เป็นมวย‘สุรชาติ’ผู้สมัครสส.ส.พรรคเพื่อไทย มามาดนิ่ม ปราศรัยหาเสียงที่กรมยุทธโยธาทหารบก ประกาศไม่เคยเห็นกองทัพเป็นศัตรู ถอดเครื่องแบบออกก็คือประชาชน ชี้กองทัพที่เข้มแข้งคือความมั่นคงทางอาณาเขตของประเทศ ไม่เคยคิดล้มล้างกองทัพ พร้อมสู้เพื่อสวัสดิการทหาร-ปฏิรูประบบราชการ ย้ำจิตสำนึกประชาชนต้องเริ่มจากปากท้อง
27 ม.ค. 2565 นายสุรชาติ เทียนทอง ผู้สมัคร เบอร์ 3 พรรคเพื่อไทย พร้อมด้วย นายสรวงศ์ เทียนทอง ผู้อำนวยการเลือกตั้ง นางสาวขัตติยา สวัสดิผล อดีต ส.ส.บัญชีรายชื่อ ร่วมเวทีปราศรัยหาเสียงเลือกตั้งซ่อม ที่ห้องประชุม กรมยุทธโยธาทหารบก เขตจตุจักร ต่อหน้าข้าราชการทหารและพลเรือนที่ร่วมรับฟัง (อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง : 'ก้าวไกล'บุกกรมยุทธโยธา ทบ. ถล่มนายพลต่อหน้าชั้นผู้น้อย หาเสียงโค้งสุดท้าย)
นายสุรชาติ กล่าวว่า ในฐานะผู้สมัคร ส.ส. พรรคเพื่อไทย มาในนามคนไทยคนหนึ่ง ถ้าทุกท่านในที่นี้ถอดเครื่องแบบทหาร ข้าราชการออก เราทุกคนต่างก็คือประชาชน ปฎิเสธไม่ได้ 10 กว่าปีที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยและกองทัพเป็นเหมือนเส้นขนาน สถานการณ์บีบให้เราเหมือนเป็นศัตรูกัน ตนในฐานะมนุษย์คนหนึ่ง ไม่เคยเห็นกองทัพเป็นเส้นขนานหรือศัตรู สถานการณ์ทางการเมืองต่างๆ ที่เกิดขึ้นมาจากการตัดสินใจของผู้มีอำนาจเพียงไม่กี่คนเท่านั้น เราต่างเป็นพี่น้องประชาชนคนไทยเหมือนกัน
นายสุรชาติ กล่าวต่อว่า ตนใช้เวลา 17 ปี อยู่กับพี่น้องประชาชน แม้ไม่เคยเป็นส.ส.ที่นี่สักครั้งเดียว ตนผิดหวังมากกว่าสมหวัง เเต่ได้เรียนรู้การเป็นผู้รับใช้ประชาชนในทุกวัน ตนมีความฝันให้ข้าราชการทุกหน่วยงานเป็นผู้รับใช้ประชาชนเช่นเดียวกับที่ตนตั้งใจทำมาโดยตลอด ดังนั้น เราต้องยอมรับความจริง ไม่ปฎิเสธการเปลี่ยนเเปลง พรรคเพื่อไทยยืนยันว่าไม่มีความคิดล้มล้าง หรือสลายหน่วยงานของกองทัพ แต่ต้องการปรับปรุง เปลี่ยนเเปลง เพื่อคุณภาพชีวิตของข้าราชการที่ดีขึ้น และการรับใช้ประชาชนได้อย่างแท้จริง
สำหรับเรื่องงบประมาณของกองทัพ นายสุรชาติระบุว่า ตนเข้าใจความจำเป็น ไม่ว่าประเทศใด กองทัพที่เข้มแข้งคือความมั่นคงทางอาณาเขตของประเทศนั้น เป็นสิ่งสำคัญที่ต้องมี แต่ปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สภาวะข้าวยากหมากแพง ต้องกู้หนี้ยืมสิน ขณะที่งบประมาณกองทัพปีนี้ที่จะเสนออยู่ที่ 3.15 ล้านบาท รัฐจึงจำเป็นต้องกู้เงินมาชดเชยเยียวยาเศรษฐกิจที่ย่ำแย่มาหลายปี พรรคเพื่อไทยไม่เคยมีอคติกับกองทัพ แต่ต้องการสร้างสมดุลให้เกิดความสอดรับกับรายจ่ายและรายได้ของประเทศ อาวุธยุทโธปกรณ์เป็นสิ่งสำคัญ เเต่ต้องพิจารณาจัดลำดับความจำเป็นเร่งด่วน
นอกจากนี้ นายสุรชาติยังกล่าวถึงความจำเป็นของสวัสดิการที่ดีสำหรับกองทัพ ทั้งที่พักอาศัย อาหาร การศึกษา ของกำลังพล เมื่อปี 2562 พรรคเพื่อไทยเคยเสนอให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหาร ไม่ใช่การตัดกำลังพล เเต่คือจัดสรรงบประมาณอย่างถูกต้องและมีประสิทธิภาพ มาพัฒนาคุณภาพชีวิตของบุคลากรในกองทัพ จากจุดนั้นเองจะนำไปสู่สิ่งใหญ่กว่าเช่นการยกเลิกการเกณฑ์ทหารได้
"ความมั่นคงของชาติเริ่มจากความมั่นคงในชีวิตของประชาชนก่อน ประชาชนคือทรัพยากรที่มีค่าที่สุดของประเทศนี้ เพราะฉะนั้นความมั่นคงในชีวิต เริ่มต้นจากเศรษฐกิจ ปากท้อง การศึกษา การพัฒนาตัวเองตามโลกที่เปลี่ยนไป การที่เราจะเรียกร้องหาจิตสำนึกจากประชาชน โดยที่เรายังไม่สามารถทำให้ปากท้องเขาอิ่ม ทำให้ความเป็นอยู่เขาดีได้ ถือเป็นคำพูดที่ไร้ความรับผิดชอบของคนมีอำนาจ เราเริ่มต้นที่จุดเล็ก การปฏิรูป เปลี่ยนแปลง พัฒนา ด้วยทัศนคติที่ดี และความตั้งใจที่ดี ผมเชื่อว่าเราเริ่มต้นจากตรงนี้ได้” นายสุรชาติกล่าว
-001
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี