‘เฉลิมชัย’ การันตีไม่มีปกปิดอหิวาต์ฯหมู ซัดใครคิดอยากให้เกิดโรคต้องเรียกว่า ‘เลวมาก’ แย้มข่าวดีกำลังดันทดลอง ‘วัคซีนไทย’ ขั้นสุดท้าย พ.ค.นี้รู้เรื่อง แจงปมจัดงานกลบเกลื่อน ยันไม่มีใช้งบฯ ‘กษ.’
เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2565 เมื่อเวลา 15.10 น. ที่รัฐสภา นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน รมว.เกษตรและสหกรณ์ อภิปรายชี้แจงญัตติขอเปิดอภิปรายทั่วไป ตามรัฐธรรมนูญมาตรา152 กรณีการปกปิดข้อมูลโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร(ASF) ระบาดในประเทศไทยว่า การพูดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นมาแล้ว และนำมาวิพากษ์วิจารณ์ เป็นเรื่องง่าย แต่ข้อเท็จจริงของการแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้า ที่ข้าราชการกระทรวงเกษตรฯและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องแก้ปัญหา แก้ไขแต่ละขั้นตอน กว่าจะสำเร็จเป็นเรื่องยาก เรื่องเหล่านี้ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้น เพราะส่งผลกระทบต่อเกษตรกรผู้เลี้ยงสุกร และผู้บริโภค ที่จะได้รับผลกระทบ ถ้าใครคิดว่าอยากให้เกิดโรคเหล่านี้ขึ้น หากเป็นเช่นนั้น ก็ต้องเรียกว่าเลวมาก
“ผมเป็นนักการเมือง เคยเป็นส.ส. รู้ถึงปัญหาของประชาชน โรคASFเกิดขึ้นมาบนโลกนี้101ปีแล้ว ระบาดไปทั่วโลก วนมารอบนี้เกิดที่จีนในปี2561 เพียง6เดือนทำลายหมูไปกว่า300-500ล้านตัว จากนั้นไประบาดในเวียดนามอีก3เดือน ทำลายหมูไปกว่า10ล้านตัว แล้วลามไปประเทศเพื่อนบ้านข้างเคียงไทยทั้งหมด ซึ่งเป็นโรคที่ระบาดเร็ว รุนแรง หลายช่องทาง ยังไม่มีวัคซีนรักษา จึงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะป้องกัน แต่ไทยสามารถป้องกันได้นานถึง3ปีเต็ม เพิ่งตรวจเจอเชื้อโดยทางการจะต้องตรวจหาเชื้อ และรับรองโดยกรมปศุสัตว์ถึงจะประกาศว่าเราเจอเชื้อASFระบาดในไทย” นายเฉลิมชัย กล่าว
รมว.เกษตรฯ กล่าวต่อว่า อย่างที่ทราบโรคนี้ไม่มีวัคซีนป้องกัน วัคซีนยังอยู่ในขั้นการทดลอง กระทรวงเกษตรฯจับมือสถาบันอุดมศึกษาที่จะพัฒนาวัคซีนของไทยเอง โดยจะทดลองในขั้นสุดท้ายในเดือนพ.ค.นี้ และจะบอกให้ประชาชนรับทราบว่าเราประสบความสำเร็จมากน้อยแค่ไหน อาจมีข่าวดีของเราก็ได้ เราได้รับทราบข่าวจากองค์กรต่างประเทศที่เกี่ยวข้อง ผ่านเว็บไซต์ต่างๆเมื่อปี61 ตลอด3ปีที่เราป้องกันโรคนี้ ไทยได้รับการชื่นชมว่ามีการป้องกันที่ดีที่สุดในอาเซียน ยืนยันว่าไม่มีการปกปิดการระบาดทั้งสิ้น มันจะปกปิดได้อย่างไร ก่อนที่ตนจะเข้ารับตำแหน่งในรัฐบาลชุดนี้ รัฐบาลชุดก่อนได้มีการประกาศให้โรคAFS เป็นวาระแห่งชาติ จึงไม่สามารถปิดบังกันได้ ทุกฝ่ายทราบ เกษตรกรก็ทราบว่าจะมีการระบาด ขอให้ช่วยป้องกัน และการปกปิดไม่เป็นประโยชน์กับใครทั้งสิ้น รัฐบาลจึงมีมาตรการต่างๆออกมาป้องกัน เราชดเชยดูแลให้เฉพาะเกษตรรายเล็ก และรายย่อย เพราะทราบว่าไม่สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีอย่างฟาร์มเลี้ยงหมูขนาดกลาง และขนาดใหญ่ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะเข้ามาดูแลช่วยเหลือ
“ผมขอขอบคุณสมาคมผู้เลี้ยงสุกร ผู้ประกอบการเลี้ยงสุกร รวมถึงผู้ประกอบการเกี่ยวกับวงจรการเลี้ยงสุกรทั้งหมด ก่อนที่รัฐบาลจะจัดสรรเงินไปช่วยเหลือ องค์กรและผู้ประกอบการเหล่านี้แต่ละรายได้ควักเงินตัวเอง 100 ล้านบาท ในการป้องกันตัดวงจรโรคระบาดช่วยเกษตรกรรายย่อย จนกระทั่งเราตั้งคณะกรรมการแห่งชาติ และเล็งเห็นว่าเอกชนรับภาระอย่างเดียวไม่ไหว จึงเป็นที่มาในการเสนอของบประมาณจากคณะรัฐมนตรี เพื่อมาจ่ายค่าชดเชยเกษตรกร โดยไม่ได้เป็นการจ่ายในกรณีที่สุกรเป็นโรคAFS แต่เป็นหนึ่งในมาตรการป้องกัน เพื่อไม่ให้เกิดโรคขึ้น ดังนั้นสุกรกลุ่มเสี่ยงที่จะเป็นโรคAFSจะถูกทำลายทั้งหมด และได้รับการชดเชย75เปอร์เซ็นต์ หรือจำนวน1,100ล้านบาท เงินถึงมือเกษตรกร ผมได้กำชับให้เงินถึงมือเกษตรกรเร็วที่สุด เพราะเขาเดือดร้อนจริงๆ อีกทั้งยังดำเนินการไปพร้อมกับมาตรการฟื้นฟู เพื่อให้เขากลับมาเลี้ยงสุกรได้ตามปกติ” นายเฉลิมชัย กล่าว
รมว.เกษตรฯ กล่าวด้วยว่า ส่วนกรณีที่มีการอ้างว่าตนจัดงานกลบเกลื่อนการระบาดของโรค ASF นั้น ขอชี้แจงว่า เมื่อวันที่ 24 ธ.ค. 63 สมาคมผู้เลี้ยงสุกรแห่งประเทศไทย และผู้เลี้ยงสุกรทั้งรายย่อย รายกลาง และรายใหญ่ เชิญตนไปงานในฐานะแขกรับเชิญเท่านั้น เพื่อขอบคุณกระทรวงเกษตรฯ และกรมปศุสัตว์ ที่ดำเนินการป้องกันโรค ASF ได้ผล และก็ไม่ได้ใช้งบประมาณของกระทรวงเกษตรฯแต่อย่างใด สามารถไปถามข้อเท็จจริงกับผู้จัดงานได้ว่า สิ่งที่ตนพูดเป็นความจริงหรือไม่
“เขาเชิญไปเพื่อแสดงความขอบคุณ ผมไม่กล้าไปยืนหน้าเศร้าหรือร้องไห้บนเวทีหรอก ผมก็ต้องยิ้มเพื่อแสดงความยินดีกับเขาด้วย และยิ้มเป็นกำลังใจกับเขาด้วย ในการที่จะจับมือกันฟันฝ่าอุปสรรค เพื่อป้องกันโรค ASF ต่อไปในวันข้างหน้า ผมมีโอกาสได้พูดคุยกับทางกลุ่มผู้เลี้ยงสุกร เขาคาดว่าหากไม่มีมาตรการอะไรกลางปี 63 เราจะถูกโรค ASF กินหมูไปทั้งประเทศ ถ้าผมเป็นคนจัดงานเพื่อกลบเกลื่อน ผมไม่กล้าไปว่าคนอื่นหรอก ผมนะเลวจริง แต่มันไม่ใช่สิ่งที่ท่านพูดท่านเสนอเลย” นายเฉลิมชัย กล่าว
- 004
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี