เลือกตั้งซ่อม‘ชุมพร-สงขลา’
แห่ใช้สิทธิ์คึกคัก
ลุ้น 2 พรรคการเมืองใหญ่ชิงสส.
ชุมพรจับทำผิดก.ม.เลือกตั้ง 4 ราย
ถ่ายภาพขณะลงคะแนนในคูหา
ผลโพลล์หนุน‘บิ๊กตู่’นั่งนายกฯต่อ
จี้สะสางกลุ่มผลประโยชน์ใกล้ตัว
ประชาชนผู้มีสิทธิ์แห่ลงคะแนนกาบัตรเลือกตั้งซ่อม ใน “ชุมพร-สงขลา” กันคึกคัก ประธานกกต.คาดหน้าหน่วยรู้คะแนนไม่เกิน1ทุ่ม ปลื้มคืนหมาหอน ไร้รายงานทุจริต- กำชับ กปน.ให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง ต้องเปิดหน้ากากแสดงตน ขณะที่ชุมพรจับทำผิดกม.เลือกตั้ง 5ราย ถ่ายภาพบัตรลงคะแนนในคูหาเหมือนกัน ซูเปอร์โพล’เปิดผลสำรวจปชช.ยังหนุน‘บิ๊กตู่’นั่งนายกฯ ไม่มีใครเหมาะสมเท่า แนะกล้าทำสิ่งถูกต้อง หวังเปลี่ยนการเมืองใหม่ สะสางกลุ่มผลประโยชน์ใกล้ตัว
เมื่อวันที่ 16มกราคม2565 คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)จัดการเลือกตั้งซ่อม ส.ส.เขตเลือกตั้งที่ 1 ชุมพร และ ส.ส.เขตเลือกตั้งที่6 สงขลา แทนตำแหน่งที่ว่าง เนื่องจาก นายชุมพล จุลใส อดีต ส.ส.ชุมพร และนายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา ของพรรคประชาธิปัตย์ ต้องคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญว่ามีลักษณะต้องห้ามในการดำรงตำแหน่ง บ
รรยากาศหลังการเปิดหีบเลือกตั้ง เวลา08.00น.เป็นไปอย่างเรียบร้อย ประชาชนรอใช้สิทธิตั้งแต่เช้าอย่างคึกคักตลอดทั้งวันทั้ง2เขต ก่อนปิดหีบเลือกตั้งในเวลา 17.00 น.ยังมีประชาชนออกมาใช้สิทธิต่อเนื่อง
สำหรับการเลือกตั้ง ส.ส.เขต 1 ชุมพร ครั้งนี้ มีผู้สมัครทั้งสิ้น 5 คน ได้แก่ นายอิสรพงษ์ มากอำไพ พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 1 หลานภรรยานายชุมพล จุลใส ร.ต.ท.สมชาย แพ่งยงยุทธ พรรคไทยศรีวิไลย์ หมายเลข 2 นายวรพล อนันตศักดิ์ พรรคก้าวไกล หมายเลข 3 นายชวลิต อาจหาญ หรือ “ทนายแดง”พรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 4 พ.ต.อ.ทศพล โชติคุตร์ หรือ ผู้กำกับหนุ่ย”พรรคกล้า หมายเลข 5 เป็นอดีตตำรวจติดตาม นายกรณ์ จาติกวณิช หัวหน้าพรรคกล้า
โดยการเลือกตั้งเมื่อ24มี.ค.62 เขต 1 จ.ชุมพร มีผู้มีสิทธิเลือกตั้ง 133,059 คน นายชุมพล จุลใส พรรคประชาธิปัตย์ ชนะการเลือกตั้ังด้วยคะแนน42,683 คะแนน นายชวลิต อาจหาญ พรรคพลังประชารัฐ ได้32,219คะแนน นายชาญวิทย์ ใจสว่างจากพรรคอนาคตใหม่ ได้10,347คะแนน
ขณะที่การเลือกตั้ง ส.ส.เขต 6 สงขลา ครั้งนี้ มีผู้สมัครรวม 5 คนได้แก่ น.ส.สุภาพร กำเนิดผล พรรคประชาธิปัตย์ หมายเลข 1 เป็นอดีตรองนายก อบจ.สงขลา เป็นภรรยาของนายเดชอิศม์ ขาวทอง ส.ส.สงขลาและรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ นายธิวัชร์ ดำแก้ว พรรคก้าวไกล หมายเลข 2 นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ พรรคพลังประชารัฐ หมายเลข 3 นายพงษธร สุวรรณรักษา พรรคกล้า หมายเลข 4 และนางภัทรวดี ศรีศักดา พรรคพลังสังคม หมายเลข 5
โดยการเลือกตั้งเมื่อปี2562 นายถาวร เสนเนียม พรรคประชาธิปัตย์ ได้รับเลือกด้วยคะแนน28,465คะแนน นายสมปอง บริสุทธิ์ พรรคพลังประชารัฐ ได้19,317คะแนน นายพัฒนา เฉลิมเหล่าสุวรรณ พรรคชาติไทย ได้13,864 คะแนน นายสัมพันธ์ ละอองจิตต์ พรรคอนาคตใหม่ ได้ 11,966 คะแนน
ปธ.กกต.ลงตรวจเลือกตั้งชุมพร
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเช้า นายอิทธิพร บุญประคอง ประธานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมการปฏิบัติหน้าที่ของกรรมการประจำหน่วยและสังเกตการณ์ใช้สิทธิเลือกตั้งซ่อม ส.ส.ชุมพรเขตเลือกตั้งที่ 1 ณหน่วยเลือกตั้ง องค์การบริหารส่วนตำบลปากน้ำชุมพร
ประธาน กกต.กล่าวว่าถือเป็นข่าวที่ดี ตั้งแต่เมื่อคืนจนถึงขณะนี้ ไม่มีรายงานว่ามีเหตุการณ์ใดที่เป็นการฝ่าฝืน หรือ ทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ซึ่งตนได้ตระเวนดูเพราะว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่แข็งขันหวังว่าการเลือกตั้งวันนี้ ผู้มีสิทธิ์จะออกมาแสดงพลังใช้สิทธิ์เลือกตั้งกันให้มากกว่าเดิม หรืออย่างน้อยก็เท่าเดิมโดยเขต1ชุมพรในการเลือกตั้งเมื่อปี62มีผู้มาใช้สิทธิ์ไม่น้อยกว่าร้อยละ77ส่วนผู้ที่ในวันนี้ยังต้องทำงานสามารถขออนุญาตผู้บังคับบัญชาออกมาใช้สิทธิ์ได้เพราะตามกฎหมายผู้บังคับบัญชามีหน้าที่ในการอำนวยความสะดวกให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมาใช้สิทธิ์ ในการตรวจหน่วยเลือกตั้งได้เน้นย้ำกรรมการประจำหน่วยในประเด็นที่เคยเป็นข้อร้องเรียนก่อนหน้านี้คือการที่ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งมาแสดงตนขอใช้สิทธิ์ กปน.ต้องอย่าลืมให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งถอดหน้ากาก เพื่อแสดงตน
ไม่เกิน1ทุ่มรู้ผลไม่เป็นทางการ
นายอิทธิพรกล่าวอีกว่า ส่วนผลคะแนนเลือกตั้งอย่างไม่เป็นทางการ คาดว่าไม่เกิน19.00น.ผลการนับคะแนนหน้าหน่วย น่าจะแล้วเสร็จเพราะใน 280หน่วยเลือกตั้งของเขต1ชุมพร มีบางหน่วยที่มีผู้มีสิทธิ์เพียง200- 500คน การนับคะแนนก็น่าจะเร็ว และเมื่อมีการนำผลคะแนนไปรวมที่ศูนย์ปฏิบัติการเลือกตั้ง คิดว่าจะทราบผลคะแนนอย่างไม่เป็นทางการไม่น่าจะเกิน22.00น
จากนั้น ประธาน กกต.พร้อมคณะลงพื้นที่สังเกตการณ์การลงคะแนนตามหน่วยเลือกตั้งอื่น ภายในเขตเลือกตั้งที่ 1 อำเภอเมืองชุมพร และอำเภอสวี จังหวัดชุมพร
ชุมพรทำผิดกม.5รายถ่ายภาพในคูหา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ากรรมการประจำหน่วยเลือกตั้ง(กปน.)ซ่อม ส.ส.เขต1จ.ชุมพรพบการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งโดยผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพขณะลงคะแนนในคูหาเลือกตั้งอย่างต่อเนื่อง
ในช่วงเช้า พบนายซอแล๊ะ ลาสมัน อายุ 30 ปี ซึ่งใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพขณะลงคะแนน ที่หน่วยเลือกตั้งที่ 6 บ้านนาแร่ หมู่10 ต.วังไผ่ อ.เมือง จ.ชุมพร ได้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง โดยใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพขณะลงคะแนนในคูหาเลือกตั้ง เบื้องต้นให้การสารภาพว่าถ่ายรูปในคูหา พร้อมภาพบัตรลงคะแนนจริงอ้างว่านำไปยืนยันในการรับเงิน จึงตัวส่ง สภ.เมืองชุมพรเพื่อดำเนินคดี
ต่อมา เวลา12.14น.ที่ศาลาอเนกประสงค์ประจำหมู่บ้าน หน่วยเลือกตั้งที่ 3 บ.บางคอย ม.1 ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร กปน.พบนายอภิสิทธิ์ ทิพย์สุข อายุ 19 ปี/65 ภูมิลำเนาบ้านเลขที่ 160/28 บ.บางคอย ม.1 ต.ท่ายาง อ.เมือง จ.ชุมพร ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพขณะลงคะแนนในคูหาเลือกตั้ง เช่นกับที่โรงแรมภราดรอินทร์ หน่วย เลือกตั้งที่ 9 ถนนศาลาแดง ต.ท่าตะเภา อ.เมือง กปน.นำตั วนายฐาปกรณ์ โตรี อายุ 21 ปี/65ภูมิลำเนาบ้านเลขที่188/46 ถ.ศาลาแดง ต.ท่าตะเภา อ.เมือง ส่งสภ.เมืองชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย หลังพบนายฐาปกรณ์กระทำการลักษณะเดียวกัน
รายที่ 4 นายพรเทพ อุ่นชิน อายุ 30 ปี/65ภูมิลำเนาบ้านเลขที่ 416 ม.2 บ.ตลาด ต.ปากน้ำ อ.เมือง ฯ มาลงคะแนนเลือกตั้งซ่อมที่อาคารอเนกประสงค์ ร.ร.ปากน้ำชุมพรวิทยา หน่วยเลือกตั้งที่ 3 บ.ตลาด ม.2 ต.ปากน้ำ อ.เมืองฯได้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง ยใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพขณะลงคะแนนในคูหา จนท.ประจำหน่วยเลือกตั้ง จึงได้นำตัวส่ง สภ.ปากน้ำชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไปและรายที่ 5 นายพรเทพ อุ่นชิน อายุ 30 ปี /65ภูมิลำเนาบ้านเลขที่ 416 ม.2 บ.ตลาด ต.ปากน้ำ อ.เมือง ฯ ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพขณะลงคะแนนเลือกตั้งซ่อมที่อาคารอเนกประสงค์ ร.ร.ปากน้ำชุมพรวิทยา หน่วยเลือกตั้งที่ 3 บ.ตลาด ม.2 ต.ปากน้ำ อ.เมืองฯ กปน. จึงได้นำตัวส่ง สภ.ปากน้ำชุมพร เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทั้งนี้ ตามพรป.ว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.มาตรา 97ห้ามมิให้ผู้มีสิทธิ์เลือกตั้งใช้เครื่องมือหรืออุปกรณ์ใดถ่ายภาพบัตรเลือกตั้งที่ตนได้ลงคะแนนเลือกตั้งแล้วและมาตรา165 ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 97 หรือมาตรา 99 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน1ปี ปรับไม่เกิน20,000บาท อีกทั้งจำทั้งปรับ
‘ทนายแดง’แจ้งความ-ร้องกกต.เชือด
ล่าสุดมีรายงานว่านายชวลิต อาจหาญหรือ“ทนายแดง”ผู้สมัคร ส.ส.ชุมพรเขต1พรรคพลังประชารัฐและทีมงานเดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนเพื่อแจ้งความเอาผิดดำเนินคดีผู้ต้องหารวมถึงนักการเมืองที่ถูกพาดพิงจากกรณีดังกล่าวด้วย และได้ยื่นร้องเรียนต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งกรณีมีผู้กระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเห็นว่าเข้าข่ายผิดกฎหมายเลือกตั้งจึงยื่นให้กกต.ตรวจสอบว่ามีการกระทำผิดจริงหรือไม่ หากพบผิดจริง ให้เอาผิดผู้กระทำผิดจนถึงที่สุด เพื่อให้การเลือกตั้งซ่อมส.ส.ชุมพรเป็นไปอย่างบริสุทธิ์ยุติธรรม
สงขลาปชช.ทยอยใช้สิทธิ์ลงคะแนน
ที่จังหวัดสงขลา หลังเปิดหีบการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 6 สงขลา าตั้งแต่08.00น.พบว่าบรรยากาศทั้ง 215 หน่วยเลือกตั้งใน 3 อำเภอนั้น ประชาชนเดินทางมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันอย่างต่อเนื่อง
นางพะเยีย ศิริโชติ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดสงขลากล่าวว่า ในภาพรวมนั้น ได้รับรายงานการเปิดหีบรวมถึงการเลือกตั้งที่เป็นไปด้วยความเรียบร้อย ทุกหน่วยดำเนินการตามข้อกำหนดทั้งหมด ขณะที่ประชาชน มีความตื่นตัวทยอยออกมาใช้สิทธิเลือกตั้งกันเป็นจำนวนมาก โดยประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งประมาณ120,000 คน ในเขต 6ยังสามารถเดินทางออกไปใช้สิทธิได้ตลอดทั้งวันจนถึงเวลาปิดหีบเลือกตั้ง17.00น.เบื้องต้นคาดจะมีผู้ออกมาใช้สิทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 75
ส่วนการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งนั้น ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนการกระทำผิดกฎหมายเลือกตั้งเข้ามายัง กกต.เพียง1เรื่อง อยู่ระหว่างการตรวจสอบคำร้อง ส่วนในคืนหมาหอนที่ผ่านมานั้น ได้ประสานข้อมูลกับชุดสืบสวนสอบสวน พบว่าสถานการณ์ยังเป็นไปตามปกติ ไม่มีเรื่องร้องเรียน หรือ การแจ้งเบาะแสให้เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบแต่อย่างใด มีเพียงการพูดถึงเป็นกระแสข่าวเท่านั้น
ชาวคลองแงะแห่ใช้สิทธิ์เขต6สงขลา
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่โรงเรียนบ้านคลองแงะ (ชาติบุณยวิทยาคาร ) ต.พังลา อ.สะเดา จ.สงขลา มีประชาชนชาวคลองแงะ ออกมาใช้สิทธิ์ ลงคะแนนเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 6 โดยเฉพาะที่เขตเลือกตั้งที่7,8 และ 9 ภายในโรงเรียนบ้านคลองแงะ มีประชาชนทยอยออกมาใช้สิทธิ์เลือกตั้งซ่อมครั้งนี้ เป็นจำนวนมาก
ขณะที่ช่วงบ่ายประชาชนยังคงออกมาใช้สิทธิ์กันอย่างต่อเนื่องซึ่งผลการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต6 สงขลาจะทราบผลอย่างไม่เป็นทางการในช่วงเวลาประมาณ 22.00น.
สงขลายังไม่พบทำผิดกม.เลือกตั้ง
ด้านนางสาวศตพร สุวรรณประดับ รอง ผอ.คณะกรรมการการเลือกตั้งจังหวัดสงขลาเผยว่า จากการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมตามหน่วยเลือกตั้งต่างๆ พบมีประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งนี้มาใช้สิทธิแล้วเกินกว่า50เปอร์เซ็นต์ คาดว่าหลังจากปิดหีบลงคะแนนจะมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งใน3อำเภอ เกินเป้าที่ตั้งไว้ และยังไม่พบรายงานการทำผิดกฎหมายเลือกตั้ง
โพลแนะ‘บิ๊กตู่‘กล้าทำสิ่งถูกต้อง
ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล(SUPER POLL)เปิดเผยผลสำรวจเรื่อง “ความนิยมต่อนายกรัฐมนตรีและเบื้องหลังปัญหาวิกฤติ ช่วงต้นปี 2565”สอบถามกลุ่มตัวอย่างทุกสาขาอาชีพกระจายทั่วทุกภูมิภาคของประเทศ1,119ตัวอย่างระหว่างวันที่ 10-15 .ค.พบประเด็นที่น่าสนใจ มื่อถามถึงการทำงานของทุกภาคส่วนแก้วิกฤติต่างๆของชาติบ้านเมืองและประชาชน พบส่วนใหญ่หรือร้อยละ87.8ระบุภาคเอกชน ผู้ประกอบการ ยังกินรวบผูกขาดธุรกิจ กีดกันรายย่อย บ่อเกิดปัญหาทุจริตคอร์รัปชั่นในระบบราชการ, ร้อยละ86.8 ระบุภาคประชาชน ต้องร่วมรับผิดชอบเคารพกฎหมายและระเบียบกฎเกณฑ์ทางสังคม ไม่เอารัดเอาเปรียบกันเองไม่สร้างความเกลียดชังกันจนเกิดปัญหากระทบส่วนรวม, ร้อยละ 86.5 ระบุว่า ส่วนราชการกระทรวงต่างๆข้าราชการไม่ค่อยรับผิดชอบในหน้าที่ เกียร์ว่างปล่อยปละละเลยและยังรับประโยชน์เกิดการทุจริต
ร้อยละ 85.5 ระบุว่านายกรัฐมนตรี นักการเมืองร่วมรัฐบาลและเจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวข้อง ต้องแสดงความจริงจังและจริงใจให้เห็นในการนำข้าราชการที่ละเว้นหน้าที่ปล่อยปละละเลยจนเป็นเหตุของปัญหาสำคัญมาลงโทษฯ ที่น่าสนใจคือส่วนใหญ่หรือร้อยละ85.1ระบุพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ต้องกล้าเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่และทำสิ่งที่ถูกต้อง สะสางกลุ่มผลประโยชน์ใกล้ตัวและพวกพ้องในกลุ่มราชการให้ได้อย่างแท้จริง
หนุน’บิ๊กตู่’นายกฯ/ไร้ใครเหมาะเท่า
พบว่า ความต้องการของประชาชนส่วนใหญ่หรือร้อยละ 82.0ระบุต้องการให้ นายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์เป็นผู้ถือธงนำกล้าเปลี่ยนแปลงการเมืองใหม่ การบริหารงานใหม่ๆ กล้าทำในสิ่งที่ถูกต้องหลุดออกจากการบริหารประเทศแบบรัฐราชการ และส่วนใหญ่หรือร้อยละ 74.3 ต้องการให้กำลังใจนายกรัฐมนตรี กล้าทำให้สิ่งที่ถูกต้อง เลือกประชาชนมากกว่าผลประโยชน์และการเกรงใจทางการเมือง รวมทั้งการเกี้ยเซียะผลประโยชน์กับพวกข้าราชการและส่วนใหญ่หรือร้อยละ 69.9ระบุในเวลานี้ยังไม่เห็นใครที่เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากกว่า พล.อ.ประยุทธ์ ขณะที่ร้อยละ 30.1 ระบุมีคนอื่นเหมาะสมกว่า
ผอ.ซูเปอร์โพลระบุว่าผลโพลชี้ให้เห็นว่าประชาชน ยังคงเชื่อมั่น ให้กำลังใจและยังไม่เห็นใครอื่น เหมาะสมกับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีมากกว่าพล.อ.ประยุทธ์ในเวลานี้เพราะส่วนใหญ่มองว่าปัญหาวิกฤติของชาติบ้านเมืองและความเดือดร้อนทุกข์ยากของประชาชน เกิดจากหลายสาเหตุและผู้มีส่วนได้เสียในหลายภาคส่วน ทางออกของปัญหาตามความเห็นคือผู้นำที่เด็ดขาด กล้าตัดสินใจ เปลี่ยนแปลงและทำในสิ่งที่ถูกต้อง ยึดเอาประโยชน์ของประชาชนส่วนใหญ่ ต้องสอบสวนหาสาเหตุและผู้รับผิดชอบทุกปัญหาจัดทำบทเรียนร่วมกันเรียนรู้ พัฒนา เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาที่สำคัญคือต้องปฏิรูปราชการและแก้ปัญหาทุจริต จริงจังเร่งด่วน ขณะภาคการเมืองต้องกล้าๆแสดงความรับผิดชอบมากกว่าที่เป็นอยู่ ไม่ทำตัวเป็นอีแอบกลัวเสียคะแนนอย่างเช่นที่เป็นอยู่
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี