ปชป.ชงยื่นประธานสภาฯ แก้กม.เลือกตั้งท้องถิ่น เปิดทาง ส.ส.-ส.ว.เข้ามาอุ้มช่วยหาเสียง ชี้เป็นการพัฒนา ปชต.ฐานรากเข้มแข็ง เชื่อพรรคการเมืองเอาด้วย
เมื่อวันที่ 18 ตุลาคม 2564 ที่รัฐสภา นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ได้เข้ายื่นเสนอร่างแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น ถึง นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่าน นายสมบูรณ์ อุทัยเวียนกุล เลขานุการประธานสภาฯ โดย นายองอาจ กล่าวว่า ตนพร้อมด้วย นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำร่างพระราชบัญญัติการเลือกตั้งสมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ..) พ.ศ. .... เสนอต่อประธานสภาฯ โดยเป็นการแก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 34 เพื่อให้ข้าราชการการเมือง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร สมาชิกวุฒิสภา สมาชิกสภาท้องถิ่น หรือผู้บริหารท้องถิ่น ดำเนินการใดๆ ที่มีผลต่อผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่นได้ โดยไม่ถือว่าเป็นการกระทำที่เป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครรับเลือกตั้งดังกล่าว ทั้งนี้ การกระทำของบุคคลดังกล่าว ถ้าเป็นไปโดยมิชอบด้วยหน้าที่และอำนาจอันเป็นการกลั่นแกล้งผู้สมัครใด หรือดำเนินการใดๆ ที่เป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครใด โดยไม่สุจริตเที่ยงธรรม ให้คณะกรรมการการเลือกตั้ง หรือกรรมการการเลือกตั้ง หรือผู้อำนวยการเลือกตั้งประจำจังหวัด หรือคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่คณะกรรมการการเลือกตั้งมอบหมาย มีอำนาจสั่งให้ยุติหรือระงับการกระทำนั้นได้
"การแก้ไขกฎหมายนี้เป็นการพัฒนาระบอบประชาธิปไตยตั้งแต่ฐานราก รวมถึงหลักปรัชญาการเมืองและการปกครองทั่วไปถือว่าองค์กรปกครองท้องถิ่นเป็นเวทีสร้างการมีส่วนร่วมทางการเมืองในระบอบประชาธิปไตยแก่ประชาชน เป็นการสร้างให้องค์กรปกครองท้องถิ่นมีความเข้มแข็ง ซึ่งจะมีผลให้การเมืองระดับประเทศมีความเข้มแข็งด้วย อันมีผลทำให้ประเทศชาติเจริญ ประชาชนมั่งคั่งดังเช่นนานาอารยะประเทศทั้งหลาย" นายองอาจ กล่าว
นายองอาจ กล่าวด้วยว่า เชื่อว่าพรรคการเมืองต่างๆ น่าจะเห็นด้วยกับการแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่น เพื่อให้ ส.ส. , ส.ว. , ข้าราชการการเมืองช่วยหาเสียงตามครรลองปกติของการหาเสียงเลือกตั้งได้ เพราะเป็นเรื่องผิดธรรมชาติ และผิดปกติของพรรคการเมืองอย่างมากที่ ส.ส.และ ข้าราชการการเมืองของพรรคไปช่วยหาเสียงให้คนที่ลงสมัครท้องถิ่นในนามพรรคไม่ได้ ทั้งๆ ที่การรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งเป็นหน้าที่ของสมาชิกพรรคการเมืองที่ดีควรกระทำตามปกติอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ถ้าสามารถแก้ไขกฎหมายเลือกตั้งท้องถิ่นให้สมาชิกพรรคการเมืองที่เป็น ส.ส. , ส.ว. , ข้าราชการการเมืองรณรงค์หาเสียงได้ก็จะช่วยให้การเมืองท้องถิ่นตั้งแต่ระดับฐานรากถึงการเมืองระดับชาติมีความเข้มแข็ง อันส่งผลให้ระบอบประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขมีความมั่นคงตามไปด้วยในที่สุด
เมื่อถามว่า เดิมจุดประสงค์มาตรา 34 นี้ เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าราชการทางการเมืองเอื้อประโยชน์ให้กับผู้สมัครฯ นายองอาจ กล่าวว่า ในตัวกฎหมายนี้ห้ามอยู่แล้วที่ไม่ให้ข้าราชการการเมืองใช้อาจหน้าที่กลั้นแกล้งผู้สมัคร แต่เมื่อมีการเพิ่มคำว่า เป็นคุณหรือเป็นโทษเข้าไปอีก ก็มีการตีความว่าการไปเดินรณรงค์ช่วยผู้สมัครหาเสียงนั้นก็เป็นคุณแล้ว หรือการที่ไปพูดวิพากษ์วิจารณ์นโยบายการบริหารท้องถิ่นก็เป็นโทษ
เมื่อถามต่อว่า การเสนอแก้กฎหมายครั้งนี้เพื่อเตรียมเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม.ใช่หรือไม่ นายองอาจ กล่าวว่า เราเสนอเพื่อรองรับการเลือกตั้งท้องถิ่นทุกระดับ เพื่ออนาคตภายหน้า ที่ผ่านมาเราก็ผ่านการเลือกตั้งท้องถิ่นมาครึ่งทางแล้วและเห็นอุปสรรคที่เกิดขึ้น ดังนั้นจึงเห็นว่าควรดำเนินการแก้ไข ในอนาคตหากมีการเลือกตั้งท้องถิ่นใดจะได้ไม่ย้อนแย้งต่อความเป็นจริง
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี