“ธรรมนัส” เผยรัฐบาลลงพื้นที่มีม็อบต้าน เป็นเรื่องธรรมชาติการเมือง สะท้อนความเห็นต่าง ยัน พปชร. รักกัน ไม่แตกแยกเหมือนข่าวลง ยันทำงานเป็นทีม บอกในสนามเลือกตั้ง ทุกพรรคคือคู่แข่ง ไม่ใช่เฉพาะก้าวไกล
เมื่อวันที่ 16 ตุลาคม 2564 ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณีการลงพื้นที่ของพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม และพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) ที่มีมวลชนบางส่วนออกมาต่อต้านว่า ตนคิดว่าการต่อต้านเป็นเรื่องการเมืองที่มักจะมีกลุ่มต่อต้านอยู่แล้ว ตนมักจะพูดเสมอว่าหากเข้าสู่เวทีการเมือง ต้องยอมรับความคิดเห็นต่างและนำสิ่งนั้นมาแก้ไขซึ่งถือเป็นสิ่งที่สำคัญ อย่างกรณีที่หัวหน้าพรรค พปชร.ลงพื้นที่ จ.ขอนแก่นนั้น พล.อ.ประวิตรก็ไม่ได้รู้สึกอะไร เพราะหากคิดว่าประชาชนส่วนหนึ่งต้องการอย่างนั้น เราก็ต้องนำมาศึกษา และท่านได้สั่งการให้ไปศึกษาว่าเรื่องอะไร ซึ่งถือเป็นเรื่องที่ดี เราอย่าไปมองว่าคนที่เห็นต่างจะเป็นศัตรู
ผู้สื่อข่าวถามว่า ควรปล่อยให้เป็นไปตามธรรมชาติใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ถูกต้องนี่คือธรรมชาติของบ้านเมืองเรา เราจึงต้องนำความคิดเห็นของผู้เห็นต่าง ไม่ว่าจะเป็นเยาวชนหรือวัยกลางคนนำมาศึกษาและแก้ไข เมื่อถามว่า ในการลงพื้นที่จ.อุบลราชธานี ของนายกฯ เมื่อวันที 15 ต.ค.ที่ผ่านมา มีเจ้าหน้าที่พยายามกันประชาชนไม่ให้เข้าถึงนายกรัฐมนตรี ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ทราบเพราะในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นนั้น ตนไม่เห็น แต่ถ้าตนเดินทางไปกับพล.อ.ประวิตร ตนมักจะพูดเสมอว่า อย่ากันเขา ให้เขาได้แสดง เพราะถ้ายิ่งกันเหมือนยิ่งไปห้าม
ผู้สื่อข่าวถามถึงปัญหาความขัดแย้งของพปชร.ที่ผ่านมา ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ส.ส.พปชร. ร้อยละ 99% เรารักกันและยืนยันว่า เรารักกันซึ่งจะสังเกตได้ว่าเวลาเราทำอะไรจะทำเป็นทีม แท็กทีมกัน เรามีหัวหน้าพรรคที่เป็นคนใจถึงพึ่งได้ ต้องยึดหัวหน้าเป็นที่ตั้ง ทีมเวิร์คเราต้องไปด้วยกัน มีหลายคนที่ทำงานให้พรรค พปชร. “เป้าหมายคือ เพื่อชาติ บ้านเมืองและประชาชน ฉะนั้นศัตรูการเลือกตั้งทางการเมืองไม่ใช่พลังประชารัฐด้วยกัน แต่ต้องมองว่าเราจะไปสู้กับศัตรูข้างหน้ากันอย่างไร” ร.อ.ธรรมนัส กล่าว
เมื่อถามว่า ร.อ.ธรรมนัส เคยระบุว่าพรรคก้าวไกลคือศัตรูทางการเลือกตั้งอันดับหนึ่ง ยังคิดเช่นนั้นหรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า ไม่ได้มองว่าพรรคใดเป็นศัตรูทางการเมือง เมื่อลงสู่สนามเลือกตั้งนั้นถือว่าเราออกสนามรบ และทำอย่างไรที่จะไปชนะใจชาวบ้าน ให้มากาพรรคพปชร. เราเพียงเปรียบเปรยเฉยๆ เมื่อถามว่า เมื่อมีเสียงออกมามองอย่างนั้น เป็นการให้เครดิตพรรคก้าวไกลใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวย้ำว่า เราไม่ได้มองเป็นศัตรู เพราะเมื่อถึงสนามเลือกตั้ง นั่นคือสนามรบทางการเมือง เราจึงต้องมียุทธศาสตร์และวิธีอย่างไรที่จะเอาชนะ เอาเสียงมาให้ได้ เมื่อถามย้ำว่า การที่ยกตัวอย่างพรรคก้วไกล ขึ้นมาแสดงว่าเขามีคะแนนนิยมที่ดีกว่าใช่หรือไม่ ร.อ.ธรรมนัส กล่าวว่า พรรคการเมืองเวลาสู้กันในสนาม มีไม่กี่พรรค เพื่อไทย พรรคก้าวไกล พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย ที่จะสู้กันอย่างหนัก ตนไม่ได้มองว่าเป็นพรรคก้าวไกลพรรคเดียว
- 004
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี