ศบค.เคลียร์เหตุผลยังไม่ผ่อนคลายผับ บาร์ หวั่นระบาดซ้ำเหมือนปีก่อน หวังใช้ปีใหม่โชว์ชื่อชั้น ประกาศศักดามาตรการรับมือโควิด
เมื่อเวลา 12.30 น.วันที่ 26 พ.ย.64 ที่ทำเนียบรัฐบาล นพ.ทวีศิลป์ วิษณุโยธิน โฆษกศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. แถลงภายหลังการประชุม ศบค.ชุดใหญ่ ที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม ในฐานะผอ.ศบค. เป็นประธาน ว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงมาตรการสำหรับสถานบันเทิง ผับ บาร์ คาราโอเกะ ซึ่งใช้เวลาหารือตรงนี้นาน เนื่องจากการประชุมวันที่ 12 พ.ย. มีมติให้เปิดบริการได้ในวันที่ 16 ม.ค.65 แต่ผู้ประกอบการยื่นหนังสือขอให้เปิดดำเนินการเร็วขึ้นตั้งแต่เดือน ธ.ค.64 ซึ่งเรื่องนี้ไม่ได้นิ่งเฉย เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศปก.ศบค.) ได้นำมาหารือในที่ประชุม (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'ผับ-บาร์'วืดฉลองปีใหม่! ศบค.ยังไม่คลายล็อกดาวน์ ยันมติเดิมให้เปิด 16 ม.ค.ปีหน้า)
"ที่ประชุมมีความเห็นว่า หากเปิดจะมีความเสี่ยงหลายประการ ทั้งเรื่องการถ่ายเทอากาศ เรื่องพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ต้องถอดหน้ากากอนามัย เวลาดื่มแอลกอฮอล์การครองสติอาจมีปัญหา อีกทั้งจะอยู่ในสถานประกอบการเป็นเวลานาน ที่ผ่านมาก็มีคลัสเตอร์ใหญ่ๆ เกี่ยวกับสถานบันเทิงไม่ต่ำกว่า 2 คลัสเตอร์ ปีที่แล้วประเทศไทยพลาดการฉลองปีใหม่ เพราะมีการติดเชื้อใหญ่ก่อนเทศกาลปีใหม่ไม่นาน ทำให้ภาพลักษณ์การส่งเสริมท่องเที่ยวขาดช่วงไป ดังนั้น จึงต้องทำให้เห็นถึงมาตรการควบคุมโรคที่เป็นการประกาศศักดา ประกาศศักยภาพของประเทศ การใช้เทศกาลฉลองปีใหม่ถือเป็นเรื่องสำคัญ ที่ประชุมจึงเห็นชอบว่าขอให้ดำเนินการตามแผนงานที่กำหนดไว้เดิม โดยตัดเรื่องวันที่ 16 ม.ค.65 ออกไป เพราะถ้าผู้ประกอบการให้ความร่วมมือเต็มที่อาจเปิดเร็วได้กว่าวันดังกล่าวได้"นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
และว่า โดยตั้งแต่วันที่ 1 ธ.ค. ให้สถานประกอบการเตรียมความพร้อม โดยการปรับปรุงสภาพแวดล้อมและมอบให้กระทรวงมหาดไทย กระทรวงสาธารณสุข และคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัด คณะกรรมการโรคติดต่อกรุงเทพมหานคร จัดทำทีมประเมินสถานบันเทิงและซักซ้อมความเข้าใจมาตรการที่กำหนด ให้พิจารณาเปิดดำเนินการเมื่อพร้อมในพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว พื้นที่เฝ้าระวังสูง พื้นที่เฝ้าระวัง การเปิดบริการกำหนดให้จำหน่ายสุราได้ถึง 23.00 น. เปิดบริการได้ถึง 24.00 น. แต่ให้งดกิจกรรมคาราโอเกะ งดพื้นที่เต้นรำส่วนกลาง งดบริการเครื่องดื่มที่ใช้แก้วร่วมกัน งดกิจกรรมส่งเสริมการขาย ต้องยกระดับโควิดฟรีเซตติ้ง นักร้อง พนักงานต้องได้รับการฉีดวัคซีนครบเกณฑ์ ตรวจคัดกรองพนักงานทุกคนด้วย ATK ทุก 3 วัน ลูกค้าต้องแสดงหลักฐานการได้รับวัคซีนและตรวจ ATK ด้วยตัวเองก่อนเข้าบริการ สถานประกอบการต้องลงทะเบียนทำการประเมินตนเองผ่านแพลตฟอร์มไทยสตอปโควิด 2พลัส ควบคุม กำกับ ให้พนักงานตนเองผ่านไทยเซฟไทย
“ภาพลักษณ์ของไทยในช่วงปีใหม่มีความสำคัญสูงมาก ถ้าเราช่วยประคับประคอง ดูแลซึ่งกันและกัน แล้วทำให้การฉลองปีใหม่เกิดเป็นภาพระดับประเทศดำเนินการตรงนั้นได้ จะส่งเสริมอีกหลายๆ ธุรกิจ อีกหลายๆ ด้าน ที่จะทำให้ประเทศไทยมีชื่อชั้นว่ามีศักยภาพในการป้องกันโรคได้อย่างดี”นพ.ทวีศิลป์ กล่าว
นพ.ทวีศิลป์ กล่าวว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.สาธารณสุข ได้ระบุว่ามาตรการสำหรับสถานประกอบการ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่อยากเปิดนี้ ต้องมีเรื่องของโควิดฟรีเซตติ้ง เน้นเรื่องของบุคคล ลูกค้า และสิ่งแวดล้อม ฝากประชาชน โดยเฉพาะผู้ประกอบ ผับ บาร์ คาราโอเกะ ที่มีเวลาในการเตรียมตัวให้พร้อม ถ้าตอบคำถามกับคณะที่ปรึกษาหรือกับกระทรวงสาธารณสุขเกี่ยวกับมาตรการป้องกันโควิดในกิจกรรมที่มีความเสี่ยงสูง ก็มั่นใจได้ว่ากิจกรรมเหล่านี้จะได้กลับมา อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากการที่ยังไม่สามารถเปิดได้นั้น นายกฯได้ให้กระทรวงแรงงานไปสำรวจทั้งนายจ้างและลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบว่ามีจำนวนเท่าไหร่ และให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กระทรวงแรงงาน สำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติดูแลเรื่องการเยียวยาต่อไป โดยบ่ายวันเดียวกัน กระทรวงแรงงาน พร้อมกับสภาพัฒน์ฯ จะหารือกับตัวแทนผู้รับได้รับผลกระทบ
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี