วันเสาร์ ที่ 15 พฤศจิกายน พ.ศ. 2568
‘บิ๊กป้อม’โยนกก.บห.พรรคชี้ขาด
ส่งชิงผู้ว่ากทม.
พร้อมหนุนคนดีร่วมทำงานกับรบ.
‘รัฐบาล-ฝ่ายค้าน’โต้สภาล่ม
ต่างไม่แสดงความรับผิดชอบ
พท.ยื่นร่างก.ม.ลูก2ฉบับแล้ว
หนุนเบอร์เดียวกันทั้งประเทศ
“บิ๊กป้อม” ย้ำชัด ส่ง-ไม่ส่ง ผู้สมัครลงชิง“ผู้ว่าฯกทม.”ให้ กก.บห.ชี้ขาด ลั่นพร้อมหนุนคนดีเข้ามาทำงานกับรัฐบาล รองปธ.วิปรัฐบาล คาใจ“ฝ่ายค้าน”อยู่ แต่ไม่ยอมแสดงตน ทำสภาฯล่ม เตือนฝ่ายรบ.เสียงข้างมาก ร่วมรับผิดชอบ“ไพบูลย์”โวย“สุชาติ”ให้เวลาแสดงตนน้อย ทำสภาล่ม ยกข้อมูลซีกรัฐบาลมาประชุมออกเสียงมากกว่าฝ่ายค้าน ‘ชลน่าน’ซัดสส.ซีกรัฐบาลง่อนแง่นไร้เอกภาพทำสภาล่ม อ้างนับองค์ประชุมเป็นกลไกตรวจสอบรัฐบาล พรรคร่วมรัฐบาล เผยร่าง กม.ลูก2ฉบับ เสร็จแล้ว นัดคุย‘วิษณุ’ก่อนยื่นปธ.สภาฯ 23ธค. ‘ ‘เพื่อไทย’ยื่นร่างแก้กม.ลูก2ฉบับเข้าสภาแล้ว หนุนใช้เบอร์เดียวทั้งประเทศ-ไพรมารีโหวต -รื้อปมยุบพรรค
เมื่อวันที่ 16 ธันวาคม 2564ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ได้กล่าวย้ำถึงการจัดส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร(กทม.)หรือไม่นั้นว่า ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการบริหารพรรคพลังประชารัฐเป็นผู้พิจารณา อย่างไรก็ตามในการให้สัมภาษณ์เมื่อวานนี้ ไม่ได้หมายความว่าพรรคจะไม่ส่งผู้สมัครลงชิงตำแหน่งแต่อย่างใด ทั้งนี้ พล.อ.ประวิตรยังยืนยันอีกว่าในฐานะหัวหน้าพรรคฯจะสนับสนุนคนดีเข้ามาทำงานกับรัฐบาล
คาใจฝ่ายค้านอยู่ไม่แสดงตนทำสภาล่ม
ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะรองประธานคณะประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล(วิปรัฐบาล)กล่าวถึงปัญหาเหตุสภาล่มเมื่อวานนี้(15 ธ.ค.)ว่าเป็นเรื่องที่วิปรัฐบาลจะต้องวิเคราะห์ให้ชัดเจนถึงสาเหตุ ปัญหา และหาแนวทางแก้ปัญหาอย่างน้อย 3ประเด็นคือ ส.ส. พรรคฝ่ายค้านอยู่ร่วมอภิปรายตลอดเวลา แต่ไม่แสดงตนซึ่งต่างจากสมัยก่อน หากฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยกับเรื่องใด มีสิทธิวอล์กเอ้าท์จากห้องประชุม เพื่อไม่ร่วมลงมติได้แต่ฝ่ายค้านขณะนี้ไม่ได้ยึดหลักพิจารณากฎหมายร่วมกันของสภาฯเพียงแต่คิดว่าถ้าฝ่ายรัฐบาลอยู่น้อยจะไม่ขอแสดงตนเป็นองค์ประชุม ซึ่งเห็นว่าการทำงานของฝ่ายค้าน เป็นแค่เพียงเกมการเมือง ซึ่งเสียงข้างมากของรัฐบาลต้องรับผิดชอบ ทั้งนี้ตนแจ้งไปยังประธานวิปรัฐบาลแล้วว่าต้องดูว่าใครจะเป็นคนรับผิดชอบเพราะเรื่องนี้สร้างความเสียหายให้สภา
จี้2วิปร่วมรับผิดชอบการทำงานสภา
นายชินวรณ์ยังระบุอีกว่าเมื่อวานนี้ ประธานในที่ประชุม ก็สั่งปิดประชุมเร็วเกินไป หลังสั่งตรวจองค์ประชุมในเวลา16.30 น.และสั่งปิดประชุมในเวลา16.38น.ทั้งที่ควรให้เวลามากกว่านี้ เพราะส.ส.หลายคนยังอยู่ระหว่างประชุมกรรมาธิการและบางส่วนกำลังรับประทานอาหาร โดยประธานวิปรัฐบาลต้องประสานงานกับประธานสภาผู้แทนฯและพรรคร่วมรัฐบาลซึ่งต้องร่วมรับผิดชอบในเสียงข้างมาก และต้องหาต้นเหตุสำคัญว่าใครขาดประชุม นอกจากนี้ ยังต้องประสานงานกับฝ่ายค้าน ขณะที่ พรรคฝ่ายค้าน ก็ต้องยอมรับกติกาที่เป็นสากล ทั้งนี้ ส่วนตัวอยากให้สภาและวิป2ฝ่ายใช้กลไกสภาฯรับผิดชอบร่วมกัน เพื่อให้การทำงานมีประสิทธิภาพ
‘ไพบูลย์’โวย’สุชาติ’ให้เวลาแสดงตนน้อย
นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวถึงการประชุมสภาฯล่ม เมื่อวานนี้ (15 ธ.ค.)ว่าเรื่องที่เกิด พบว่าตลอดการประชุม ไม่มีปัญหาเรื่ององค์ประชุม และส.ส.ทุกคนยังสามารถทำหน้าที่โหวตตามปกติ พอถึงช่วงการลงมติในญัตติสุดท้าย ประมาณเวลา16.00น.นายสุชาติ ตันเจริญ รองประธานสภาผู้แทนฯคนที่ 1ทำหน้าที่ประธานที่ประชุม สั่งให้สมาชิกแสดงตน โดยให้เวลาเพียง 2 นาที12วินาทีและบอกว่าองค์ประชุมไม่ครบก่อนสั่งปิดประชุมในทันทีโดยไม่แจ้งผลการแสดงตน ซึ่งผู้แสดงตนขณะนั้นมี 229คน องค์ประชุมต้องมี239คนจึงขาดเพียง 10 คนเท่านั้น หลายคนกำลังเดินเข้ามาในห้องประชุมเป็นจำนวนมาก ก็มาไม่ทัน
“ผมเห็นใจ ทั้งวิปฝ่ายค้าน และฝ่ายรัฐบาล ท่านประธานในที่ประชุมท่าน ไม่ได้ให้เวลาเพียงพอก็ปกติการขานชื่อลงคะแนนนั้น จะมีตัวเลขขึ้นให้ท่านประธานเห็นด้วยว่าในขณะนี้มีผู้แสดงตนแล้วเท่าไหร่ ถ้าท่านเห็นท่านดูแล้วว่าครบแล้ว เป็นปกติท่านถึงจะปิดการแสดงตน แต่ถ้ายังไม่ครบ ท่านก็กดออดเรียกอีกก็ครบ ไม่มีปัญหาอะไร เหตุการณ์เมื่อวานนี้ ก็ไม่เกิดขึ้น แต่ผมไม่ได้เข้าข้างใคร ขออนุญาตท้วงท่านประธานว่ามี ส.ส.มีข้อท้วงติงเรื่องนี้มาและไม่เป็นธรรมกับผู้ที่แสดงตนด้วย”นายไพบูลย์ ย้ำ
ยกข้อมูลรบ.ออกเสียงมากกว่าฝ่ายค้าน
นายไพบูลย์ กล่าวอีกว่าจากรายงานผลการตรวจสอบการออกเสียงลงคะแนนรายพรรคเมื่อวานนี้(15ธ.ค.)เวลา15.00น.กรณีการตรวจสอบองค์ประชุม พบพรรคร่วมฝ่ายค้านเช่น พรรคเพื่อไทยมีส.ส.ทั้งหมด 132 คน มีส.ส.ที่ออกเสียง 9 คน มี ส.ส.ที่ไม่ออกเสียง 123คน คิดเป็นร้อยละ 6.82 พรรคก้าวไกล มีส.ส.ทั้งหมด 52 คน มีส.ส.ออกเสียง 14 คน มีส.ส.ที่ไม่ออกเสียง 38 คน คิดเป็นร้อยละ 26.92 ขณะที่พรรคร่วมรัฐบาล เช่น พรรคพลังประชารัฐ มีจำนวน ส.ส.ทั้งหมด 117 คน มีส.ส.ที่ออกเสียง 109คน มีส.ส.ที่ไม่ออกเสียง 8 คน คิดเป็นร้อยละ 93.16 พรรคภูมิใจไทย มี ส.ส. ทั้งหมด59 คน มีส.ส. ที่ออกเสียง 57คน มีส.ส.ที่ไม่ออกเสียง 2คน คิดเป็นร้อยละ 96.61 พรรคประชาธิปัตย์ มีส.ส.ทั้งหมด49คน มีส.ส.ที่ออกเสียง37คน มีส.ส.ที่ไม่ออกเสียง 12 คน คิดเป็นร้อยละ 75.51 พรรคชาติไทยพัฒนา มีส.ส.ทั้งหมด 12 คน มีส.ส. ที่ออกเสียง5คน มี ส.ส.ที่ไม่ออกเสียง 7 คน คิดเป็นร้อยละ 41.67
‘ชลน่าน’เตือนรบ.ลั่นนับองค์ประชุม
ทางด้านนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.)กล่าวถึงกรณีวิปรัฐบาลพาดพิงเรื่ององค์ประชุมสภาล่มว่าฝ่ายค้านอยู่ในห้องประชุม แต่ไม่แสดงตน ไม่ทำหน้าที่ว่า ตนได้หารือกับหัวหน้าพรรคการเมืองฝ่ายค้านและได้แถลงไปแล้วว่า ฝ่ายค้านจะตรวจสอบการทำงานของฝ่ายรัฐบาลอย่างเข้มข้นทั้งในสภาการทำงานสส.ซีกรัฐบาล และการบริหารราชการของคณะรัฐมนตรี ซึ่งฝ่ายค้านเคยประกาศชัดเจน ไม่เป็นองค์ประชุมให้ หากองค์ประชุมครบ ฝ่ายค้านก็พร้อมร่วมโหวตอย่างเต็มที่
ซัดสส.รัฐบาลง่อนแง่นไร้เอกภาพ
“ตั้งแต่ข้ามาทำหน้าที่หัวหน้าพรรคพท.หวังให้เสียงข้างมากได้ ตระหนักถึงความรับผิดชอบระบบของรัฐสภา ทั้งนี้ แนวปฏิบัติของฝ่ายค้าน ให้ร่วมลงชื่อเป็นองค์ประชุม เพื่อเปิดการประชุมสภาฯแต่เมื่อจะมีการลงมติครั้งใดโดยเฉพาะกฎหมายสำคัญ ฝ่ายค้าน จะตรวจสอบการทำงานของฝ่ายรัฐบาล โดยตรวจสอบองค์ประชุมทุกครั้ง เชื่อว่าจะไม่เกิดเป็นภาพลักษณ์เชิงลบต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายนิติบัญญัติ แต่จะเป็นบรรทัดฐานที่ดี เพื่อทำให้รัฐสภาเข้มแข็งขึ้น ทั้งนี้ ในยุคที่พรรคพท.เป็นรัฐบาล ไม่เคยมีปัญหาเรื่ององค์ประชุมล่มเช่นนี้ แม้ตอนนี้รัฐบาลมีเสียง266เสียง แต่บริหารงานได้ง่อนแง่น ไม่เป็นเอกภาพ นพ.ชลน่านย้ำ
รบ.ร่างกม.ลูก2ฉบับเสร็จยื่นสภา23ธค.
ที่รัฐสภา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ในฐานะรองประธานวิปรัฐบาลกล่าวถึงความคืบหน้าการเสนอร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ คือร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และพ.ร.บ.ประกอบพรรคการเมืองว่า ขณะนี้คณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล ได้ยกร่างเสร็จเรียบร้อยแล้วและได้นำเข้าสู่การพิจารณาของวิปรัฐบาลเมื่อวันที่ 13 ธ.ค.โดยวิปรัฐบาลเห็นด้วยกับทั้ง2ร่างโดยมีหลักการสำคัญคือ1.จะมีการเสนอร่างร่วมกันเป็นฉบับเดียวกัน โดยจะนำเสนอร่างต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎรในวันที่23ธ.ค. โดยประเด็นที่จะแก้ไข จะเป็นไปตามที่แก้ไขรัฐธรรมนูญ คือ การใช้ระบบบัตร 2 ใบเท่านั้น และยอมรับร่างที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)เสนอผ่านคณะรัฐมนตรี(ครม.) เพราะเป็นส่วนที่แก้ไขเกี่ยวข้องกับการทำงานของ กกต.จึงไม่ขัดข้อง ส่วนบางประเด็นที่ไม่เห็นด้วยก็จะแปรญัตติได้ เช่นการกำหนดหมายเลขผู้สมัครส.ส.เขตและบัญชีรายชื่อ เป็นหมายเลขเดียวกัน
ในวันที่ 20 ธ.ค.นี้เวลา 10.00น.นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีได้เชิญคณะทำงานร่างกฎหมายลูกของพรรคร่วมรัฐบาลไปแลกเปลี่ยนความเห็น ที่ทำเนียบรัฐบาลซึ่งเรายินดีที่จะรับฟังความคิดเห็นร่าง กกต. ที่เสนอผ่านทาง ครม. ส่วนจะมีประเด็นไหนที่จะต้องมีการอภิปรายหรือต้องดำเนินการ โดยจะยึดหลักสำคัญว่าเราต้องการเห็นการเลือกตั้งที่จะเกิดขึ้นครั้งต่อไปบริสุทธิ์ ยุติธรรม
‘เพื่อไทย’ยื่นร่างกม.ลูก2ฉบับแล้ว
วันเดียวกัน ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.) พร้อมด้วยนายสุทิน คลังแสง ส.ส.มหาสารคาม ในฐานะประธานวิปฝ่ายค้าน และส.ส.ของพรรคได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญ 2 ฉบับ คือร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. และพ.ร.บ.ประกอบพรรคการเมือง ต่อ ประธานสภาผู้แทนราษฎร ผ่าน นพ.สุกิจ อัถโถปกรณ์ ที่ปรึกษาฯ เพื่อให้สอดคล้องกับรัฐธรรมนูญที่มีการเปลี่ยนแปลงสัดส่วน ส.ส.ทำให้เขตเลือกตั้งเพิ่มขึ้นรวมถึงระบบบัตรเลือกตั้ง ที่กลับไปใช้บัตร2ใบจึงจะต้องแก้ไขให้มีกฎหมายมีความสอดคล้องกัน ทั้งนี้ เชื่อว่าร่างกฎหมายทั้ง 2 ฉบับจะสามารถประกาศใช้ได้ในเดือน มีนาคม 65
ชงแก้ใช้เบอร์เดียวทั้งประเทศ
สำหรับรายละเอียดสาระในการแก้ไขร่าง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. ได้มีการเสนอแก้ไข หมายเลขผู้สมัครเลือกตั้งให้เป็นหมายเลขเดียวกันทั้งประเทศ ทั้งแบบแบ่งเขต และแบบบัญชีรายชื่อและได้มีการแก้ไขการกำหนดเขตเลือกตั้ง โดยให้กำหนดเขตที่ติดต่อกัน และมีสัดส่วนประชากรใกล้เคียงกัน เป็นเขตการเลือกตั้ง รวมถึงการคำนวณคะแนน ส.ส.บัญชีรายชื่อให้เป็นสัดส่วนโดยตรง สัมพันธ์กับคะแนนของทุกพรรค หากมีเศษเหลือ เมื่อคำนวณแล้วยังไม่ครบจำนวน จะต้องพิจารณาตามจำนวนเศษทศนิยมที่เหลือที่มากที่สุดก่อน
ยืนยันเจตนารมณ์ทำไพรมารีโหวต
ส่วนร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมือง คาดว่าคณะรัฐมนตรี (ครม.) จะไม่มีการเสนอแก้ไข แต่พรรคเพื่อไทย เห็นว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงรัฐธรรมนูญ จำนวน ส.ส.จึงควรแก้ไขให้สอดคล้องกันด้วย โดยเฉพาะการจัดตั้งสาขาพรรคการเมืองประจำเขต โดยยังคงยืนยันเจตนารมณ์การทำไพรมารีโหวต แต่วิธีการได้เสนอให้ใช้สาขา หรือตัวแทนพรรคการเมืองประจำจังหวัดเพียงแห่งเดียว ก็สามารถส่งผู้สมัครได้ทุกเขตเลือกตั้งในจังหวัดนั้น แทนการกำหนดให้มีสาขาทุกเขตเลือกตั้ง รวมถึงข้อจำกัดค่าบำรุงสมาชิกพรรคการเมือง ที่พรรคเสนอให้ยกเลิกการจัดเก็บค่าบำรุงโดยให้แต่ละพรรคการเมืองไปกำหนดการชำระค่าสมาชิกเองตามความเหมาะสมรวมถึงการยกเลิกการวางนโยบายการหาเสียง ที่จะต้องไปพิจารณากรอบวินัยการเงินการคลัง แหล่งรายได้ เป็นต้น นอกจากนี้ ยังเสนอเกี่ยวกับการยุบพรรคการเมือง เพราะกรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยยุบพรรคต้องมีความชัดเจน
ไม่มีฉบับฝ่ายค้าน/คาดถก ม.ค.65
ด้านนายสุทินกล่าวว่า หลังจากนี้เป็นกระบวนการของสภาฯที่จะตรวจสอบความถูกต้อง ก่อนที่จะบรรจุระเบียบวาระการประชุม คาดว่าจะเข้าสู่การพิจารณาของสภาฯได้ในช่วงเดือนมกราคม2565เพราะขณะนี้หลายพรรคการเมือง ก็เริ่มทยอยยื่นร่างแก้ไขแล้ว และยืนยันว่าไม่มีร่างแก้ไขฉบับพรรคร่วมฝ่ายค้าน เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่จึงให้เสรีและอิสระกับทุกพรรคการเมือง
ศาลฎีกาสั่ง สส.พท.ยุติทำหน้าที่
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 15ธ.ค.ศาลฎีกาอ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ คมจ.4/2564ระหว่าง คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.)ผู้ร้อง และนายอนุรักษ์ ตั้งปณิธานนท์ สส.มุกดาหาร พรรคเพื่อไทย(พท.)ผู้คัดค้าน เรื่อง การฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง กรณีเรียกรับเงิน 5ล้านบาท จากอธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลแลกกับการผ่านงบประมาณซึ่ง ป.ป.ช.มีมติชี้มูลความผิดไปก่อนหน้านี้
ศาลฎีกาพิจารณาแล้ว เห็นว่า คำร้องของผู้ร้องบรรยายพฤติการณ์ที่กล่าวหา พร้อมทั้งชี้ช่องพยานหลักฐานชัดเจนเพียงพอที่จะดำเนินกระบวนพิจารณาไต่สวนข้อเท็จจริงต่อไปได้ และผู้ร้องดำเนินการตามระเบียบที่ประชุมใหญ่ศาลฎีกาว่าด้วยการพิจารณาพิพากษาคดีเกี่ยวกับการฝ่าฝืนหรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานทางจริยธรรมอย่างร้ายแรง พ.ศ.2561 ครบถ้วนแล้ว จึงมีคำสั่งให้รับคำร้อง เมื่อศาลฎีกามีคำสั่งรับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัยแล้ว และมิได้มีคำสั่งเป็นอย่างอื่น ผู้คัดค้าน ย่อมต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าจะมีคำพิพากษาตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช2560 มาตรา235 วรรคสาม นัดพิจารณาครั้งแรกเพื่อตรวจพยานหลักฐาน ในวันที่ 10 ก.พ.2565 เวลา 9.30น.
พรรคกล้าเปิดตัว’พงศธร’ชิงเขต6สงขลา
ที่ศาลาเอนกประสงค์บ้านยูงทอง อ.คลองหอยโข่ง และวัดยางทอง อ.สะเดา จ.สงขลา เพื่อพบปะประชาชน นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า พร้อมด้วย พ.อ.สุชาติ จันทรโชติกุล ประธานยุทธศาสตร์ภาคใต้ ได้ลงพื้นที่ เขต 6จ.สงขลา พร้อมเปิดตัว นายพงศธร สุวรรรณรักษา(ทนายอาร์ม)ว่าที่ผู้สมัครรับเลือกตั้งซ่อมในพื้นที่เขต 6 สงขลา
นายกรณ์ กล่าวกับประชาชนในพื้นที่ว่าต้องการทำให้ประเทศไทยเราดีขึ้น ทำให้ประชาชนมีโอกาสเหมือนกับที่ตนเองเคยได้รับมา การเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ มีความสำคัญการเมืองที่ดีขึ้น คือ การสร้างโอกาสการแก้ปัญหาให้กับประชาชน แต่ต้องอาศัย 2 เรื่อง คือ การบริหารจัดการที่ดี และความกล้าในการชนกับผู้มีอิทธิพล กล้าในการชนกับกลุ่มผลประโยชน์ นี่ทำให้พรรคกล้าถึงตัดสินใจส่งผู้สมัครลงเลือกตั้งซ่อมครั้งนี้
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี