"รมช.สาธารณสุข"แจงมาตรการรับมือ"โอไมครอน" สแกนเข้า-ออกไทยล่าสุดยังพบแค่"เดลต้า" ชี้สถานการณ์ขณะนี้ยังไม่ถึงขั้นต้อง"ปิดประเทศ"
เมื่อวันที่ 2 ธันวาคม 2564 ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายสาธิต ปิตุเตชะ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรี ตอบกระทู้ถามสดด้วยวาจาของ นพ.สุรวิทย์ คนสมบูรณ์ ส.ส.ชัยภูมิ พรรคเพื่อไทย เรื่องมาตรการของรัฐบาลในการรับมือสถานการณ์ไวรัสโควิด "โอไมครอน" ที่ยังคงนโยบายเปิดประเทศ เพราะขณะนี้บางประเทศปิดรับท่องเที่ยวไปแล้วว่า นโยบายเปิดประเทศ รัฐบาลไม่ได้ลุกลี้ลุกลน แต่เป็นการฟื้นเศรษฐกิจ ภายใต้การดำเนินการมาตรการด้านสาธารณสุข-คุมตัวเลขผู้ชิดเชื้อ ซึ่งประเมินแล้วศักยภาพการรับมือของกระทรวงสาธารณสุขยังสามารถรับได้ ทั้งการฉีดวัคซีน การจัดการคัดกรองบุคคล ซึ่งพยายามป้องกันการแพร่ระบาดโควิดทุกสายพันธุ์
นายสาธิต กล่าววต่อว่า ส่วนไวรัสโควิดสายพันธุ์ "โอไมครอน" ยอมรับว่าการยับยั้งไม่ใช่เรื่องง่าย อย่างที่เคยพยายามหยุดยั้งการแพร่ระบาดของไวรัสสายพันธุ์เบต้า ที่ระบาดในพื้นที่ภาคใต้ แต่จะต้องควบคุมและสอบสวนโรคให้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ และจะต้องนำผู้ที่สัมผัสและกลุ่มผู้เสี่ยงสูงเข้ากระบวนการกักตัวควบคุมโรคให้ได้ 100% หลังมีการแพร่ระบาด "โอไมครอน" นายกรัฐมนตรีสั่งปิดรับลงทะเบียนเข้าไทย 9 ประเทศในแอฟริกาที่มีการระบาดสูง ส่วนกลุ่มบุคคลที่เข้ามาก่อนหน้านี้จะต้องมีการกักตัวและตรวจค้นหาเชื้อถึง 3 ครั้ง ซึ่งมีผู้ที่เดินทางเข้ามาในประเทศไทยรวมจนถึงตอนนี้เรา 800 คน ยืนยันว่าจะไม่ตื่นตระหนกบนสถานการณ์ข้อมูลที่ยังไม่ชัดเจน หากมีอัตราตัวเลขผู้ติดเชื้อโอมิครอน 1,000 คน ก็ยังไม่มากพอที่จะสามารถนำไปประกอบการพิจารณาฟันธงว่าจะปิดประเทศหรือไม่ เพราะส่วนใหญ่มีอาการคล้ายกับเดลต้า
รมช.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะเดียวกันยังไม่มียืนยันรายงานเกี่ยวกับผู้เสียชีวิตสาเหตุจากการติดเชื้อดังกล่าว ซึ่งการฉีดวัคซีนในแอฟริกาใต้อัตราค่าเฉลี่ยยังต่ำอยู่ที่ร้อยละ 40 และบางพื้นที่เพียงแค่ร้อยละ 10 เท่านั้น และยอมรับว่ามีโอกาสที่ผู้สูงอายุหรือผู้มีโรคประจำตัวจะเสียชีวิตจากการติดเชื้อโอมิครอน ซึ่งบนพื้นฐานข้อมูลเท่านี้ยังไม่สามารถที่จะพรีผลามตัดสินใจ แต่ก็ไม่ได้ประมาท เพราะไม่สามารถปิดกั้นทุกช่องทางของโรคระบาดได้ โดยนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากประเทศเสียงมีจำนวน 252 คนและมีการตรวจคัดกรองพบว่ามีความเสี่ยง ซึ่งเดินทางมาจากประเทศที่มีการแพร่ระบาดจำนวน 122 คน โดยมีผู้ที่เดินทางออกจากนอกราชอาณาจักรไทยไปแล้ว 4 คน และควบคุมดูแลสังเกตแล้ว 11 คน โดยมีการตรวจค้นหาเชื้อซ้ำแล้ว พบว่าทั้งหมดมีผลเป็นลบ สำหรับอีก 16 คน หากครบ 14 วัน ตามหลักเกณฑ์ก็ถือเป็นไปตามเกณฑ์การควบคุมโรคของโควิดทุกสายพันธุ์ ยกเว้นหากมีข้อมูลว่าโอมิควอน จะใช้ระยะเวลาฟักตัวเกิน 14 วัน ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
"แม้ขณะนี้มี 32 ประเทศที่ติดเชื้อโอมิครอนไปแล้ว รวมถึงประเทศสิงคโปร์ที่อยู่ใกล้กับไทย และมีญี่ปุ่น จีน ฮ่องกง จึงได้สั่งการไปยังอธิบดีกรมควบคุมโรคไปว่าจะต้องรายงานตลอด 24 ชั่วโมง ถึงความคืบหน้าทั้งสถานการณ์ในต่างประเทศและในประเทศไทย และสั่งให้ตรวจทุกคนที่เดินทางมาจากต่างประเทศซึ่งวันนี้ตรวจไปแล้ว 90 คน พบว่ายังเป็นเดลต้าทั้งหมด ส่วนวันนี้จะได้รับรายงานว่าที่เดินทางเข้ามาทั้งหมดมีสถานการณ์อย่างไรนั้น ยืนยันกระทรวงสาธารณสุขมีมาตรการป้องกันอย่างเข้มงวด และจะติดตามข้อมูลให้ครบถ้วนหากมีข้อมูลที่สามารถตัดสินใจอย่างใดอย่างหนึ่ง ก็จะนำเสนอไปยังนายกรัฐมนตรีพิจารณากรณีที่จะส่งผลกระทบบนแรงในแนวเศรษฐกิจ ส่วนแนวทางดำเนินตามมาตรการมาจนถึงขณะนี้พอใจแล้ว" รมช.สาธารณสุข กล่าว
นายสาธิต กล่าวด่วยว่า ส่วนเตรียมการจัดหาวัคซีนที่รองรับกับการแพร่ระบาดโควิดสายพันธุ์โอไมครอนนั้น การผลิตวัคซีนของบริษัทในต่างประเทศ แต่ละยี่ห้อ เชื่อว่าอาจจะกำลังติดตามศึกษาสถานการณ์ไวรัสโอไมครอน ทั้งของแอสตร้าเซเนก้า ไฟเซอร์ และซิโนแวค ที่ได้มีการพูดคุยกัน โดยอ้างอิงข้อมูลข่าวว่าไฟเซอร์แสดงความพร้อมวัคซีนชนิดใหม่ที่รองรับไวรัสโอมิคครอนมาอีก 100 วันข้างหน้า และจอห์นสันแอนด์จอห์นสันอยู่ระหว่างทดสอบประสิทธิภาพของวัคซีนต่อเชื้อกลายพันธุ์ไวรัสชนิดนี้ คาดว่าอีก 2 - 3 สัปดาห์จะทราบผล
- 006