"วิษณุ"ชี้ กมธ.ศึกษากาสิโนไม่ใช่เรื่องใหม่ ทำมาแล้วหลายยุค ระบุในอดีตไม่ถึงฝัน เป็นการต่อสู้กันระหว่างศีลธรรม-สังคม-เศรษฐกิจ ตอบยากยุคผ่านหรือไม่ แต่สุดท้ายจบที่รัฐบาล เผยดีใจที่ทุกพรรคจับมือร่วมกัน
เมื่อเวลา 11.45 น.วันที่ 3 ธันวาคม 2564 ที่ทำเนียบรัฐบาล นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์กรณีที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรมีมติตั้งคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาศึกษาการเปิดสถานบันเทิงแบบครบวงจร ในรูปแบบ Entertainment Complex เพื่อหาแหล่งรายได้ใหม่จากนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้าประเทศ ว่า ในอดีตมีการตั้งคณะกรรมการขึ้นมาศึกษาทุกสมัย สมัยรัฐบาลนายทักษิณ ชินวัตร ได้ตั้งให้ตนเป็นประธานศึกษาเรื่องเอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ แล้ว ตอนนั้นยังไม่ทันพิจารณาจบ ตนก็ลาออกจากรองนายกฯ มาเสียก่อน
ผู้สื่อข่าวถามว่า ตอนนั้นที่ไม่สามารถเดินหน้าผลักดันได้สำเร็จเพราะอะไร นายวิษณุ กล่าวว่า มันคงเป็นการต่อสู้กันระหว่างศีลธรรม สังคม และเศรษฐกิจ เหมือนกับเรื่องโควิด -19 ที่เป็นการสู้กันระหว่างเรื่องสาธารณสุขและเศรษฐกิจ ดังนั้น เรื่องเอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ จะเป็นแบบเดียวกัน ซึ่งจะมาเจอเรื่องของการบังคับใช้ว่าเราควบคุมได้จริงหรือไม่
"ที่จริงมีข้อเสนอเยอะแยะ ทั้งให้ไปตั้งที่เกาะ หรือเสนอให้ตั้งตรงนั้นตรงนี้ มีการระบุชื่อจังหวัดมาแล้วด้วยซ้ำไป ครั้งหนึ่งนายอุทัย พิมพ์ใจชน อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎร เคยมีข้อเสนอว่าอย่าไปตั้งในจังหวัดท่องเที่ยว แต่ให้ตั้งในจังหวัดที่ติดกับจังหวัดท่องเที่ยว เพราะหากตั้งในจังหวัดท่องเที่ยวจะสปอยจังหวัดนั้นไปหมด เช่น ไม่ให้ตั้งที่ภูเก็ต แต่ให้ตั้งที่พังงา เพื่อให้เกิดความเจริญใหม่ขึ้น และจะสามารถควบคุมได้ ข้อเสนอค่อนข้างมาเป็นรูปธรรม ซึ่งในตอนนั้นรัฐบาลส่งผมไปดูงานที่ เก็นติ้งไฮแลนด์ เมืองกัวลาลัมเปอร์ ประเทศมาเลเซีย โดยเก็นติ้งไฮแลนด์บอกว่า ถ้าเราจะเปิด เขาพร้อมจะช่วยแนะนำให้ แต่พอผมลาออกก็เลิกไป"
นายวิษณุ กล่าวว่า สำหรับคณะกรรมการชุดที่มีตนเป็นประธานในอดีต ทำหน้าที่ศึกษาเพื่อที่จะเพิ่มพูนรายได้ให้กับประเทศ นอกจากนี้ จะทำอย่างไรกับเรื่องผลกระทบด้านศีลธรรม รวมถึงเรื่องการควบคุม จะทำอย่างไรให้เกิดภาษีเข้ารัฐโดยไม่มีเบี้ยบ้ายรายทาง การรีดไถ ที่สำคัญที่สุดคือ ส่วนใหญ่ เอนเตอร์เทนเมนท์ คอมเพล็กซ์ เป็นบ่อเกิดแห่งอาชญากรรม มีเรื่องโสเภณี ค้ามนุษย์ ยาเสพติด ทำอย่างไรจะควบคุมสิ่งเหล่านี้ให้ได้ ตนจึงคิดว่า กมธ.ที่ตั้งกันขึ้นมาคงพยายามศึกษาสิ่งเหล่านี้ทั้งแพ็กเกจ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาพอสมควรกว่าจะได้
ผู้สื่อข่าวถามว่า สุดท้ายคนที่จะทำให้สามารถเกิดขึ้นได้จริงคือใคร นายวิษณุ กล่าวว่า สุดท้ายต้องมาที่รัฐบาลเพราะบางอย่างมันทำได้เลย บางอย่างต้องออกกฎหมาย เหมือน กมธ.ต่างๆ ไม่ว่าศึกษาเรื่องอะไร เขาไม่สามารถทำเองได้ เขาจะส่งข้อเสนอมายังรัฐบาล
เมื่อถามว่า ครั้งที่นายวิษณุไปดูงาน ดูแล้วน่าจะเป็นผลดีกับประเทศใช่หรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า ยังไม่ทันไปถึงจุดนั้น เพราะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย เมื่อถามว่า ถ้าอยากให้รอบนี้สำเสร็จ กมธ.ควรต้องไปทำอะไรตรงไหน นายวิษณุ กล่าวว่า ตอบไม่ถูก แต่ กมธ.คงรู้ดี ปล่อยให้เขาศึกษาไปกันสักระยะ ส่วนตนดีใจที่ทุกพรรคเขาจับมือร่วมกัน คงจะได้ข้อมูลที่เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ไม่อย่างนั้นอีกฝ่ายหนึ่งเสนอ อีกฝ่ายหนึ่งค้าน มันจะกลับตาลปัตร
เมื่อถามว่า การที่ประเทศไทยเป็นเมืองพุทธ จะถือเป็นปัจจัยสำคัญหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า เราพูดถึงศีลธรรมอย่าไปพูดเฉพาะศาสนาพุทธเลย เพราะศาสนาอื่นก็ระมัดระวังเรื่องแบบนี้เหมือนกัน
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี