร่งใสในกระบวนการยุติธรรม โดยรัฐไม่อาจอ้างความมั่นคงเป็นผลของการกระทำทรมานหรือทำให้บุคคลสาบสูญ อันเป็นการละมิดกรอบสิทธิมนุษยชนและอนุสัญญาระหว่างประเทศได้ ดังนั้น จึงมีความจำเป็นอย่างยิ่งในการเร่งผลักดันกฎหมายฉบับนี้ให้เกิดผลสำเร็จเป็นรูปธรรม
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี