‘บิ๊กตู่’ลั่นกลางที่ประชุมศบศ.
‘ผมไม่ยอมแพ้’
ทำงานเพื่อชาติและประชาชน
‘หมอระวี’ยัน9สส.พรรคเล็ก
ยังหนุน‘ประยุทธ์’นั่งนายกฯ
‘ฝ่ายค้าน’ยื่นซักฟอกไม่ลงมติ
ถล่ม16-18ก.พ.มุ่ง4ปมปัญหา
“บิ๊กตู่” ประกาศกลางที่ประชุม ศบศ. “ผมไม่ยอมแพ้”และไม่ยอมแพ้ปัญหา-อุปสรรค ทำงานเพื่อชาติและประชาชน พร้อมอารมณ์ดี ถกสภากลาโหม ด้าน “หมอระวี”โต้ข่าวปล่อย ยัน 9 สส.พรรคเล็กยังหนุน “บิ๊กตู่” นั่ง นายกฯต่อ “เผดิมชัย” ปัดย้ายซบพรรค “อุตตม” ขณะที่พรรคร่วมฝ่ายค้าน หอบรายชื่อ 173 สส.ยื่นญัตติ ขอเปิดอภิปรายทั่วไป ตาม ม.152 ชู 4 ประเด็นร้อน ขู่เชือด รมต.คาดเคาะขอถล่ม 16-18 กุมภาพันธ์ “ราเมศ” ปชป.ไม่กังวลเปิดอภิปรายทั่วไป “อุตตม” ย้ำตั้งพรรค “สร้างอนาคตไทย”เพื่อแก้ปัญหาศก.
เมื่อวันที่ 21มกราคม ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการบริหารสถานการณ์เศรษฐกิจจากผลกระทบของการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา2019 (โควิด-19) หรือ ศบศ.ครั้งที่1/2565 ผ่านระบบวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยใช้เวลาประชุม 2ชั่วโมง 15นาที ทั้งนี้ภายหลังการประชุมนายกรัฐมนตรีปฏิเสธตอบคำถามสื่อมวลชน โดยกล่าวอย่างอารมณ์ดีว่า“สวัสดีจ๊ะ เดี๋ยวรอฟังจาก press release มีแต่เรื่องดีๆทั้งนั้นแหละ”
รายงานข่าวจากทำเนียบรัฐบาล เปิดเผยว่า ในช่วงท้ายก่อนจบการประชุม ศบศ.นายกฯได้เปิดเพลง “อย่ายอมแพ้”ของอ้อม สุนิสา สุขบุญสังข์ จากโทรศัพท์มือถือ ในที่ประชุมพร้อมกล่าวกับที่ประชุมว่า“ผมไม่ยอมแพ้อยู่แล้ว เพลงเป็นเรื่องการให้กำลังใจทุกคนที่ร่วมทำงาน ไม่แพ้ต่อปัญหาอุปสรรค เช่นเดียวกับ นายกฯไม่เคยยอมแพ้ ทำงานเพื่อชาติและประชาชน”
อย่างไรก็ตาม การเปิดเพลงอย่ายอมแพ้ ของ พล.อ. ประยุทธ์ครั้งนี้คาดว่าต้องการแสดงความชัดเจนของตัวเองในการเดินหน้าทำงานในหน้าที่ต่อ แม้จะเกิดวิกฤตทางการเมือง โดยเฉพาะความขัดเเย้งภายในพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)
‘บิ๊กตู่’อารมณ์ดี ถกสภากลาโหม
บ่ายวันเดียวกัน พ.อ.วันชนะ สวัสดี รองโฆษกกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังการประชุมสภากลาโหม ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เป็นประธานซึ่งงได้ประชุมผ่านระบบวีดีโอคอนเฟอร์เร้นท์จากทำเนียบรัฐบาล โดยที่ประชุมมีมติเห็นชอบผลการประชุมคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงการจัดส่วนราชการ กห. ครั้งที่ 1/2565 และพิจารณาร่างหลักเกณฑ์ประกอบการพิจารณาปรับปรุงแก้ไขอัตราของหน่วยขึ้นตรงกองทัพบกและเหล่าทัพ
มีรายงานว่าในการประชุมสภากลาโหมครั้งนี้ ปลัดกระทรวงกลาโหม ผบ.ทสส.และผบ.เหล่าทัพ เข้าประชุมอย่างพร้อมเพรียง โดยพล.อ.ประยุทธ์ ใช้เวลาประมาณ40 นาทีโดยได้ทักทาย ซักถาม และหยอก ผบ.เหล่าทัพอย่างอารมณ์ดีเหมือนเช่นทุกครั้ง ไม่ได้มีสีหน้าเคร่งเครียด และไม่ได้เอ่ยเรื่องสถานการณ์การเมืองแต่อย่างใด ทั้งนี้ได้กำชับให้ ผบ.เหล่าทัพ จัดทำแผนโครงการงบฯ2565โดยพิจารณาความจำเป็นอย่างละเอียดรอบคอบก่อนเสนอขึ้นไป
สัปดาห์ครม.เต็มคณะถกกม.เลือกตั้ง
ผู้สื่อข่าวรายงานจากทำเนียบรัฐบาลว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.)สัปดาห์หน้า จะเลื่อนการประชุมเป็นวันจันทร์ที่ 24 ม.ค. จากเดิมประชุมวันอังคารที่ 25 ม.ค. เนื่องจาก พล.อ.ประยุทธ์ ต้องเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่ประเทศซาอุดิอาระเบีย ทั้งนี้ การประชุมครม.วันดังกล่าว จะเป็นการประชุมแบบครบองค์ประชุมที่ตึกสันติไมตรี(หลังนอก) ทำเนียบรัฐบาลถือเป็นการประชุมเต็มคณะครั้งแรก หลังเทศกาลปีใหม่ที่มีการแพร่ระบาดโควิด-19สายพันธุ์โอมิครอนมากขึ้น มีรายงานว่า เหตุผลหนึ่งที่ต้องประชุมแบบครบองค์ประชุมเพราะมีวาระกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2 ฉบับจะเข้าสู่การพิจารณาก่อนส่งต่อสภาพิจารณาต่อไป
บิ๊กป้อมนำ’บิ๊กน้อย-นฤมล’ลงเชียงราย
วันเดียวกัน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ลงพื้นที่จ.เชียงราย ติดตามการบริหารจัดการน้ำภาคเหนือและความก้าวหน้าการพัฒนาแหล่งน้ำธรรมชาติขนาดใหญ่เวียงหนองหล่ม หอประชุมเฉลิมพระเกียรติหนองมโนราห์ ต.จันจว้า อ.แม่จัน มีพล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ประธานยุทธศาสตร์กรรมการยุทธศาสตร์พรรคพปชร.ที่มีชื่อจะเป็นหัวหน้าพรรคเศรษฐกิจไทย ที่ กลุ่มร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยากับสส.อีก 20คน จะไปสังกัดพรรคลงพื้นที่ด้วย รวมถึงนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหริญญิกพรรค ร่วมลงพื้นที่ร่วมด้วย
‘หมอระวี’ยันหนุน‘บิ๊กตู่’นั่งนายกฯต่อ
นพ.ระวี มาศฉมาดล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ แถลงกรณีกระแสข่าวพรรคเล็กจะย้ายไปร่วมงานกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ส.ส.พะเยา ว่าเมื่อวานนี้(20ม.ค.)มีคนปล่อยข่าวกับสื่อมวลชนว่า กลุ่มพรรคเล็ก9สส.มีแนวโน้มจะตามร.อ.ธรรมนัสไป ยกเว้นตนนั้นการปล่อยข่าวแบบนี้สร้างความเสียหายกับกลุ่มพรรคเล็ก จากข่าวนี้สื่อหลายสำนักนำไปขยายความต่อว่าศึกครั้งนี้กล้วยที่พรรคเล็กจะได้รับจะได้กันแบบยกทั้งเครือ ทั้งๆที่ไม่เป็นความจริง แน่นอนว่าถ้าพรรคเล็ก 9สส.ไปร่วมกับร.อ.ธรรมนัสจริง จะสร้างอำนาจต่อรองอย่างแรงต่อนายกฯ ถ้านายกฯไม่ยอมอาจถึงขั้นยุบสภาได้
นพ.ระวี กล่าวต่อว่าความขัดแย้งครั้งนี้ เป็นความขัดแย้งภายในของพรรคพลังประชารัฐพรรคร่วมรัฐบาลอื่นๆรวมทั้งกลุ่มพรรคเล็กไม่ได้เกี่ยวข้องด้วย ขอเตือนไปยัง สส.คนใดที่ปล่อยข่าวแบบนี้ เป็นการเมืองที่ไม่สร้างสรรค์ ในยามโควิดระบาดและข้าวยากหมากแพง ประเทศและประชาชนต้องการนักการเมืองที่คิดหาทางช่วยประชาชนให้ผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ด้วยดี ไม่ใช่คิดแต่จะเล่นเกมการเมือง เพื่ออำนาจผลประโยชน์และคิดแต่จะหากล้วยเช่นนี้
‘หมอวรงค์’ฟันฉับวังวนน้ำเน่ากลับมา
นพ.วรงค์ เดชกิจวิกรม หัวหน้าพรรคไทยภักดี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า วังวนน้ำเน่าแบบเดิมกำลังจะกลับมา การที่พรรคใหญ่แกนนำรัฐบาล แตกมุ้งออกมา แสดงว่าวันนี้วังวนการเมืองน้ำเน่า เริ่มขยับให้เห็น เป็นเพราะผลพวงการแก้รัฐธรรมนูญระบบเลือกตั้ง จากบัตรหนึ่งใบมาสู่สองใบ ระบบบัตรใบเดียวเป็นระบบให้คนดี ซื่อสัตย์สุจริตได้เป็นผู้ปกครองบ้านเมือง ทุกคะแนนไม่ตกน้ำ เกิดมุ้งการเมืองยาก เพราะอำนาจต่อรองน้อย แม้จะเป็นรัฐบาลผสมแต่มีเสถียรภาพ เพราะพวกกร่างพวกโกงยังต้องอาศัยบารมีของผู้นำ สส.จะมาจากบารมีผู้นำ ประชาชนมีอำนาจสูงมาก มีอำนาจเลือกนายกรัฐมนตรีแทบจะโดยตรง สามารถทำให้พรรคบางพรรคแจ้งเกิดหรือตายได้ทันที นักการเมืองขายตัวแทบไม่มีความหมาย นักการเมืองและนายทุนพรรค ไม่ชอบระบบนี้เพราะต่อรองได้น้อย จึงเหมาะแก่การปฏิรูปการเมือง
ระบบบัตรสองใบ เป็นระบบที่นักการเมืองชอบ นายทุนพรรคชอบ สามารถเกิดมุ้ง สร้างอำนาจต่อรอง มีการซื้อส.ส. มาร่วมมุ้ง เอื้อแก่การแบ่งกันกินแบ่งกันโกง ทั้งนายกฯและรัฐมนตรีถ้าร่วมกันโกงจะยิ่งทำให้รัฐบาลแข็งแกร่ง คนดีซื่อสัตย์สุจริตปกครองยาก เพราะมุ้งที่โกงจะถอนตัวได้ การเลือกตั้งใหญ่จะใช้เงินจำนวนมาก เพื่อไปซื้อเสียงเฉพาะตัว สส.พรรคใหญ่จะได้ปาร์ตี้ลิสต์ แถมระบบนี้นายทุนเจ้าของพรรคจะมีอำนาจสูงมาก สามารถกำหนดผู้ปกครองบ้านเมืองได้ อำนาจของประชาชนต่อการเปลี่ยนแปลงการเมืองลดลง ยกเว้นเขตเมืองใหญ่ ที่สำคัญการทุจริตคอร์รัปชันจะเพิ่มกว่าเดิม เพราะนายทุนต้องถอนทุน
‘เผดิมชัย’ปัดย้ายซบพรรค’อุตตม’
นายเผดิมชัย สะสมทรัพย์ สส.นครปฐม พรรคชาติไทยพัฒนา(ชทพ.)ให้สัมภาษณ์ถึงกระแสข่าวจะย้ายไปอยู่พรรคสร้างอนาคตไทยว่าไม่ทราบจริงๆ เพิ่งทราบถึงกระแสข่าวนี้ครั้งแรกจากผู้สื่อข่าวที่ถาม เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีการพูดคุยกับพรรคสร้างอนาคตไทยหรือไม่ นายเผดิมชัย กล่าวว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองส่วนมากตนจะฟังจากข่าว เพราะไม่สามารถไปรู้เรื่องของคนอื่น อย่างวันนี้เป็นเรื่องที่เซอร์ไพรส์มากที่มีข่าวออกมาว่าจะไปกับคนนั้นคนนี้ก็รู้สึกอยู่ตระกูลเราก็ยังมีคนสนใจ ซึ่งกระแสข่าวที่ออกมาไม่มีจริงๆและส่วนตัวไม่เคยพบปะหรือคุยเป็นการส่วนตัว
พร้อมย้ำว่า“ชีวิตการเมือง ผมพอใจกับพรรคชาติไทยพัฒนามาก อยู่มาหลายพรรคเหมือนกัน ถึงแม้พรรคชาติไทยพัฒนาจะมี12เสียง แต่ถ้าพิจารณาด้วยความเป็นธรรม อาจเป็นพรรคเล็กคนไม่สนใจ แม้จะพรรคเล็ก แต่เต็มไปด้วยคนที่มีประสบการณ์ที่ดีหลายคน พวกเรามุ่งทำงานและใครจะทำอะไรเราไม่เกี่ยว เพราะเราทำงานให้ประเทศชาติในเสี้ยวหนึ่งที่เขาให้ความรับผิดชอบเรามาคือกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) นายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.ทส.ทำงานหามรุ่งหามค่ำจริงๆ และเป็นเด็กที่ตอนแรกเราก็ไม่ได้คาดหวังว่าจะมุมานะ เขามีความรู้ทั้งในและนอกประเทศอย่างดี ขยัน ซึ่งเราภูมิใจกับพรรคเรา“
‘ศรีสุวรรณ’ร้องกกต.สอบพปชร.
ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ได้เดินทางมายื่นหนังสือถึง กกต.และนายทะเบียนพรรค การเมือง เพื่อขอให้ไต่สวนและวินิจฉัยกรณีพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.) มีมติให้ 21สส.ของพรรคออกจากสมาชิกสภาพเป็นการดำเนินการโดยชอบด้วยข้อบังคับพรรคพปชร.2561และพรป.ว่าด้วยพรรคการ เมือง2560หรือไม่ การมีมติดังกล่าวนั้น มีข้อสงสัยหลายประการ 1.การที่สมาชิก หรือ สส.เรียกร้องให้ปรับโครงสร้างพรรคขนานใหญ่ จะถือได้ว่าเป็นเหตุที่ร้ายแรงจนต้องให้ออกจากสมาชิกพรรคนั้นชอบหรือไม่ 2.การที่มี 17กรรมการบริหารพรรค(กก.บห.)และสส.61คน รวมทั้งสิ้น 78คน ประชุมกันแล้วมีมติให้สมาชิกพรรคออกจากสมาชิกภาพ โดยมิได้มี สส.ทั้งหมดของพรรคเข้าร่วมประชุมจนครบถือว่าชอบหรือไม่ 3.ข้ออ้างการมีมติเห็นชอบให้ สส.21คน พ้นจากการเป็นสมาชิกภาพพรรคนั้น โดยอ้างข้อบังคับพรรคพลังประชารัฐ ข้อ54(5) ว่าเป็นเหตุร้ายแรงอื่นนั้น โดยที่พรรคไม่ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาไต่สวนสอบสวนชอบหรือไม่ และ4.สส.บัญชีรายชื่อที่ถูกให้ออกนั้น ต้องพ้นสภาพ สส.ไปเลยหรือไม่
ฝ่ายค้านยื่นซักฟอกม.152ถล่ม4ปม
ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว หัวหน้าพรรคเพื่อไทย(พท.)ผู้นำฝ่ายค้านสภาผู้แทนราษฎร นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล นายสงคราม กิจเลิศไพโรจน์ ประธานยุทธศาสตร์พรรคเพื่อชาติ พล.ต.อ.เสรีพิศุทธ์ เตมียาเวส หัวหน้าพรรคเสรีรวมไทย นายนิคม บุญวิเศษ หัวหน้าพรรคพลังปวงชนไทย นายซูการ์โน มะทา หัวหน้าพรรคประชาชาติและนายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ ตามมาตรา152ต่อนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนฯ
นพ.ชลน่าน กล่าวว่า ญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไปแบบไม่ลงมติ เพื่อขอสอบถามข้อเท็จจริงหรือเสนอแนะปัญหาต่อคณะรัฐมนตรี(ครม.)โดยมีผู้เข้าชื่อทั้งหมด173รายชื่อ จาก 7พรรคการเมือง ซึ่งมีประเด็นที่จะอภิปราย 4เรื่อง 1.เรื่องวิกฤตข้าวของแพงค่าแรงถูกของแพงทั้งแผ่นดิน 2.เรื่องโรคระบาดโควิดและอหิวาต์ในสุกรASF 3.วิฤกตทางด้านการเมืองยุคการเมืองใช้เงินเป็นหลัก4.ล้มเหลวการบริหารราชการแผ่นดินมากมาย เช่น ปัญหายาเสพติด การทุจริตคอร์รัปชั่น ภาวะฝุ่นพิษ PM 2.5และการค้าการลงทุน อย่างไรก็ตาม ในส่วนของเวลาเราได้ใช้แนวทางของปีที่แล้วเป็นหลัก เราจึงขอเวลาไม่น้อยกว่า 36ชม.เพื่อให้เวลาสมาชิกได้อภิปรายได้เต็มที่ คาดช่วงเวลาเหมาะสมคือวันที่16-18ก.พ.
เชื่อเสียงปริ่มน้ำอาจ‘ยุบสภา’เร็วขึ้น
นพ.ชลน่าน ยังกล่าวถึงมติพรรคพปชร.ขับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคฯและสส.ที่ใกล้ชิดรวม 21คน พ้นจากสมาชิกของพรรค ว่า จะส่งผลบวกต่อการทำงานของฝ่ายค้านในสภาฯ เนื่องจากทำให้เกิดอำนาจการต่อรองในพรรคร่วมรัฐบาลสูงขึ้น ที่มีสัดส่วนที่ใกล้เคียงกัน อยู่ในภาวะเสียงปริ่มน้ำ ส่งผลให้รัฐบาลจะต้องใช้ต้นทุนสูง ในการรวบรวมเสียงบริหารจัดการ ฝ่ายค้านค่อนข้างจะเบาใจ เพราะผลักนิดเดียวก็ล้ม ขณะเดียวกันการมีโครงสร้างที่แบ่งพวกไปอาจจะเป็นโครงสร้างที่แข็งแรง หมายถึงการบริหารเฉพาะกลุ่ม เป็นการจัดการเฉพาะและสามารถควบคุมได้ดีขึ้น หากผู้ประสานคนกลางจัดการได้ดีก็จะทำให้เกิดความเหนียวแน่น ฝ่ายค้านอาจจะลำบากในแง่ที่หากเกิดเอกภาพในการทำงานเพิ่มมากขึ้นก็จะส่งผลต่อการทำหน้าที่ของฝ่ายค้าน อย่างไรก็ดีการเจรจาผลประโยชน์ของพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะไม่ง่าย ยิ่งหาก 2 ฝ่ายต่างแข็งใส่กัน ยอมหักไม่ยอมงอ จะเข้าทางฝ่ายค้าน ที่พยายามเรียกร้องให้รัฐบาลคืนอำนาจให้ประชาชน อาจทำให้เกิดภาพที่ฝ่ายค้านต้องการเร็วขึ้นคือการยุบสภาฯ แต่หากทั้ง2ฝ่ายอ่อนหากัน ก็สามารถรักษาเสถียรภาพของรัฐบาลให้อยู่ยาวต่อไปได้
‘ราเมศ’ยันปชป.ไม่กังวลซักฟอกทั่วไป
นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวถึงกรณีฝ่ายค้านยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่ลงมติตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 ว่าพรรคปชป.ไม่ได้กังวลถือเป็นสิทธิ์ของฝ่ายค้านตามระบอบประชาธิปไตย ยื่นอภิปรายครม.ทั้งคณะ ในส่วนของพรรครัฐมนตรีทุกกระทรวงพร้อมตอบชี้แจงข้อซักถามในสภา ทุกประเด็น ชัดเจน ตรงไปตรงมาและจะใช้โอกาสนี้ในการชี้แจงทำความเข้าใจกับประชาชน ถึงการทำงาน มั่นใจในการทำงานของรัฐมนตรีในส่วนของพรรค ไม่มีเรื่องทุจริต เชื่อมั่นว่าตอบได้ในทุกประเด็นข้อซักถาม และก็เชื่อว่ารัฐบาลพร้อมรับฟังข้อเสนอแนะต่างๆของฝ่ายค้าน และการอภิปรายครั้งนี้จะไม่มีการลงมติแต่อย่างใด และเป็นเรื่องปกติในระบบรัฐสภาภายใต้ระบอบประชาธิปไตย การตรวจสอบฝ่ายบริหารจากฝ่ายค้าน เป็นเรื่องที่สำคัญ คณะรัฐมนตรี ที่ถูกอภิปราย ก็มีหน้าที่ชี้แจง เป็นเรื่องธรรมดาในทางการเมือง ไม่มีอะไรน่ากังวล พรรคจะได้ติดตามและสนับสนุนข้อมูลบางส่วนในทางการเมืองควบคู่ไปกับคณะทำงานทางการเมืองในแต่ละกระทรวงซึ่งในการประชุมพรรค ก็จะได้มีการหยิบยกมาพูดคุยกันต่อไป
‘อุตตม’ย้ำตั้งพรรคเพื่อแก้ปัญหาศก.
นายอุตตม สาวนายน ผู้ก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย (สอคท.)โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่า‘สวัสดีครับ หลังจากเปิดตัวพรรคสร้างอนาคตไทย ไปเมื่อวันที่ 19ม.ค.ที่ผ่านมา มีบางท่านถามไถ่ถึงกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งพรรคด้วยความแปลกใจว่า ทำไมคนเหล่านี้ถึงยอมมาร่วมตั้งพรรค เพราะหลายคนเท่าที่รู้จักไม่เคยมีท่าทีว่า จะสนใจทำงานการเมืองมาก่อน วันนี้เราได้เริ่มทำงานกันอย่างเข้มข้นแล้ว ทั้งระดมความคิดเห็น เดินหน้าออกรับฟังเสียงจากพี่น้องประชาชนในทุกภาคส่วนเพื่อนำมาประกอบเป็นแนวนโยบาย เป็นยุทธศาสตร์สร้างอนาคตประเทศไทย ส่วนวิถีทางงานการเมืองผมคิดว่า วันนี้เราต้องปล่อยให้เป็นไปตามครรลองที่เห็นๆกันอยู่ เพราะพรรคอนาคตไทยมีจุดยืนชัดเจนว่า จะไม่เข้าไปเป็นส่วนหนึ่ง หรือซ้ำเติมความขัดแย้งที่เป็นอยู่ สิ่งที่เรามุ่งเน้นคือ เร่งสร้างยุทธศาสตร์เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากปัญหา โดยเฉพาะปัญหาเศรษฐกิจปากท้องประชาชน เป็นเรื่องสำคัญเร่งด่วนที่สุด จากนี้ไปพรรคจะทำงานอย่างเต็มที่เต็มกำลังครับ’
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี