คุก‘เบนจา อะปัญ’
โทษ6เดือนไม่รอลงอาญา
ผิดหนักละเมิดอำนาจศาล
ตำรวจนครบาล เร่งปิดเกมม็อบ “ทะลุแก๊ส” รวบได้อีก 11 ราย ในการชุมนุมเมื่อคืนวันที่ 31 ตุลาคม พร้อมยึดได้ทั้งระเบิดแสวงเครื่อง-อาวุธและยาเสพติด “แรมโบ้”
ปลุกประชาชนประณาม “ม็อบ 3 นิ้ว” เคลื่อนไหวช่วงเปิดประเทศทำลายบรรยากาศ-ทำลายโอกาสประเทศ
ในการปิดรับนักท่องเที่ยว เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ ศาลอาญาสั่งจำคุก“ณัฐชนน ไพโรจน์” 4 เดือน จำคุก“เบนจา อะปัญ”6 เดือน โดยไม่รอลงอาญา ฐานละเมิดอำนาจศาล
เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน 2564 ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล(บช.น.) พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รอง ผบช.น.)ในฐานะโฆษก บช.น. แถลงสรุปภาพรวมของการชุมนุมทางการเมืองเมื่อวันที่ 31ตุลาคม ที่ผ่านมาว่ามีการชุมนุม ทั้งหมด 4 จุด ในส่วนของ กลุ่มทะลุแก๊สได้ก่อความไม่สงบที่แยกประตูน้ำเริ่มตั้งแต่เวลา 21.00 น.ต่อมาได้เคลื่อนที่ไปยังแยกมักกะสัน ถนนราชปรารภ และ แยกดินแดง จนกระทั่ง21.30น.เจ้าหน้าที่ควบคุมฝูงชนจึงเข้าควบคุมพื้นที่ต่อมาเวลา24.00 น.เหตุการณ์จึงสงบ
พล.ต.ต.จิรสันต์ กล่าวว่า ต่อมา ในเวลาเวลา01.00น.เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ตรวจยึดระเบิดแสวงเครื่องได้บริเวณถนนหน้าสถานีตำรวจนครบาลดินแดงจำนวนหนึ่งโดยก่อนการชุมนุมตำรวจ ได้ตั้งจุดตรวจ สามารถจับกุมผู้กระทำความผิดได้11ราย เป็นกรณีของการพกพาอาวุธและยาเสพติดไปในที่ชุมนุม ส่วนการดำเนินคดีเมื่อคืนที่ผ่านมา มีการดำเนินคดีไปทั้งหมด 3 คดี และทำการพิสูจน์ทราบบุคคลที่กระทำผิดได้แล้วทั้งหมด 5 คน
“วันนี้ได้มีการนัดหมายชุมนุมของ 3 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มที่1 กลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม ทำการชุมนุมที่ทำเนียบรัฐบาล ขณะนี้ได้ทำการชุมนุมบริเวณแยกนางเลิ้ง กลุ่มที่ 2 ได้แก่กลุ่มศิลปินเพลงเพื่อราษฎร ชุมนุมบริเวณหน้าเรือนจำพิเศษกรุงเทพในเวลา17.00น.และกลุ่มสุดท้าย คือ กลุ่มผู้ก่อความไม่สงบ ทะลุแก๊ส ชุมนุมบริเวณแยกดินแดง เวลา 17.30 น.กลุ่มนี้คาดว่าจะมีการเคลื่อนที่ไปยังบริเวณใกล้เคียงและอาจมีการมีความรุนแรงเกิดขึ้น ซึ่งการชุมนุมวันนี้ ทางกองบัญชาการตำนครบาล ได้จัดเตรียมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ เพื่อเข้าดำเนินการรักษาความสงบเรียบร้อยในการชุมนุมไว้แล้ว” รอง ผบช.น.กล่าวย้ำ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ ทาง บช.น.เคยประกาศว่าจะเร่งปิดเกมม็อบทะลุแก๊สที่แยกดินแดงให้ได้ภายในเดือนตุลาคมนี้
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรีกล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มราษฎรนำโดย รุ้ง ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล ที่แยกราชประสงค์เมื่อวันที่ 31ต.ค.ที่ผ่านว่า ขอเชิญชวนประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมของกลุ่ม3นิ้ว ออกมาประณามการชุมนุมเนื่องจากทำให้ประชาชนเกิดความเดือดร้อนและในขณะที่ประเทศไทยกำลังจะเปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามานั้น เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจ และการท่องเที่ยวรวมถึงจะทำให้ประชาชน พ่อค้า แม่ค้า ภาคธุรกิจ มีรายได้แต่มีกลุ่มม็อบ3นิ้วออกมาชุมนุม อาจจะส่งผลต่อความเชื่อมั่นของนักท่องเที่ยวที่กำลังเดินทางเข้ามายังประเทศไทยด้วย ทำให้ประชาชนเสียโอกาสทำมาหากิน
“การออกมาชุมนุมในขณะนี้หรือเคลื่อนไหวมายังทำเนียบรัฐบาลตนเอง ถือว่าเป็นการทำลายประเทศ ทำลายประชาชนที่กำลังจะได้รับโอกาสจากการเปิดประเทศในวันนี้ ไม่นึกถึงคนทั้งประเทศเอาแต่ผลประโยชน์ของตัวเอง ซึ่งพฤติกรรมเช่นนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่เลวร้ายมากขอเรียกร้องให้หยุดการเคลื่อนไหว รวมถึงให้ผู้อยู่เบื้องหลังม็อบ 3 นิ้วที่คิดว่าจะได้ประโยชน์จากการสนับสนุน เป็นอีแอบอยู่เบื้องหลัง ควรหยุดพฤติกรรมนี้เสีย ให้หันมาช่วยกันทำให้ประเทศชาติบ้านเมืองรุ่งเรืองบ้าง
คนที่ออกมาก่อม็อบช่วงนี้ คงไม่มีสมองคิด ทั้งที่รู้ว่าประเทศชาติประชาชนได้รับผลกระทบความเดือดร้อนจากโควิด เศรษฐกิจเสียหายมากมาย แต่พอประเทศชาติ บ้านเมืองและประชาชนกำลังจะฟื้นกลับมีชีวิตที่ดีขึ้น คนพวกนี้กลับมาคิดขัดขวางทำลายบรรยากาศการเปิดประเทศ สมควรที่เรียกพวกคนเหล่านี้ว่าเป็นพวกคนเลว พวกคนหนักแผ่นดิน คนไม่รักบ้านรักเมือง ไม่รักคนไทยด้วยกัน คนพวกนี้เสียชาติเกิดจริงๆ ไม่สมควรเกิดมาเป็นคนไทย เกิดบนผืนแผ่นดินไทยแท้ๆยังกล้าเนรคุณอกตัญญูต่อแผ่นดินเกิด “นายเสกสกล กล่าว
ที่บริเวณแยกนางเลิ้ง น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ รุ้ง แกนนำแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุม พร้อมน.ส.ปิยนุช โคตรสาร ผอ.แอมเนสตี้ประเทศไทย นำรายชื่อประชาชน28,426รายชื่อร่วมลงชื่อเรียกร้อง ให้หยุดดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมและขอให้ปล่อยผู้ต้องขังทางการเมืองที่อยู่ในเรือนจำทุกคน ยื่นให้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม โดยยื่นผ่าน นายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาสำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับเรื่อง
ทั้งนี้ ก่อนที่ รุ้ง ปนัสยากับคณะจะเดินทางมาถึง ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้นำแผงเหล็กมาปิดกั้นถนนพิษณุโลก บริเวณแยกนางเลิ้ง ถนนพระราม 5 ตั้งแต่ แยกวัดเบญจมบพิตรและถนนราชดำเนินนอก ตั้งแต่ แยกสวนมิสกวัน มุ่งหน้ามาทำเนียบเพื่อไม่ให้ผู้ชุมนุมผ่านเข้าถึงบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาลได้ทำให้ตัวแทนรัฐบาล เดินออกมารับหนังสือจากผู้ชุมนุม ที่บริเวณแยกนางเลิ้ง
วันเดียวกัน ที่ศาลอาญา ถนนรัชดาภิเษก ศาลอาญามีคำสั่งลงโทษจำคุก นายณัฐชนน ไพโรจน์ นักกิจกรรมทางการเมือง แนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมในคดีละเมิดอำนาจศาล เป็นเวลา 4 เดือนโดยไม่รอลงอาญา คดีนี้สืบเนื่องจากการชุมนุมหน้าศาลอาญา เพื่อทวงสิทธิประกันตัวผู้ต้องหาคดี112เมื่อวันที่ 29 เม.ย.64 เวลาประมาณ12.30น. มีมวลชนกลุ่มแนวร่วมธรรมศาสตร์และการชุมนุมประมาณ 300 คน ได้เชิญชวนมาทำกิจกรรมยื่นจดหมาย พร้อมทั้งยืนอ่านกลอน ที่ศาลอาญาโดยกลุ่มบุคคลดังกล่าวได้เข้ามาในบริเวณศาลอาญาและรวมตัวกันบริเวณบันไดทางขึ้นด้านหน้าศาลอาญา(บริเวณหน้ามุกศาลอาญา)มีการใช้เครื่องขยายเสียงพร้อมทั้งตะโกนข้อความ“ปล่อยเพื่อนเรา”
ศาลอาญาพิพากษาสั่งจำคุก 6 เดือน น.ส.เบนจา อะปัญ คดีละเมิดอำนาจศาลซึ่งเป็นโทษสูงสุดของข้อหานี้กรณีชุมนุมทวงสิทธิประกันตัวผู้ต้องขัง112ที่หน้าศาลอาญา เมื่อวันที่ 29 เม.ย.โดยวันนี้ศาลได้เบิกตัวเบนจาจากทัณฑสถานหญิงเพื่อมาฟังคำสั่งด้วย ศาลพิเคราะห์คำเบิกความและพยานหลักฐานแล้วเห็นว่า น.ส.เบนจา มีพฤติกรรมประพฤติตัวไม่เรียบร้อยในบริเวณศาล เป็นการละเมิด อำนาจศาล แม้จะยอมรับข้อเท็จริง แต่ไม่สำนึกในการกระทำ ศาลจึงมีคำสั่งให้จำคุก 6 เดือนโดยไม่รอลงอาญาเช่นเดียวกัน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี