ทปษ.นายกฯย้ำดราม่าไอโฟนผู้บริหารทำเนียบฯ เป็นครุภัณพ์ขรก.ใช้ปฏิบัติงานอำนวยความสะดวกปชช. รับเข้าใจอารมณ์สังคม วอนเชื่อใช้มือถือทำงานราชการราบรื่น ไม่ได้ใช้ส่วนตัว
เมื่อเวลา 10.30 น.วันที่ 25 พฤศจิกายน 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.นัทรียา ทวีวงศ์ ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ฝ่ายข้าราชการประจำ กล่าวถึงความคืบหน้าหลังยังเกิดความเคลือบแคลงกรณีที่รัฐบาลอนุมัติงบประมาณ 2.6 ล้านบาท เพื่อซื้อไอโฟน 12 จำนวน 111 เครื่อง ให้กับผู้บริหารสำนักนายกฯ ว่า โทรศัพท์มือถือหรือโทรศัพท์คืน ที่ถือเป็นอุปกรณ์ครุภัณฑ์สำนักงานที่ได้มีการจัดใช้มานานแล้ว แต่ก่อนนี้เป็นโทรศัพท์แบบมีสาย แต่ระยะหลังเทคโนโลยีได้มีการพัฒนาไปไกลโทรศัพท์มือถือกลายเป็นปัจจัยสำคัญ ทั้งการใช้ชีวิตและการทำงาน แต่ต้องเข้าใจว่าในส่วนของข้าราชการ ที่เข้ามาปฏิบัติหน้าที่โดยเฉพาะข้าราชการระดับต้น เงินเดือนน้อยนิด หากต้องมาซื้อโทรศัพท์และต้องชำระค่าโทรศัพท์ เพื่อสำหรับงานราชการอีก ข้าราชการบางคนอาจจะไม่สามารถสนับสนุนได้อย่างเต็มที่
"อย่าลืมว่างานที่ทำทั้งหมดคืองานทางราชการ เป็นการอำนวยความสะดวกให้กับประชาชน สำนักงบประมาณและรัฐบาลได้มีการพูดคุยและหารือกันมาตั้งแต่ต้นแล้วถึงความจำเป็น จึงได้กำหนดให้โทรศัพท์เป็นครุภัณฑ์อย่างหนึ่งเช่นเดียวกับคอมพิวเตอร์ จึงได้มีขั้นตอนการจัดหาครุภัณฑ์สิ่งนี้เข้ามาช่วยอำนวยความสะดวกในการปฏิบัติงานของข้าราชการ รวมถึงข้าราชการการเมือง ซึ่งก็ถือว่าเป็นข้าราชการเช่นเดียวกันที่มาปฏิบัติงาน ซึ่งเราก็มีเกณฑ์ที่จะจัดสรรว่าให้ใครบ้าง" น.ส.นัทรียา กล่าว
ที่ปรึกษานายกฯ กล่าวต่อว่า หลายหน่วยงานก็มีลักษณะเช่นเดียวกัน แล้วแต่ว่าใครจะปฏิบัติอย่างไร บางหน่วยงานกำหนดให้เป็นค่าโทรศัพท์ บางหน่วยงานก็เป็นการจัดซื้อให้เป็นโทรศัพท์ เพราะข้าราชการบางคนที่มีโทรศัพท์อยู่แล้วแต่ไม่รองรับกับเทคโนโลยีใหม่ หรือระบบ ios อย่าลืมว่าข้าราชการบางคนมีรายได้น้อย แต่การทำงานบางครั้งต้องใช้ข้อมูลมาก จึงจำเป็นต้องมีมาตรฐานเดียวกัน จึงได้ดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างเพื่อนำมาใช้ในราชการ จึงเป็นที่มาของการจัดซื้อโทรศัพท์ไอโฟน
เมื่อถามว่า กรณีที่สังคมมีการวิพากษ์ทั้งไม่สนับสนุนและเห็นด้วย จำเป็นจะต้องมีการทบทวนระเบียบดังกล่าวหรือไม่ น.ส.นัทรียา กล่าวว่า เข้าใจในความรู้สึกของสังคม และคิดว่าสังคมรับรู้มานานแล้วในการจัดซื้อครุภัณฑ์เหล่านี้ ซึ่งมีหลายครุภัณฑ์ที่สังคมไม่เห็นด้วย แต่ต้องเข้าใจว่าการทำงานทุกอย่าง แม้กระทั่งสื่อมวลชน เห็นว่าโทรศัพท์เป็นปัจจัยสำคัญ ที่จะต้องใช้ในการทำงาน ยิ่งในยุคเปลี่ยนผ่านสู่ระบบดิจิทัล ถ้าหากต้องนั่งเขียนข่าวแล้วกลับไปส่งแฟกซ์ ถามว่าจะเป็นไปได้หรือไม่ ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่ได้ต่อว่า และเข้าใจอารมณ์ของสังคม แต่ขอให้สังคมเชื่อว่าโทรศัพท์มือถือเหล่านี้ทำให้งานราชการราบรื่น และเกิดประโยชน์กับประชาชนจริงๆ พร้อมกับยืนยันว่าไม่ได้มีการนำไปใช้ส่วนตัว หรือผิดวัตถุประสงค์ เพราะทุกครั้งจะมีการตรวจสอบเช็กยอดในการใช้
ผู้สื่อข่าวถามว่า การจัดซื้อดังกล่าวไม่ใช่การจัดซื้อให้ผู้บริหารระดับสูงใช่หรือไม่ น.ส.นัทรียา กล่าวว่า เรื่องนี้ไม่มีอภิสิทธิ์ มีหลักเกณฑ์อยู่แล้ว โดยมีสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เข้ามาตรวจสอบเป็นประจำอยู่แล้ว
เมื่อถามถึงกรณีของมูลนิธิกระจกเงา ที่มีการโพสต์ขอบริจาครับโทรศัพท์มือถือ ได้ทำหนังสือทางการมายังสำนักงาน สลน.เป็นที่เรียบร้อยแล้วหรือยัง น.ส.นัทรียา กล่าวว่า ทางมูลนิธิกระจกเงายังไม่ได้ทำหนังสือมา เพียงแต่ได้โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ซึ่งเราได้เห็น และยินดี ที่ทางมูลนิธิได้ติดตามเรื่องนี้ และเห็นประโยชน์ของโทรศัพท์ที่บางเครื่องสภาพพอใช้ได้ หากมีประโยชน์กับเด็กเราก็ยินดี เพื่อเป็นการใช้ประโยชน์กับผู้ด้อยโอกาส แต่อย่างไรก็ตาม ทรัพย์สินเหล่านี้เป็นทรัพย์สินของทางราชการ มีเลขครุภัณฑ์ หรืออะไรที่เป็นไปตามกฎของราชการ จะเอาไปให้ใครตามที่ขอเลยไม่ได้ ดังนั้น ขอให้ทางมูลนิธิได้ทำหนังสือมา และจะได้เข้าสู่ขั้นตอนการจัดจำหน่ายบริจาค ซึ่งมีคณะกรรมการดูแลเรื่องนี้อยู่แล้ว
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี