ศบค.ลดพื้นที่แดงเข้มเหลือ23 จ.-ปรับเคอร์ฟิวเป็น 23.00-03.00 น. ย้ำ 3 ฝ่ายจับมือปฎิบัติตามมาตรการ หากผลไม่ดี ยังสั่งปิดได้ ด้านสถานบันเทิง รอคลายเที่ยวถัดไป
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 14 ต.ค.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19)หรือศบค.แถลงผลประชุมศบค.ชุดใหญ่ ว่า สำหรับมาตรการปรับพื้นที่ และการปรับมาตรการการป้องกันควบคุมโควิด-19 ในแต่ละพื้นที่ ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 16 ต.ค.นี้ โดยพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือสีแดงเข้ม จาก 29 จังหวัด เหลือ 23 จังหวัด ได้แก่ กรุงเทพฯ กาญจนบุรี จันทบุรี ชลบุรี ฉะเชิงเทรา ตาก นครปฐม นครนายก นครศรีธรรมราช นราธิวาส นนทบุรี ปทุมธานี ปราจีนบุรี ปัตตานี อยุธยา ยะลา ระยอง ราชบุรี สงขลา สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร และสระบุรี
พื้นที่ควบคุม หรือพื้นที่สีแดงจาก 37 จังหวัด เหลือ 30 จังหวัด ได้แก่ กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยนาท ชัยภูมิ ชุมพร เชียงราย เชียงใหม่ ตรัง ตราด นครสวรร ประจวบคีรีขันธ์ พัทลุง พิจิตร พิษณุโลก เพชรบุรี มหาสารคาม ระนอง ลพบุรี ศรีสะเกษ สตูล สระแก้ว สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สุราษฎร์ธานี สุรินทร์ อ่างทอง อุดรธานี อุบลราชธานี เพชรบูรณ์ นครราชสีมา
ส่วนพื้นที่ควบคุม หรือสีส้ม จาก 11 จังหวัด เป็น 24 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ กำแพงเพชร นครพนม น่าน บึงกาฬ บุรีรัมย์ พะเยา พังงา แพร่ ภูเก็ต มุกดาหาร แม่ฮ่องสอน ยโสธร ร้อยเอ็ดลำปาง ลำพูน เลย สกลนคร สุโขทัย หนองคาย หนองบัวลำภู อุตรดิตถ์ อุทัยธานี อำนาจเจริญ
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า ส่วนการปรับมาตรการป้องกันและควบคุมโควิด-19 ในพื้นที่ที่ต้องปรับเปลี่ยนไปด้วยนั้น ได้แก่ปรับเวลาห้ามออกนอกเคหะสถาน เป็นเวลา 23.00-03.00 น. ของวันรุ่งขึ้น อย่างน้อย 15 วัน เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ประกอบการในตลาดโต้รุ่ง ตลาดเช้าเพื่อให้ประกอบการและทำมาหากิน กลับมาสู่วิถีชีวิตเดิม และปรับเวลาการเปิดของร้านสะดวกซื้อ เป็น 22.00 น.และต้องพิจารณาความเห็นชอบเรื่องการเปิดบริการสวนสนุกและเครื่องเล่น
ส่วนกิจการและกิจกรรมอื่น เช่น โรงภาพยนต์ เปิดได้ถึง 22.00 น.แต่เน้นย้ำมาตรการป้องกันด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด สถานดูแลผู้สูงอายุ ให้เปิดดำเนินการแบบรับไป-กลับได้ การจัดการประชุม จัดงานตามประเพณีนิยม ได้แก่ งานเลี้ยงสังสรรค์ งานแต่งงาน สามารถทำได้ในศูนย์แสดงสินค้า ศูนย์ประชุม สถานที่จัดนิทรรศการ รวมถึงสถานที่ลักษณะเดียวกันในห้างสรรพสินค้าและโรงแรมได้ แต่ต้องจำกัดจำนวนคน ไม่เกิน 500 คน เว้นระยะห่าง จัดเลี้ยงอาหารแบบแยกชุด เพื่อไม่ให้ปนเปื้อน ไม่ให้รับประทานอาหารร่วมกันลักษณะที่มีอาหารวางตรงกลาง และสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา และใช้เวลาจัดงานไม่เกิน 2 ชั่วโมง เปิดได้ปกติแต่ไม่เกิน 22.00 น.ที่สำคัญต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร และต้องสุ่มตรวจ ATK ในกรณีที่เกิน 50 คน
ขนส่งสาธารณะทุกประเภท จากเดิมที่อนุญาต 75 เปอร์เซ็นต์ให้ปรับเพิ่มได้โดยดูความสามารถในการบรรจุของยานพาหนะ และผ่านการพิจารณาคณะกรรมการควบคุมและกำกับด้วย
สำหรับทุกพื้นที่ ศูนย์แสดงสินค้า ห้างสรรพสินค้า คอมมูนิตี้มอลล์ ให้เปิดตู้เกมส์ เครื่องเล่น ร้านเกมส์ ที่เล่นรายบุคคลหรือแข่งเป็นคู่ได้ ยกเว้นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ที่ยังไม่อนุญาตให้เปิดบริการ ส่วนสวนน้ำ สวนสนุกในทุกพื้นที่ยังไม่อนุญาตให้เปิด
สนามกีฬา อนุญาตให้เปิดบริการได้โดยขยายเวลาถึง 22.00 น.และการจัดกิจกรรมรวมกลุ่มให้ขยายจำนวนคนได้ โดยปรับเพิ่มขึ้น ได้แก่ พื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวดและพื้นที่เฝ้าระวัง ตามลำดับ คือ จากเดิม 25 เป็น 50 เดิม 50 เป็น 100 เดิม 100เป็น 200 เดิม200 เป็น 300 และ 500 ตามลำดับ แต่ขณะนี้ประเทศไทยยังไม่มีพื้นที่เฝ้าระวังสูง หรือ สีเหลือง และพื้นที่เฝ้าระวัง หรือ สีเขียว โดยเน้นย้ำให้ยึดมาตรการครอบจักรวาล เพื่อควบคุมตนเองให้ดี ให้คิดเสมอว่าคนอื่นก็มีเชื้อโควิด-19
ส่วนสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่ประชุม ศบค.ยังไม่อนุญาตให้เปิด เป็นเพียงให้เตรียมการไว้ก่อน เช่น เตรียมพื้นที่ให้สะอาด ปลอดโปร่ง โล่ง ดำเนินมาตรการภายในไว้ก่อน และในเดือนถัดไปจะมีการเร่งรัดมาตรการให้แล้วเสร็จเพื่อที่จะเปิดดำเนินการ ตอนนี้ความเสี่ยงยังสูง จึงขอให้ทุกคนเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยกันปรับปรุงกิจการภายในไปก่อนโดยที่ประชุมศบค.มอบศปก.ศบค.และกระทรวงมหาดไทย กทม. รวมถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกำกับดูแลอย่างใกล้ชิด
"นายกรัฐมนตรี ในฐานะผอ.ศบค.แสดงความเป็นห่วง ว่าปรับมาตรการใหม่แล้ว ที่สำคัญคือความร่วมมือของประชาชน ผู้ประกอบการ ภาครัฐ ทั้ง3 ส่วนหากช่วยกันกำกับดูแลและติดตามอย่างใกล้ชิด เราจะมีสภาวะแวดล้อมที่เหมาะสม สำหรับดำเนินกิจการกิจกรรม และดำเนินชีวิตวิถีใหม่ อยู่กับโควิด-19 ไปได้ หากสถานที่ใดดำเนินการแล้วออกมาไม่เป็นผลดีสามารถถูกสั่งปิดได้เหมือนเดิม จึงขอร้องว่าเมื่อได้สิทธิ์นี้มาแล้วขอให้รับผิดชอบไปพร้อมกัน"นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี