นายกฯ หารือผู้แทนพิเศษเลขาฯ UN ปมเมียนมา พร้อมร่วมผลักดันให้แก้ปัญหาอย่างสันติ-คำนึงถึงหลักมนุษยธรรม
วันที่ 17 มกราคม 2565 เวลา 13.30 น. ที่ห้องสีม่วง ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล นางโนลีน เฮย์เซอร์ (Ms. Noeleen Heyzer) ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติเรื่องเมียนมา (Special Envoy of the UN Secretary-General on Myanmar) เข้าเยี่ยมคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ภายหลังเสร็จสิ้นการหารือ นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยสาระสำคัญของการหารือ ดังนี้
นายกรัฐมนตรีกล่าวต้อนรับและแสดงความยินดีในโอกาสเข้ารับตำแหน่งผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติเรื่องเมียนมา ทราบว่าท่านมีความคุ้นเคยกับประเทศไทยและภูมิภาคเป็นอย่างดี โดยเคยดำรงตำแหน่ง Executive Secretary ของ UNESCAP ที่ประเทศไทยถึง 7 ปี เชื่อมั่นในประสบการณ์และความสามารถของท่าน ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไทยพร้อมให้ความร่วมมือและสนับสนุนการดำเนินการของผู้แทนพิเศษฯ
ผู้แทนพิเศษของเลขาธิการสหประชาชาติเรื่องเมียนมากล่าวยินดีที่ได้มีโอกาสพบหารือร่วมกับนายกรัฐมนตรี โดยผู้แทนพิเศษฯ แสดงความห่วงกังวลต่อสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา พร้อมทั้งสนับสนุนให้มีการแสวงหาทางออกสู่สันติภาพ โอกาสนี้ ผู้แทนพิเศษฯ ชื่นชมบทบาทที่แข็งขันของรัฐบาลไทยในการผลักดันให้เกิดสันติภาพในเมียนมา รวมถึงการผลักดันให้มีความคืบหน้าในการดำเนินการตามฉันทามติ 5 ข้อของอาเซียน ทั้งนี้ ผู้แทนพิเศษฯ เห็นว่านายกรัฐมนตรีมีความเข้าใจสถานการณ์เป็นอย่างดี โดยผู้แทนพิเศษฯ พร้อมรับข้อเสนอแนะ ตลอดจนพร้อมร่วมมือกับรัฐบาลไทยเพื่อผลักดันให้เกิดสันติภาพในเมียนมา
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียืนยันว่า ไทยพร้อมให้การสนับสนุนและมีส่วนร่วมในการผลักดันให้มีการแก้ไขปัญหาในเมียนมา ทั้งในบริบทความสัมพันธ์ทวิภาคี ความร่วมมือกับอาเซียน และสหประชาชาติ อย่างไรก็ดี ประเด็นปัญหาในเมียนมามีความซับซ้อน ซึ่งต้องมองด้านประวัติศาสตร์ ชาติพันธุ์ ประกอบเพื่อเข้าใจสภาพปัญหาอย่างแท้จริง โดยนายกรัฐมนตรีเห็นว่า ควรแก้ปัญหาอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยความเข้าใจ และสร้างความไว้เนื้อเชื่อใจจากผู้นำเมียนมา ซึ่งถือเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการแก้ปัญหา นอกจากนี้ ไทยได้ติดตามสถานการณ์ในเมียนมาอย่างใกล้ชิดมาตั้งแต่ต้น และเห็นว่าสิ่งสำคัญในตอนนี้คือ การยุติการใช้ความรุนแรง การพูดคุยเพื่อหาทางออกโดยสันติ และการให้ความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมแก่ประชาชนเมียนมา ซึ่งไทยพร้อมที่จะช่วยขับเคลื่อนความพยายามในด้านนี้ของอาเซียนและของประชาคมโลก ผ่านการขนส่งลำเลียงความช่วยเหลือเข้าไปในเมียนมา โดยไม่เลือกปฏิบัติ ซึ่งไทยได้ให้การสนับสนุนทางการแพทย์และมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง
สำหรับประเด็นความช่วยเหลือทางมนุษยธรรมนี้ ไทยมีประสบการณ์ในด้านนี้ และได้มีการวางแผนเตรียมการรับมือผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมา โดยได้กำหนด “พื้นที่ปลอดภัยชั่วคราว” (humanitarian area) ไว้ตามแนวชายแดน ซึ่งได้วางแนวปฏิบัติและมาตรการป้องกันโรคโควิด-19 ไว้อย่างรอบคอบ และจะส่งตัวกลับประเทศเมื่อผู้หนีภัยความไม่สงบชาวเมียนมามีความพร้อมและสมัครใจจะเดินทางกลับเท่านั้น จึงขอให้มั่นใจว่าหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของไทยได้ให้การดูแลด้านมนุษยธรรมขั้นพื้นฐานเป็นอย่างดี
นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายได้หารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในเมียนมาอย่างสร้างสรรค์ เพื่อแสวงหาทางออกสู่สันติ และเพื่อสวัสดิภาพของประชาชนชาวเมียนมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี