"หญิงหน่อย"ควง"สุรวุฒิ"เยือนโคราช ลงเรือลุยเยี่ยมผู้ประสบภัย มอบถุงยังชีพแทนความห่วงใย เผย 3 นโยบายสำคัญ ดูแลคนตัวเล็ก-ชาวนา-ผู้สูงอายุอย่างยั่งยืน
เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม 2564 ที่ อ.ชุมพวง จ.นครราชสีมา คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย นายสุรวุฒิ เชิดชัย รองประธานคัดสรร ภาคอีสานตอนใต้ พรรคไทยสร้างไทย พร้อมทีมงาน พรรคไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ให้กำลังใจผู้ประสบอุทกภัย แสดงความห่วงใย พร้อมดูแลเคียงข้างในยามทุกข์ยาก หลังพื้นที่ดังกล่าวถูกน้ำท่วมขังนานนับเดือน
โดยสถานการณ์น้ำท่วมครั้งนี้ถือเป็นระลอกที่ 3 และยังมีผู้ประสบภัยอีกนับร้อยครอบครัว ที่ไม่สามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ โดยเฉพาะบ้านเรือนยังถูกน้ำท่วมขังในลักษณะติดเกาะ และต้องย้ายไปพักอาศัยกับญาติพี่น้องชั่วคราว ขณะเดียวกันยังมีโรงเรียนในพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย ผู้สูงอายุที่ป่วยติดเตียงรอการช่วยเหลือ คุณหญิงสุดารัตน์ พร้อมนายสุรวุฒิ เชิดชัย จึงถือโอกาสลงเรือเยี่ยมให้กำลังใจ มอบสิ่งของจำเป็นสำหรับการยังชีพถึงหน้าบ้านด้วย
นอกจากการให้กำลังใจและมอบถุงยังชีพเพื่อการอุปโภคบริโภคแล้ว เรื่องใหญ่ที่สุดคือการแก้ไขปัญหาให้พี่น้องประชาชนอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะเรื่อง น้ำท่วม น้ำแล้ง รวมถึงราคาสินค้าเกษตรโดยเฉพาะข้าว ที่มีปัญหามาโดยตลอด ดังนั้น หลักการสำคัญคือ การทำให้พี่น้องชาวนาสามารถกำหนดราคาข้าวด้วยตนเองได้ ผ่านกองทุนที่จะเปิดกว้างให้ชาวนาสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน พร้อมกับมีโรงอบข้าว โรงสี โรงเก็บข้าวสำหรับชุมชน โดยไม่ต้องเร่งขายเหมือนที่ผ่านมาจนถูกกดราคา แต่กลไกดังกล่าวจะทำให้ชาวนา สามารถขายข้าวได้ตลอดทั้งปี พร้อมต่อยอดไปสู่การผลิตข้าวคุณภาพสูงต่อไป
คุณหญิงสุดารัตน์ ยังย้ำถึง "กองทุนเพื่อคนตัวเล็ก" ซึ่งจะเป็นแนวทางในการแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ กู้ได้ตั้งแต่ 5,000 บาท ดอกเบี้ยต่ำ เพื่อนำไปเป็นทุนทำมาหากิน ขณะเดียวกัน จะเป็นกลไกในการนำหนี้ จากนอกระบบเข้าสู่ระบบด้วย ซึ่งปัญหา ผู้สูงอายุซึ่ง "แก่ก่อนรวย" ทำงานหนักทั้งชีวิต แต่ยังยากจน ดังนั้นการดูแลประชาชนโดยเฉพาะผู้สูงวัย ผ่านนโยบาย"บำนาญประชาชน" 3,000 บาท ต่อเดือน จะเข้ามาดูแลความเป็นอยู่ ทดแทนความเสียสละในการทำงานให้สังคมดีขึ้น โดยจะทำควบคู่ไปกับการดูแลสุขภาพ มีผู้รับผิดชอบจัดโปรแกรมดูแลสมอง ดูแลกล้ามเนื้อ ให้แข็งแรงอยู่ตลอด สามารถกลับมาเป็นอาสาในการดูชุมชนหมู่บ้านต่อไป
ด้าน นายสรวุฒิ เชิดชัย เห็นว่า การแก้ไขปัญน้ำท่วม น้ำแล้งในโคราช อย่างยั่งยืน ไม่สามารถดูเฉพาะส่วนใดส่วนหนึ่งหรือพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งได้ การแก้ไขจะต้องทำทั้งระบบ ทั้งลำน้ำมูล ลำตะคอง ลำพระเพลิง โดยเฉพาะการชะลอมวลน้ำไม่ให้มาเป็นก้อนใหญ่ พร้อมการยกฝาย ยกสันเขื่อน เพิ่มฝ่าย หรือ ปรับปรุงลำเชียงไกรให้มีประสิทธิภาพ ก็จะสามารถแก้ไขได้ทั้งน้ำแล้งและน้ำท่วม หากสามารถบริหารภาพรวมได้ทั้งหมด ปัญหาดังกล่าว จะได้รับการแก้ไขอย่างเป็นรูปธรรม
ขณะที่ นายทรงพล แก้วพรประเสริฐ นายกเทศบาลมนตรี ต.ชุมพวง เห็นว่าการรับมือสถานการณ์อุทกภัยหรือภัยแล้ง จะต้องทำอย่างเป็นระบบ โดยเฉพาะการเก็บน้ำในส่วนที่เชื่อมต่อกับพื้นที่ ต้องเพิ่มหรือชะลอมวลน้ำให้สามารถชัดเก็บน้ำได้มากขึ้นและมีประสิทธิภาพ
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี