ไม่ซ้ายสุดขั้ว-ไม่ขวาสุดโต่ง-ไม่โกง
‘อุตตม’เดินหน้า
เปิดตัวพรรค‘สร้างอนาคตไทย’
ขอเป็นทางเลือกใหม่ให้ปชช.
ไม่หนุน‘บิ๊กตู่’นั่งเก้าอี้นายกฯ
‘ชลน่าน’ประเดิมผู้นำฝ่ายค้าน
21ม.ค.ยื่นซักฟอกขอถล่ม36ชม.
“ชวน” เดินหน้าประชุมสภาฯนัดแรก แจ้งยอดสส.473 คน แต่งตั้ง“นพ.ชลน่าน”ผู้นำฝ่ายค้าน กางแผนลุยตรวจสอบรัฐบาล เผย 21 มกราคม ยื่นซักฟอก ตามม.152 ย้ำชี้เสียงข้างมาก ต้องพร้อมรักษาด้วย ขอ36 ชั่วโมงถล่มรบ.“บิ๊กตู่”ปล่อยของแพงทั้งแผ่นดิน เขย่าวิกฤตการเมือง-ปัญหาศก.“สุชาติ”แอ่นอกรับไลน์แชทหลุด ซัดคนปล่อยไลน์ ไม่ใช่ลูกผู้ชาย ไม่ใช่เพื่อนทางการเมือง ชี้ต่อไปใครจะเชื่อ ย้ำทำโพลล์แค่อยากวิเคราะห์เหตุแพ้เลือกตั้งซ่อม “ธรรมนัส”โทรเคลียร์แล้ว
หลังแพ้เลือกตั้งซ่อม‘สงขลา-ชุมพร’ เปิดตัวแล้ว‘พรรคสร้างอนาคตไทย’อุตตม-สนธิรัตน์ ไม่ซ้ายสุดขั้ว-ขวาสุดโต่ง-ไม่โกงชาติ ขออาสาเป็นทางเลือก ให้สังคมไทย ไม่หนุน’บิ๊กตู่’นั่ง นายกฯเฟ้นหาคนในพรรคลงชิงเก้าอี้เอง
เมื่อวันที่ 19มกราคม ที่รัฐสภา ได้มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎรนัดแรก มี นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฏร ทำหน้าที่เป็นประธานซึ่งก่อนการพิจารณาเรื่องตามระเบียบวาระได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม ประกาศแต่งตั้งให้ นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร
โดยนายชวนได้แจ้งถึงการลาออกจากตำแหน่ง ส.ส. ของนายสุพล ฟองงาม และนายสันติ กีระนันทน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐ ที่ยื่นหนังสือขอลาออก เมื่อวันที่ 19 มกราคม2565 เป็นผลให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงตามรัฐธรรมนูญ มาตรา111 (3) คือ ลาออก ทำให้ปัจจุบันมี สส.ปฏิบัติหน้าที่ได้จำนวน 473คน โดยองค์ประชุมต้องไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งคือ 237คน
ทั้งนี้ นายชวน ยังกล่าวสวัสดีปีใหม่ กับส.ส.และระบุว่า สัปดาห์นี้จะประชุมต่อเนื่อง 3วัน ตั้งแต่วันที่ 19–21มกราคม ส่วนการประชุมสัปดาห์หน้านั้น จะหารืออีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ขณะนี้เหลือเวลาอีก 5 สัปดาห์ จะหมดสมัยประชุมสามัญประจำปีครั้งที่2 ในปีที่3 ดังนั้นต้องพิจารณาเพื่อกำหนดวาระพิจารณาว่าเรื่องใดจะพิจารณาบ้างเพื่อเป็นประโยชน์จากนั้น นายชวน ได้เข้าสู่การประชุมตามระเบียบวาระ หลังจากที่มี ส.ส.ลงชื่อเข้าร่วมประชุม 317คน ถือว่าเกินกึ่งหนึ่งของสมาชิกที่มีทั้งสิ้น 473คน
‘ชลน่าน’รับแต่งตั้ง“ผู้นำฝ่ายค้าน”
จากนั้น เวลา 08.30น.สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร จัดพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมแต่งตั้ง นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่านและหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) เป็นผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร โดยมี นางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภา เป็นผู้เชิญและอ่านพระบรมราชโองการ และมี สส.จากพรรคการเมืองต่างๆและข้าราชการเข้าร่วมพิธี ในการนี้ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาได้นำต้นลิ้นมังกรขอบเหลืองมามอบให้ นพ.ชลน่าน เพื่อแสดงความยินดี นอกจากนี้ ยังมี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาคนที่สองและน.ส.นภาภรณ์ ใจสัจจะ เลขาธิการวุฒิสภา แสดงความยินดีด้วย
กางแผนลุยตรวจสอบรัฐบาลทันที
นพ.ชลน่าน ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังเข้าพิธีรับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งผู้นำฝ่ายค้านฯว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันสูงยิ่งที่ได้โปรดเกล้าฯแต่งตั้งตนเป็นผู้นำฝ่ายค้าน ซึ่งหน้าที่ที่สำคัญที่สุดคือ การตรวจสอบ ถ่วงดุลรัฐบาลและคณะรัฐมนตรี(ครม.) ทำงานเพื่อชาติและประชาชนให้เกิดประโยชน์สูงสุด สำหรับภารกิจแรกของฝ่ายค้าน ยังอยู่ในช่วงสมัยประชุมนี้ คือการแก้ไขปัญหาปากท้องความเป็นอยู่ ที่ประชาชนประสบปัญหา ข้าวของแพง ลูกหลานมองอนาคตไม่เห็น โดยเราจะเสนอแนะปัญหาให้กับรัฐบาลนำไปแก้ไข โดยเฉพาะเรื่องของแพงทั้งแผ่นดิน พรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะมีการยื่นญัตติร่วมกันเพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปตามมาตรา152และพรรคร่วมฝ่ายค้านก็จะมีการประชุมกันในวันที่ 19มกราคม เพื่อหาข้อสรุปในประเด็นที่จะอภิปรายและจะยื่นต่อประธานสภาฯในวันที่21มกราคม หรืออย่างช้าที่สุดไม่เกินวันที่24มกราคม เพื่อบรรจุเข้าสู่การพิจารณา คาดว่าจะอภิปรายช่วงกลางเดือนกุมภาพันธ์ ถ้ารัฐบาลไม่ติดขัดหรือไม่ดึงยืดเวลาจนเกินไป
ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวต่อว่า แต่ก่อนจะยื่นญัตติ เนื่องจากมีเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนมันรุมเร้ามาก ในวันที่ 20มกราคม ฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคพท.จะใช้กลไกสภาฯตั้งกระทู้ถามสด ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารราชการแผ่นดิน โดยเฉพาะเรื่องของโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร หรือASF ที่ส่งผลกระทบทำให้ข้าวของแพง รวมทั้งจะมีการเสนอญัตติด่วนด้วยวาจาที่ให้สภาฯได้ร่วมกันพิจารณาถึงที่มาที่ไปของโรคASF รวมถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา เพื่อให้ฝ่ายรัฐบาลรับไปพิจารณาแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน นอกจากนี้ ในเรื่องแก้ไขเพิ่มเติมพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พรป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ที่คาดว่าจะเสนอเข้าสู่สภาฯพิจารณาได้ในช่วงสมัยประชุมนี้เช่นกัน
รบ.ยังอยู่ซักฟอกมาตรา152แน่นอน
“ในสมัยประชุมหน้าถ้ารัฐบาลชุดนี้ยังทำหน้าที่อยู่ การอภิปรายไม่ไว้วางใจตามมาตรา152จะเกิดขึ้นแน่นอน เพราะเป็นประเด็นปัญหาสำหรับพี่น้องประชาชน นี่คือเรื่องใหญ่ในปีนี้ที่พรรคร่วมฝ่ายค้านจะต้องดำเนินการ ในฐานะที่เป็นผู้นำฝ่ายค้านจะทำหน้าที่ตรงนี้ให้ดีที่สุด เพื่อเป็นประโยชน์ต่อประเทศชาติและพี่น้องประชาชนให้มากที่สุดโดยเฉพาะเรื่องของประชาธิปไตยที่แท้จริง ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ที่ประชาชนมีส่วนร่วมอย่างแท้จริง” นพ.ชลน่าน กล่าว
เมื่อถามว่าฝ่ายค้านจะขอตรวจสอบองค์ประชุมสภาฯหรือไม่ นพ.ชลน่าน กล่าวว่า หลักการของฝ่ายค้านแต่แรกยึดว่า ตรวจสอบเสียงข้างมากอย่างเข้มข้น เพราะถึงอย่างไรเสียงข้างมากก็ต้องทำหน้าที่ให้ถึงพร้อม ความหมายคือต้องเตรียมองค์ประชุมให้เกินกึ่งหนึ่งอยู่ตลอด ยืนยันว่าพวกเราไม่ได้ตีรวน แต่เวลาพิจารณาเรื่องสำคัญ หรือกฎหมายสำคัญ เสียงข้างมากต้องพร้อมครบในองค์ประชุมนั้นด้วย
พรรคร่วมขัดแย้งสงสัยไม่อยากอยู่ต่อ
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงกรณีความขัดแย้งของพรรคร่วมรัฐบาลที่ส่งผลมาจากการหาเสียงเลือกตั้งซ่อมที่ผ่านมาว่า มีการบ่งชี้ว่ามีความขัดแย้งกันและจะส่งผลโดยตรงต่อการทำงานในสภาฯ รวมถึงการเลือกตั้งซ่อมในเขตเลือกตั้งที่9 หลักสี่-จตุจักร ในวันที่30ม.ค.ซึ่งในระบบเสียงข้างมาก ฝ่ายค้านไม่มีโอกาสจะยกมือชนะฝ่ายรัฐบาลได้เลย เว้นแต่ฝ่ายรัฐบาลเองมีข้อขัดแย้ง เห็นไม่ตรงกัน แล้วไม่ลงมติให้กันและกัน ความขัดแย้งตรงนี้อาจส่งสัญญาณว่า รัฐบาลชุดนี้เขาไม่อยากจะอยู่ต่อไปแล้ว อยากจะคืนอำนาจให้กับพี่น้องประชาชน ถ้าคิดอย่างนี้ก็ถือว่าเป็นประโยชน์กับประชาชน เป็นการมองในมุมบวก เป็นเรื่องที่ดูดีด้วยซ้ำไป ในเมื่อไปด้วยกันไม่ได้ ทำงานไม่ไหว อยู่ไปก็เสียหาย ก็แสดงเชิงสัญลักษณ์ว่า ไม่พร้อมจะทำงานแล้ว ผู้นำรัฐบาลก็ต้องคืนอำนาจให้กับประชาชน หรือเปลี่ยนรัฐบาล
ฝ่ายค้านขอ36ชั่วโมงถล่มรัฐบาลบิ๊กตู่
ที่รัฐสภา พรรคร่วมฝ่ายค้าน นำโดย นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร แถลงภายหลังประชุมคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่านค้าน) ว่า ที่ประชุมมีมติยื่นญัตติทั่วไปเพื่อขอเปิดอภิปรายแบบไม่ลงมติ ตามาตรา152 เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงและเสนอแนะไปยังรัฐบาล โดยเสนอชื่อร่วมกันเป็น1ญัตติ ใช้เสียงสมาชิกสภาเพียง1ใน10 ของสมาชิกที่มีอยู่ แต่ละพรรคร่วมฝ่ายค้านเห็นว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องสำคัญ ส่วนเนื้อหาสาระ จะเสนอเป็นภาพกว้างในวิกฤตด้านเศรษฐกิจ ได้แก่ 1.ปากท้องของประชาชน ปัญหาความเป็นอยู่ในการดำรงชีวิตภาระหนี้สิน เพราะสินค้าอุปโภคบริโภคแพงทั้งแผ่นดิน 2.โรคโควิดที่ยังระบาดและโรคระบาดอหิวาต์แอฟริกาในสุกร
นพ.ชลน่าน กล่าวต่อว่า 3.ภาวะวิกฤตด้านการเมือง การปฏิรูปการเมืองการกระจายอำนาจความไม่เป็นธรรมในเรื่องสิทธิทางการเมืองต่างๆและ4.ประเด็นอื่นๆที่เกี่ยวเนื่องที่เป็นปัญหาข้อเท็จจริงที่มีอยู่ในปัจจุบันและกระทบกับการดำเนินชีวิตของประชาชน เช่น กรณีการทุจริตคอร์รัปชั่นเหมืองทองอัครา เรื่องผลกระทบด้านประมงที่เป็นปัญหากับไอยูยูและประมงน่านน้ำ โดยจะยื่นญัตติต่อประธานสภาฯในวันที่ 21 มกราคมนี้ ขณะนี้พรรคร่วมฝ่ายค้านกำลังดำเนินการในการลงชื่อ คาดว่าเมื่อตรวจสอบญัตติแล้วเสร็จน่าจะมีการบรรจุญัตติภายใน7วัน หากเป็นไปได้เราจะอภิปรายประมาณกลางเดือนก.พ.สิ่งที่เราต้องพูดคุยกันคือเรื่องเวลาการอภิปราย ฝ่ายค้านจะหารือกับพรรคฝ่ายรัฐบาลว่า จะขอเวลาไม่น้อยกว่า 36ชั่วโมง
‘นิโรธ’อ้างยุทำโพลแค่แซวกันในกลุ่ม
นายนิโรธ สุนทรเลขา สส.นครสวรรค์ รองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ให้สัมภาษณ์กรณีพรรคพปชร.ยังเกิดความขัดแย้ง หลังล่าสุดภาพการสนทนาในกลุ่มไลน์ซึ่งมีชื่อ นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานและกรรมการบริหาร (กก.บห.) พรรคพลังประชารัฐ เสนอให้ทำโพลถามประชาชนถึงสาเหตุที่พรรคพลังประชารัฐตกต่ำ ว่า ไม่มีอะไร กรณีไลน์กลุ่มเป็นเรื่องที่เขาพูดคุยกันธรรมดา ซึ่งตนคิดว่าอย่าไปซีเรียสอะไร มันไม่ใช่ประเด็นใหญ่ เพราะการทำงานร่วมกันภายในพรรคอาจเป็นคนละสไตล์ แต่ไม่ได้มีปัญหา เช่นเดียวกับผู้สื่อข่าวของแต่ละสำนักก็มีความแตกต่างกันไปบ้าง เรื่องที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องเล็กๆ แค่พูดคุยแซวเล่นกันเอง เมื่อถามว่าแต่กลุ่มไลน์ดังกล่าวไม่มี ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพปชร. อยู่ด้วย นายนิโรธ กล่าวว่า เป็นการแซวเล่นกันของคนในกลุ่มไลน์ดังกล่าวว่า น่าจะทำอย่างนั้นอย่างนี้
เมื่อถามย้ำว่าดูเหมือน นายสุชาติและร.อ.ธรรมนัส มีปัญหาระหว่างกันมาตลอด นายนิโรธ กล่าวว่า ไม่มี ที่จริง นายสุชาติและร.อ.ธรรมนัส มีหัวใจเป็นนักกีฬา คือเป็นนักเลง ซึ่งไม่ใช่อันธพาล แต่หมายความว่าเขาเป็นคนเข้าใจง่าย พูดกันแค่ไม่กี่คำก็เข้าใจกันแล้ว ตนอยู่ใกล้ชิดกับทั้ง 2คน หมายความว่าเป็นสมาชิกพรรคด้วยกัน ตนเห็นว่าทั้งคู่เป็นคนตรงไปตรงมา ตนจึงคิดว่าเรื่องดังกล่าวมันไม่ใช่ประเด็น
ผู้สื่อข่าวถามว่าบางคนมองว่าภายในพรรคพลังประชารัฐมีความขัดแย้งค่อนข้างมากพอสมควร นายนิโรธ กล่าวว่า คนภายนอกก็คิดอย่างนั้น แต่ที่จริงมันไม่ใช่ สไตล์ใครก็สไตล์มัน เมื่อถามว่าแสดงว่ายังรักกันใช่หรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า รักกัน เพราะทุกคนช่วยกันทำงาน นายสุชาติกับ ร.อ.ธรรมนัส ไม่มีอะไร เขาก็พูดคุยกัน เมื่อถามอีกว่าแต่ไม่ค่อยได้เห็น นายสุชาติและร.อ.ธรรมนัส พูดคุยกัน นายนิโรธ กล่าวว่า เพราะเขาไม่ได้เจอกัน โดยนายสุชาติมีงานในฐานะรัฐมนตรีจำนวนมาก ขณะที่ ร.อ.ธรรมนัส มีงานของพรรคจำนวนมากเช่นกัน เดินทางไปต่างจังหวัดเยอะ
‘สุชาติ’แอ่นอกรับไลน์แชทหลุด
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะกก.บห.พรรคพปชร.และผู้อำนวยการเลือกตั้งซ่อม สส.เขต 6 สงขลา พปชร.กล่าวว่า กรณีมีไลน์แชทเสนอให้ทำโพลว่า พปชร.ตกต่ำเพราะอะไร โดยให้ทำโพลในลักษณะชี้นำ โดยมีคำตอบให้ประชาชนเลือกว่า เพราะ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา เป็นเลขาธิการพรรค พปชร.หรือเพราะ ร.อ.ธรรมนัส ไม่มีคนยอมรับ หลุดออกมานั้น ตนได้พูดคุยกับนายเสกสกล อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี ในไลน์กรุ๊ป เพราะนายเสกสกลส่งโพลต่างๆ มาให้ดู จึงเสนอให้ทำโพลการเมืองดูว่าพรรคตกต่ำจริงตามที่สื่อมวลชนพูดหรือไม่
“ผมเป็นคนพิมพ์ไลน์สั้นๆ ซึ่งทุกคนจะรู้กันอยู่แล้วว่าหมายถึงอะไร ต่อมาผมก็พิมพ์ไปว่า ต้องทำโพลชี้นำว่าเราต้องเดินไปทางไหน นโยบายภาคใต้เราไม่ดี เพราะอย่าลืมว่าพรรคคู่แข่งนั้น ดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งเป็นกระทรวงที่ดูแลการเกษตร ดูแลพืชผล และประกันรายได้เกษตรกร อาจจะเป็นส่วนที่ทำให้ชนะพปชร.ได้ ถ้าทำโพล พปชร.จะทราบข้อมูล และจะได้เดินถูกทาง ว่าถ้าเลือกตั้งครั้งหน้าควรจะเดินทางไหน ดังนั้น เรื่องนี้ไม่เป็นประเด็นเลย เพราะทำโพลจะทำให้เห็นว่า พรรคเดินมาถูกทาง หรือเป็นเพราะตัวบุคคล เนื่องจาก 2-3วันที่ผ่านมา มีเรื่องที่พรรคการเมืองหยิบประเด็นที่ ร.อ.ธรรมนัส พูดมาขยายผลทางโชเซียล”นายสุชาติ กล่าว
ตั้งใจหาสาเหตุแพ้เลือกซ่อม2จว.
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า อยากให้ความเป็นธรรมกับ ร.อ.ธรรมนัสเช่นกัน โดย ร.อ.ธรรมนัส ได้โทรมาคุยตั้งแต่แรกๆ ซึ่งตนบอกว่าไม่เป็นประเด็น เพราะการเลือกตั้งประชาชนตัดสินใจแล้วว่าจะเลือกใคร แต่มีคำพูดหนึ่งถูกตีความกันไปต่างๆนาๆ จนทำให้พรรคการเมืองเอาไปขยายผลทางโชเซียล มีสื่อมวลชนถามหลังจากที่ พปชร.พ่ายแพ้ในสงขลา แต่แพ้ก็คือแพ้ จะไปบอกว่าชนะได้อย่างไร เราทำดีที่สุดแล้ว คะแนนที่ได้มา 40,000กว่าคะแนน ก็มากกว่าการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาถึง 20,000คะแนน ซึ่งไม่มีอะไรดีเท่านี้แล้ว
“สรุปว่าทุกสิ่งทุกอย่างผมอยากวิเคราะห์ในส่วนของผมเอง อยากเห็นว่าการที่เราแพ้เลือกตั้งที่สงขลาและชุมพร เกิดจากตัวพรรคที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลด้วยกันไม่ได้ชู พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯ เลยทำให้ประชาชนในพื้นที่เลือกตามใจ เลือกตามชอบในตัวบุคคล หรือเลือกตามใจหัวคะแนนหลัก แต่การเลือกตั้งเมื่อปี2562 แสดงให้เห็นว่า สส.ของผมบางคนที่ไม่ได้เป็นนักการเมือง แต่ได้มาเป็น ส.ส.เพราะคะแนนนิยมในตัว พล.อ.ประยุทธ์’นายสุชาติ กล่าว
เปิดตัวแล้ว‘พรรคสร้างอนาคตไทย’
ที่ห้องWorld Ballroomโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ แอท เซ็นทรัลเวิลด์ นายอุตตม สาวนายน อดีตรมว.คลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พลังงาน และคณะผู้ก่อตั้งจากหลายภาคส่วน ร่วมแถลงข่าวเปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย โดยมีนักการเมือง นักวิชาการ นักธุรกิจ เข้าร่วมอาทินายสุพล ฟองงาม อดีต สส.พรรคพลังประชารัฐ นายสันติ กีระนันทน์ อดีต สส.พรรคพลังประชารัฐ,นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ อดีตรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และอดีต สส.พัทลุง นายรักษ์พงษ์ เซ่งเจริญ อดีตผู้อำนวยการ สทบ.ซึ่งเป็นเลขาธิการส่วนตัว นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ อดีตรองนายกฯ,นายพงศ์พรหม ยามะรัต อดีตรองหัวหน้าพรรคกล้า,นายมนต์ชีพ ศิวะสินางกูร หรือ นายสะอาด นักร้องชื่อดัง ซึ่งเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคกล้า
โดย นายอุตตม กล่าวว่า พวกเราเห็นว่าสถานการณ์ของประเทศขณะนี้น่าเป็นห่วง โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ปัญหาปากท้องประชาชน รายได้ที่ตกต่ำสวนทางกับปัญหาค่าครองชีพที่สูงขึ้น ในมิติด้านสังคม เมื่อเศรษฐกิจสะดุดลง จะซ้ำเติมปัญหาความเหลื่อมล้ำให้สูงขึ้น เราอยากเห็นพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นจากการรวมตัวของประชาชนในหลายภาคส่วน มาระดมกำลังแก้ปัญหาประเทศ สร้างอนาคตประเทศ เพื่อให้มีอนาคตต่อไปได้ พรรคสร้างอนาคตไทย มีบุคลากรหลากหลายความรู้ ระดมสรรพกำลังจากทุกภาคส่วน ทั้งคนจากสายการเมือง เรายังเชิญชวนผู้คนที่อาจไม่พร้อมมาทำงานการเมืองโดยตรง แต่มีใจมีความคิดจะเข้ามาแก้ปัญหาประเทศ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญ เราได้หารือบุคลากรในอดีตที่เคยแสดงผลงาน มีอดีตรัฐมนตรี ผู้บริหาร ผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ จากภาคเอกชน พรรคฯ ชื่อมั่นว่าเราจะสามารถผนึกกำลัง ทั้งภาคการเมือง ภาคเอกชน ภาคประชาชน ที่ต้องการสร้างสรรค์สิ่งดีๆให้ประเทศ นี่คือจุดยืนสำคัญจุดหนึ่ง ซึ่งปัญหาบ้านเมืองใหญ่มาก ไม่สามารถแก้ได้เพียงแค่คนเพียงไม่กี่กลุ่มได้
ไม่ซ้ายสุดขั้ว-ขวาสุดโต่ง-ไม่โกงชาติ
‘เราจะระดมความคิดเห็นจากพี่น้องประชาชนทั่วประเทศ เพื่อกำหนดยุทธศาสตร์ แนวคิด แนวทางปฎิบัติที่ทำได้จริง โดยมุ่งมั่นว่าประชาชนคนไทย ต้องมีความหวังที่จับต้องได้ มีโอกาสพัฒนาความสามารถ ความใฝ่ฝันของตัวเอง เข้าถึงแหล่งทุนได้ มีสิทธิเสรีภาพ ได้รับความยุติธรรมที่เท่าเทียม เราจะไม่ซ้ายสุดขั้ว ไม่ขวาสุดโต่ง เราจะไม่โกง ไม่ปล้นชาติ เราอาสาจะเป็นหนึ่งในทางเลือกให้กับสังคมไทย จุดยืนของพรรคคือ เข้ามาแก้ปัญเศรษฐกิจ สร้างความฝัน สร้างอนาคตให้กับประชาชนคนไทย’ นายอุตตม กล่าว
นายสนธิรัตน์ กล่าวว่า วันนี้ไม่ใช่วันเปิดพรรค แต่วันนี้เราเอาผู้มีเจตนารมย์ที่จะสร้างพรรคการเมือง มานำเสนอต่อสาธารณชน พรรคการเมืองนี้เกิดขึ้นเนื่องด้วยสถานการณ์ของบ้านเมือง ที่ผ่านมาผม 2คน ไม่คิดจะกลับมาทำงานการเมืองอีก เพราะเราเพียงพอแล้ว แต่สถานการณ์บ้านเมืองขณะนี้ เป็นเรื่องที่พี่น้องประชาชนอยากจะฝากความหวังให้อยู่รอดต่อไปได้ ทั้งจากวิกฤตโควิด ปัญหาปากท้อง สิ่งเหล่านี้ เป็นเรื่องที่ทีมงานของพวกเราได้หารือกันแล้วว่า เราจะต้องเข้ามาสร้างซึ่งความหวังของพี่น้องประชาชน หากพี่น้องประชาชนขาดความหวังและความร่วมมือ ประเทศจะเดินหน้าไปไม่ได้ พวกเราเห็นว่าสิ่งที่มีอยู่ในขณะนี้อาจไม่พอกับการสร้างความหวังให้กับประชาชน
ระดมกำลังทุกภาคส่วนแก้ปัญหาปท.
นายสนธิรัตน์กล่าวว่า พรรคนี้เกิดมาเพื่อแก้ปัญหาของประเทศ เนื่องจากปัญหาของประเทศครั้งนี้เป็นปัญหาที่ลึกมาก เรามีนโยบายในการระดมผู้รู้ คนเก่ง จากทุกวงการเข้ามาขับเคลื่อนการทำงาน ใครพร้อมก็ออกมาทำงานเบื้องหน้า ใครยังไม่พร้อมก็เป็นผู้สนับสนุนเบื้องหลังและเตรียมพบกับมิติใหม่ในการระดมความคิดเห็นของประชาชน มาทำเป็นนโยบายแก้ปัญหาให้ประชาชน เรื่องใดสำคัญและรอไม่ได้จนถึงการเลือกตั้ง พรรคจะดำเนินการขับเคลื่อนทันที่ บางเรื่องต้องเสนอแก้ไขกฎหมายก็ต้องทำ เราจะทำงานเพื่อสร้างให้สังคมมีความเชื่อมั่นกับพรรคการเมืองที่จะเข้ามาแก้ปัญหาให้ประชาชนที่ทุกข์ยาก เราจะต่อสู้กับสิ่งกัดกร่อนประเทศ พรรคนี้ไม่ใช่ของผม หรือนายอุตตม แต่เป็นพรรคของทุกภาคส่วน พรรคสร้างอนาคตไทย จะเป็นเสาหลักของประเทศ จะสร้างรากฐานไปสูอนาคตของประเทศที่เข้มแข็ง พรรคไม่ใช่สร้างมาเพื่อการเลือกตั้งอย่างเดียว เราจะสร้างนักการเมืองที่มีความพร้อมเข้าบริหารประเทศ ไม่ใช่ไปแค่มีตำแหน่งอย่างเดียว เราจะสร้างสส.ที่มีความพร้อมไปทำงานนิติบัญญัติ แก้ปัญหาให้ประชาชนคนไทย
ไม่หนุน’บิ๊กตู่’-หาคนชิงนายกฯเอง
นายสนธิรัตน์ กล่าวตอนหนึ่ง โดยยืนยันว่า พรรคจะไม่สนับสนุนพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นรายชื่อแคนดิเดตนายกฯของพรรคอย่างแน่นอน เพราะพรรคสร้างอนาคตไทยไม่ใช่พรรคนอมินี หรือพรรคอะไหล่ของ พล.อ.ประยุทธ์ โดยพรรคจะสรรหาคนของพรรคเป็นแคนดิเดตนายกฯเอง ส่วนนายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ จะมีเป็นแคนดิเดตนายกฯของพรรคหรือไม่นั้น ยอมรับว่าชื่อ นายสมคิด เป็นที่จับตา มีคนอยากให้ท่านขึ้นมาแก้ไขปัญหาของประเทศ แต่พรรคต้องมีหลักการที่จะต้องผ่านกระบวนการในการเสนอชื่อ ซึ่งมีอยู่ 3ชื่อ ซึ่ง1ในนั้นคือหัวหน้าพรรคและอีก2ชื่อพรรคจะพิจารณา ส่วนใครจะเป็นหัวหน้าพรรคก็จะต้องผ่านกระบวนการของพรรคอีกที
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี