‘3ผบ.เหล่าทัพใหม่’เข้ารับหน้าที่ ส.ว. ด้าน ‘พล.อ.มนูญ-อนุมัติ’ ไขก๊อกทิ้งเก้าอี้วุฒิสภา
8 พ.ย.2564 เมื่อเวลา 10.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา ทำหน้าที่ประธานการประชุม ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายพรเพชรแจ้งให้ทราบถึงพระบรมราชโองการแต่งตั้งสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่ง คนใหม่ในส่วนผบ.เหล่าทัพ จำนวน 3 คน ได้แก่ พล.อ.วรเกียรติ รัตนานนท์ ปลัดกระทรวงกลาโหม พล.ร.อ.สมประสงค์ นิลสมัย ผบ.ทร.พล.อ.อ.นภาเดช ธูปะเตมีย์ ผบ.ทอ. มาดำรงตำแหน่งแทน พล.อ.ณัฐ อินทรเจริญ อดีตปลัดกลาโหม พล.ร.อ.ชาติชาย ศรีวรขาน อดีตผบ.ทร. พล.อ.อ.แอร์บูล สุทธิวรรณ อดีตผบ.ทอ.ที่เกษียณอายุราชการ จากนั้นสมาชิกวุฒิสภาโดยตำแหน่งคนใหม่ทั้ง 3 คน ได้กล่าวคำปฏิญาณตนก่อนเข้ารับหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ขณะเดียวกันล่าสุดมีส.ว.ยื่นใบลาออกจากตำแหน่ง 2 คน ได้แก่ พล.อ.อ.มนัส รูปขจร ยื่นใบลาออกเมื่อวันที่ 1 พ.ย.2564 เนื่องจากมีปัญหาด้านสุขภาพมีอายุ 75 ปี และนายอนุมัติ อาหมัด ยื่นใบลาออกเมื่อวันที่ 3 พ.ย.2564 คาดว่าจะไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ ทำหน้าที่วางแผนคุมการเลือกตั้งในพื้นที่ภาคใต้ ทำให้ขณะนี้มีจำนวนส.ว.เหลืออยู่ 248 คน โดยรายชื่อบุคคลที่อยู่ในบัญชีสำรองที่จะขึ้นมาดำรงตำแหน่งส.ว.แทนนั้น ได้แก่ นายสุวัฒน์ จิราพันธุ์ อดีตรองปลัดกระทรวงต่างประเทศ ที่อยู่ในรายชื่อสำรองลำดับที่ 6 ส่วนรายชื่อสำรองลำดับที่ 7 และ 8 คือ พล.อ.ชัยชาญ ช้างมงคล รมช.กลาโหม และพ.ต.อ.จรุงวิทย์ ภุมมา เลขาธิการกกต. หากพล.อ.ชัยชาญและ พ.ต.อ.จรุงวิทย์ จะมารับตำแหน่ง ส.ว. ต้องลาออกจากตำแหน่งปัจจุบัน หากพล.อ.ชัยชาญ และพ.ต.อ.จรุงวิทย์ สละสิทธิ์เป็นส.ว. จะเลื่อนรายชื่อบุคคลสำรองลำดับที่ 9 คือนายลือชา การณ์เมือง อดีตเลขานุการส่วนตัวนายสุรินทร์ พิศสุวรรณ อดีตรมว.ต่างประเทศ ขึ้นมาดำรงตำแหน่งแทน
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี