งานเข้าปม‘ทักษิณ’วีดีโอคอล
รุมร้องยุบ‘พท.’
ส่อเข้าข่ายแทรกแซง-ครอบงำ
จัดงานเลี้ยงแหกพรก.ฉุกเฉินฯ
เตรียมยื่น‘กกต.-ปปช.’เชือดซ้ำ
‘จุรินทร์’ขอบคุณหนุนนั่งนายกฯ
เครือข่ายธรรมาภิบาลยื่นร้องสอบปม“โทนี่” หรือ“ทักษิณ”วีดีโอคอลงานเลี้ยง“เพื่อไทย”ส่อแทรกแซง-ครอบงำถึงขั้นยุบพรรค“สิระ”ชี้เข้าข่ายบงการชัดเจน เตรียมเชิญ“กกต.-เกรียง” แจง กมธ. 27 ตุลาคม ซัดสส. พท. สมคบคนหนีคดีผิดจริยธรรม ต้องถอดถอน ด้าน‘ศรีสุวรรณ’เตรียมยื่นร้อง กกต.-ปปช.ตรวจสอบปม‘ทักษิณ’โผล่วิดีโอคอล งานเลี้ยง พท.เข้าข่ายครอบงำหรือไม่ ถ้าผิด โทษถึงขั้นยุบพรรค แถมจัดเลี้ยงแหกพรก.ฉุกเฉิน
ขณะที่‘สมพงษ์’หัวหน้าพรรค พท.ชิงดับกระแส‘พจมาน-เพรียวพันธุ์’แคนดิเดต นายกฯ ยันไม่จริง ตัดออกได้เลย‘จุรินทร์’ขอบคุณทุกโพลเชียร์นั่งนายกฯ ยันเป็นเจียมตัว-เน้นลงมือทำงานมีคนรุ่นใหม่พร้อมเป็นผู้สมัครหลายภาค ศาลรธน.นัดชี้ชะตาสถานภาพ‘ไพบูลย์’พรุ่งนี้ ‘เสรีพิศุทธ์’ปลุกจับตาศาลรธน.วินิจฉัย
เมื่อวันที่ 19 ตุลาคม ที่รัฐสภา นายสรชัช ทองเพ็ญ ผู้ประสานงานเครือข่ายธรรมาภิบาลเพื่อการเมืองสุจริต เดินทางเข้ายื่นหนังสือต่อ นายสิระ เจนจาคะ ส.ส.กทม.พรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร เพื่อ ให้ตรวจสอบกรณี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีวีดีโอคอลคุยกับกรรมการบริหารพรรคและส.ส.พรรคเพื่อไทย(พท.)เพื่อวางตัวแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีและยุทธศาสตร์ขับเคลื่อนการเลือกตั้งสมัยหน้าซึ่งอาจเข้าข่ายยินยอมให้บุคคลภายนอกครอบงำและแทรกแซงกิจกรรมพรรคการเมืองทำให้สมาชิกพรรคขาดความเป็นอิสระขัดพระราชบัญญัติ(พ.ร.บ.)ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง มีโทษยุบพรรค
โดยนายสิระกล่าวภายหลังรับหนังสือว่า การวิดีโอคอลของนายทักษิณ เรื่องแคนดิเดตหัวหน้าพรรคนั้น เป็นการแทรกแซง ส่งสัญญาณให้ลูกพรรค รอตัวหัวหน้าพรรค ที่นายทักษิณจะส่งมา ส่วนตัวเห็นว่าเป็นการครอบงำพรรคการเมือง เพราะให้รอชื่อหัวหน้าพรรคจากนายทักษิณ
ชี้ครอบงำชัด เล็งยื่นปปช.ถอดพ้นส.ส.
ดังนั้น ส.ส.พรรคเพื่อไทยที่อยู่ในเหตุการณ์ดังกล่าว เข้าข่ายผิดประมวลจริยธรรม ส.ส.ข้อ19ที่ต้องไม่คบหาผู้ประพฤติผิดกฎหมาย ผู้มีอิทธิพลซึ่งนายทักษิณทำผิดกฎหมาย หนีคดี แต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทยไปคบหาสมาคม เรื่องนี้จึงต้องยื่นคณะกรรมการปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ(ป.ป.ช.)ถอดถอนส.ส.พรรค พท.ที่คบหานายทักษิณออกจากตำแหน่งด้วย ถ้าพิสูจน์ได้ว่าวันดังกล่าว มีหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อยู่ด้วยยิ่งแสดงว่ารอรับคำสั่งจากนายทักษิณรอรับหัวหน้าพรรคคนใหม่ ดังนั้นจะไม่แทรกแซง ครอบงำได้อย่างไร
ส่วนที่นายวิษณุ เครืองาม รองนายกฯระบุนายทักษิณไม่เข้าข่ายครอบงำพรรคเพื่อไทย เนื่องจากเป็นการพูดโดยเปิดเผยนั้น นายสิระกล่าวว่าจะพูดในที่เปิดเผยหรือที่ลับนั้นไม่ใช่เรื่องสำคัญสิ่งที่ชัดเจนคือคำพูดนายทักษิณที่ขอให้รอคนที่จะมาเป็นหัวหน้าพรรค ขอให้ไปดูว่านายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคพท.ได้สอบถามถึงหัวหน้าพรรคคนใหม่ จากนายทักษิณซึ่งนายทักษิณตอบชัดเจนว่าจะส่งคนมาให้
ลุยสอบชงกกต.เชือดยุบพรรค
“การจะพูดในที่ลับหรือที่แจ้ง ก็แทรกแซงได้และรัฐธรรมนูญไม่ได้กำหนดว่า การแทรกแซงต้องทำในที่ลับหรือที่แจ้ง ไม่มีข้อยกเว้นว่าต้องสั่งการในที่ประชุมพรรค หรือที่โล่งที่แจ้ง ดังนั้นในการประชุมกมธ.ฯวันที่27ต.ค.จะเชิญตัวแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) ตัวแทนคณะกรรมการร่างรัฐธรรมนูญ (กรธ.)และนายเกรียง กัลป์ตินันท์ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย มาให้ข้อมูลต่อกมธ.ฯและหลังจากได้ข้อมูลเป็นที่ยุติแล้ว จะส่งเรื่องให้ กกต.ยุบพรรคเพื่อไทยต่อไป”นายสิระ กล่าว
ศรีฯซัด’โทนี่’เข่าข่ายครอบงำพท.
ขณะที่ นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย กล่าวว่ากรณีการเผยแพร่คลิปวิดีโอที่มี นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯวิดีโอคอลเข้ามาพูดคุยกับส.ส.และผู้บริหารพรรคเพื่อไทยกลางวงงานเลี้ยงวันคล้ายวันเกิดนักการเมืองดัง เมื่อวันที่ 12 ตุลาคมที่ผ่านมาซึ่งเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ว่าการกระทำดังกล่าวฝ่าฝืนกฎหมาย หรือ ครอบงำ หรือ ชี้นำพรรคการเมืองหรือไม่นั้นว่า กรณีดังกล่าวต้องแยกออกเป็น2 เรื่องคือ เรื่องแรก การที่นายทักษิณวิดีโอคอลเข้ามาพูดคุยกับ ส.ส.และผู้บริหารของพรรคพท.อาจเป็นการฝ่าฝืนมาตรา 28 และมาตรา29ของพ.ร.ป.ว่าด้วยพรรคการเมือง 2560หรือไม่
เพราะกฎหมายดังกล่าวกำหนดว่า“ห้ามมิให้พรรคการเมืองยินยอมหรือกระทําการใดอันทําให้บุคคลอื่นซึ่งมิใช่ สมาชิกกระทำการอันเป็นการควบคุม ครอบงําหรือ ชี้นํา กิจกรรมของพรรคการเมืองในลักษณะที่ทําให้ พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระ ทั้งนี้ ไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม”และ“ห้ามมิให้ผู้ใดซึ่งมิใช่สมาชิกกระทำการใดอันเป็นการควบคุมครอบงำหรือชี้นำกิจกรรมพรรคการเมืองในลักษณะที่ทำให้พรรคการเมืองหรือสมาชิกขาดความอิสระไม่ว่าโดยทางตรงหรือโดยทางอ้อม”หากฝ่าฝืนย่อมเข้าข่ายความผิดตามมาตรา92(3) อาจเป็นเหตุให้ กกต.ยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญสั่งยุบพรรคนั้นได้
จ่อร้องกกต.-ปปช.สอบยุบพรรค
นายศรีสุวรรณกล่าวว่า เรื่องที่2เป็นเรื่องของการจัดเลี้ยง ที่มีผู้เข้าร่วมงานเลี้ยงจำนวนมากโดยมีการเสิร์ฟอาหารหวานคาวและที่สำคัญมีการเสิร์ฟไวน์ หรือเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ในงานเลี้ยงดังกล่าวด้วยซึ่งอาจถือได้ว่าเป็นการฝ่าฝืนข้อกำหนดฉบับที่ 34ที่ออกตามความในมาตรา 9 แห่งพ.ร.ก.ฉุกเฉิน2548 ประกอบม.34 (6)ของพรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558ด้วยซึ่งผู้ที่อยู่ในงานเลี้ยงดังกล่าวส่วนใหญ่เป็น“ผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง”แต่กลับปรากฏว่าได้กระทำเสียเองซึ่งอาจเข้าข่ายการฝ่าฝืนมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง อันอาจเป็นความผิดตามกฎหมาย ซึ่งอยู่ในอำนาจของ ปปช.ที่จะทำการไต่สวน วินิจฉัย และเสนออัยการฟ้องต่อศาลเพื่อลงโทษได้ ด้วยเหตุดังกล่าว สมาคมจะนำความพร้อมพยานหลักฐานไปร้องเรียนต่อปปช.เวลา10.00น.และกกต.เวลา11.00น.เพื่อให้ดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ตามที่กฎหมายกำหนด
พท.ชิงดับกระแสหญิงอ้อคุมพรรค
นายสมพงษ์ อมรวิวัฒน์ หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกระแสข่าวที่ปรากฏชื่อคุณหญิงพจมาน ดามาพงศ์ และพล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ อดีตผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยว่า การปรากฏชื่อคุณหญิงพจมานและคนอื่นๆ ตามข่าว ไม่มีข้อเท็จจริงใดๆ
“คุณหญิงพจมาน เป็นบุคคลที่พรรคเคารพนับถือ ตั้งแต่สมัยพรรคไทยรักไทยมาจนถึงขณะนี้ โดยคุณหญิงพจมาน ไม่ได้เข้ามายุ่งเกี่ยวใดๆทั้งสิ้นโดยเฉพาะในพรรคเพื่อไทยดังนั้น ข่าวที่จะมีการเสนอชื่อคุณหญิงพจมาน มาเป็นแคนดิเดตนายกฯนั้น ตัดไปได้เลย ไม่มีแน่นอน”หัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าว
‘จุรินทร์’ขอบคุณโพลเชียร์นั่งนายกฯ
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.)ถึงกรณีที่โพลหลายสำนักระบุว่านายจุรินทร์เป็นหนึ่งในผู้ที่มีความเหมาะสมในการเป็นนายกรัฐมนตรีว่าขอขอบคุณผลโพลทุกสำนักที่ออกมาซึ่งผลคะแนนมีมากบ้างน้อยบ้าง ส่วนตัวนั้นเจียมตัวเสมอและยึดหลักที่ว่า มีหน้าที่อะไร ก็ต้องทำหน้าที่ให้สมบูรณ์ที่สุด เพราะประเทศของเรา มีคนที่ช่วยคิด ช่วยพูดและช่วยแสดงความคิดเห็นมากพอแล้ว แต่ตอนนี้สิ่งที่ประเทศเรา ต้องการ คือ คนลงมือทำ แล้วทำให้เกิดผลสัมฤทธิ์ได้จริง เราจึงมุ่งเน้นเดินหน้าไปตามทิศทางนี้เพื่อสนองตอบต่อสิ่งที่จะเป็นประโยชน์สูงสุดให้กับบ้านเมือง
โดยตนจะทำเดินทางลงพื้นที่จ.สตูล,ตรังและพัทลุง วันที่ 20ต.ค.นี้รวมถึงจะได้หารือกับส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ในภาคใต้ด้วยเพื่อเตรียมพร้อมการปฏิบัติหน้าที่ในช่วงเปิดประชุมรัฐสภาสมัยสามัญ
ย้ำคนรุ่นใหม่พร้อมลงสมัครทุกภาค
ส่วนกรณีที่พรรคเดินหน้าเปิดตัวผู้สมัคร ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ได้เปิดตัวนายเมธี อรุณ นักดนตรีวงลาบานูน เป็นผู้สมัคร ส.ส.นราธิวาส ซึ่งจะมีคนเด่นคนดังหรือคนที่มีคุณภาพมาเป็นผู้สมัครอีกหรือไม่ นายจุรินทร์ กล่าวว่าเรายังมีคนรุ่นใหม่เข้ามาอีกจำนวนมาก มาเป็นผู้สมัครในหลายๆภาค ไม่ใช่แค่ภาคใต้แต่ในภาคอีสานและกรุงเทพฯก็มีอยู่หลายคน ก็จะทยอยเปิดตัวเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ส่วนที่มีข่าวที่ว่าน.ส.เพชรชมพู กิจบูรณะ ได้ลาออกจากการเป็น ส.ส.บัญชีราชชื่อ พรรครวมพลังประชาชาติไทย และอาจมาสังกัดพรรคประชาธิปัตย์นั้น ตนยังไม่ทราบ จากการติดตามการทำงานของน.ส.เพชรชมพู ก็เป็นว่าเป็นคนที่มีคุณภาพคนหนึ่ง
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์เตรียมจะจัดการประชุมใหญ่สามัญประจำปีในเดือนพ.ย.นี้จริงหรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า เดิมพรรคตั้งใจจะจัดประชุมก่อนหน้านี้ แต่ไม่ดำเนินการได้ต้องขออนุญาตจากคณะกรรมการการเลือกตั้ง เมื่อกกต.ยังไม่อนุญาต ขณะที่พรรคพร้อมจัดการประชุมอยู่แล้ว ต้องมีขึ้นตามกฎหมาย ถ้ากกต.อนุญาตให้เราเมื่อไหร่ ก็พร้อมจัดประชุม
ศาลรธน.นัดชี้ชะตา‘ไพบูลย์’20ตุลาคม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ศาลรัฐธรรมนูญ นัดในวันที่ 20 ตุลาคมนี้ เวลา15.00น.อ่านคำวินิจฉัยชี้ขาดสมาชิกภาพ ส.ส.ของ นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปในขณะนั้น ที่ใช้ช่องกฎหมายประกาศเลิกพรรคประชาชนปฏิรูป ย้ายไปสังกัดสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)เป็นไปโดยชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ หลังเรื่องดังกล่าวยืดเยื้อมานานร่วม 2ปี คำวินิจฉัยครั้งนี้จะสร้างบรรทัดฐานให้การเมืองไทยในอนาคตต่อไป
‘เสรีพิศุทธ์’ปลุกจับตาศาลรธน.วินิจฉัย
พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย(สร.)ผู้ยื่นเรื่องให้ประธานสภาผู้แทนฯส่งศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเรื่องดังกล่า ให้สัมภาษณ์ถึงที่ศาลรัฐธรรมนูญนัดอ่านคำวินิจฉัย กรณีนายไพบูลย์ นิติตะวัน สส.บัญชีรายชื่อ ที่ได้สมัครเป็นสมาชิก พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)หลังพรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง ทั้งที่ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป อยู่จนกว่าการชำระบัญชี จะแล้วเสร็จและมิได้เป็นผู้มีชื่อในบัญชีรายชื่อ ผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส.ของพรรคพปชร.ที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ก่อนปิดการรับสมัครเลือกตั้ง เป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงหรือไม่
เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าสนใจของประชาชน นายไพบูลย์ ก็เป็นคนที่มีชื่อเสียงและเป็นหัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป เลือกตั้งเข้ามาด้วยคะแนนที่ยังไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ และนายไพบูลย์เข้ามาเป็นส.ส.โดยการปัดเศษ แต่อยู่มาไม่ถึง 1 ปี พรรคประชาชนปฏิรูปโดยนายไพบูลย์ ก็เลิกพรรคตัวเอง ประเด็นนี้ตนเห็นว่าไม่ถูกต้องจึงได้ยื่นคำร้องต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนฯไปยังศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยซึ่งในวันที่ 20ต.ค.นี้ศาลรัฐธรรมนูญ จะวินิจฉัยเรื่องนี้แล้ว จึงอยากให้ประชาชนติดตามว่าศาลรัฐธรรมนูญ จะมีบรรทัดฐานในการวินิจฉัยเรื่องนี้อย่างไร
หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยขัดกับข้อกฎหมายต่างๆก็จะทำให้เกิดปัญหาในประเทศมากขึ้น คือ หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยรับรองว่าการย้ายพรรคของนายไพบูลย์ สามารถทำได้ ต่อมาพรรคใหญ่ ที่มีเงินมาก ก็จะซื้อทุกพรรคให้เลิกพรรคหมดและไปรวมอยู่ที่พรรคตัวเอง หากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไม่ถูกต้องจะเกิดปัญหาขึ้นกับประเทศอย่างแน่นอน ไม่ใช่เรื่องเล็กๆ รวมถึงจะเกิดปัญหากับการเลือกตั้งสมัยหน้า การเลิกพรรคตัวเอง ก็ผิดกฎหมายอยู่แล้วและไม่สามารถทำได้ เพราะกฎหมายพูดถึงเรื่องยุบพรรคหรือถูกขับออกจากพรรคเท่านั้น ไม่มีในเรื่องการเลิกพรรคตัวเอง วิธีการเช่นนายไพบูลย์เรียกว่าการควบรวมพรรค คือพรรคใหญ่จะเอาพรรคประชาชนปฏิรูปไปอยู่ก็ควบรวมพรรค
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี