‘กกต.-สธ.’ลงนามข้อตกลงขับเคลื่อนสร้างความรู้ทางการปกครอง ดึง อสม.ทั่วประเทศให้ความรู้กับประชาชน พร้อมหารือมาตรการให้ผู้ป่วยโควิดออกไปเลือกตั้งได้ ‘อนุทิน’ยันผู้ติดเชื้อต้องได้ใช้สิทธิ เทียบกรณีตัวเองถูกตัดสิทธิทางการเมือง 5 ปี‘อกแทบแตก’
28 เมษายน 2565 สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) จัดพิธีลงนามบันทึกข้อความร่วมมือกับกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) เพื่อบูรณาการในการขับเคลื่อนภารกิจสร้างความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข โดยมีนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข และนายอิทธิพร บุญประคอง ประธาน กกต. ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อผลักดันการเสริมสร้างความเป็นพลเมืองคุณภาพและความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งกลุ่มเป้าหมายสำคัญเป็นกลไกหลัก คือ ศูนย์ส่งเสริมพัฒนาประชาธิปไตย(ศส.ปชต.) และอาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน(อสม.) เครือข่ายที่มีความเข้มแข็งในการขับเคลื่อนภารกิจในระดับพื้นที่ชุมชน ดังนั้นเพื่อให้การบูรณาการความร่วมมือระหว่างกระทรวงสาธารณสุขกับสำนักงาน กกต.ให้มีประสิทธิภาพ จึงต้องมีการลงนามข้อตกลงในครั้งนี้
นายอิทธิพร กล่าวว่า การลงนามครั้งนี้เพื่อเสริมสร้างความเป็นพลเมืองคุณภาพและความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขให้กับบุคลากรของกระทรวงสาธารณสุขทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เชื่อว่าทุกคนต้องการเห็นบ้านเมืองพัฒนาก้าวไปข้างหน้าด้วยระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็ง เพราะถ้าระบอบประชาธิปไตยที่เข้มแข็งจะช่วยพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนให้มีความสุขได้ก็การมีพลเมืองคุณภาพ ภารกิจที่สำคัญนี้จะประสบความสำเร็จได้ต้องอาศัยความร่วมมือของเครือข่าย อสม.ทั่วประเทศที่จะช่วยขับเคลื่อนความรู้ดังกล่าวไปสู่ประชาชน
ด้านนายแสวง บุญมี เลขาธิการ กกต. กล่าวว่า การลงนามความร่วมมือในวันนี้เพื่อขับเคลื่อนการสร้างพลเมืองคุณภาพให้ประชาชนมีความรู้ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ซึ่งในการเลือกตั้ง 2 ปีที่ผ่านมาทั้งการเลือกตั้งระดับ อบต. และเทศบาล ก็ได้รับความร่วมมือจากกระทรวงสาธารณสุข ในการส่ง อสม.เข้ามาประจำหน่วยเลือกตั้งหน่วยละ 2 คน ในการดูแลความปลอดภัยในการออกมาลงคะแนนของประชาชน ก็ไม่ปรากฏมีคนติดเชื้อโควิดจากการเลือกตั้ง
ทั้งนี้ ในส่วนการเลือกตั้งผู้ว่าฯ กทม. และส.ก. เราได้ร่วมหารือกับกระทรวงสาธารณสุขอย่างใกล้ชิด เนื่องจากมาตรการควบคุมโรคเปลี่ยนไป เพราะผู้ป่วยสามารถรักษาตัวที่บ้านตรวจ ATK ได้เอง โดยตอนนี้กำลังหารือถึงมาตรการอำนวยความสะดวกให้กับผู้ติดเชื้อออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งกรณีตรวจ ATK พบติดเชื้อ หรือผู้ป่วยที่รักษาตัวอยู่ที่บ้านจะไปเลือกตั้งอย่างไร
“ขณะนี้ได้ร่างแผนมาตรการร่วมกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข โดยมีการเตรียมไว้ 3 ขั้นตอนคือการจัดหน่วยเลือกตั้งพิเศษสำหรับผู้ติดเชื้อโควิด การเตรียมตัวของผู้ติดเชื้อในการออกไปลงคะแนน และในระหว่างลงคะแนน” นายแสวง กล่าว
ขณะที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์ภายหลังการลงนาม ว่า จากการที่กระทรวงสาธารณสุขมีเครือข่าย อสม. ประมาณ 1 ล้านคน กระจายอยู่ทั่วประเทศ โดยหลายท่านก็มีความรู้ความเข้าใจทางด้านการพัฒนาการเมืองและการเลือกตั้ง จึงเป็นที่มาของความคิดในการลงนามความร่วมมือ เพื่อให้เครือข่าย อสม.สามารถกระจายความรู้ความเข้าใจคุณค่าของการปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นพระประมุข ให้ชาวบ้านได้ทราบ ทั้งนี้ต้องนึกถึงประเทศเป็นหลัก เลือกคนที่ดีคนที่ทุ่มเท พรรคที่ดีมีนโยบายทำเพื่อประเทศชาติอย่างเต็มที่ได้เข้ามาบริหารราชการแผ่นดิน
ทั้งนี้ อสม.มีศักยภาพด้านการประชาสัมพันธ์ กระจายข่าว อย่างเช่นช่วงที่มีโรคระบาด อสม.ก็จะช่วยให้ชาวบ้านเกิดความเข้าใจในการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจากโรคระบาด ในกรณีนี้ก็เช่นกันทางกกต.จะให้กระทรวงสาธารณสุขใช้เครือข่ายอสม.ในการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ข่าวสาร และความใจต่างๆต่อไป ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีเพราะเราจะมีกำลังอีกตั้ง 1 ล้านคนที่จะออกไปบอกกับชาวบ้านในวงกว้างว่าต้องรักชาติ รักบ้านเมือง ต้องสงวนสิทธิ์ที่ตนเองมีอยู่เลือกคนที่ดีที่สุดให้เป็นตัวแทนของเขาในการเป็นปากเสียงของประชาชนต่อไป ซึ่ง อสม.พื้นฐานมีความทุ่มเทอยู่แล้ว เป็นอาสาสมัครโดยที่ไม่คำนึงถึงค่าตอบแทนใดๆ ต้องเชื่อว่าวุฒิภาวะของอสม.ก็คงช่วยเหลือภารกิจ และปณิธานของกกต.ให้เกิดความสะอาด โปร่งใสในการเลือกตั้งต่างๆ
นายอนุทิน กล่าวอีกว่า ส่วนค่าตอบแทนเป็นหน้าที่ของกระทรวงสาธารณสุข ถ้าเรามีโอกาสที่ทำได้ก็ไม่เคยละเลยที่จะตอบแทนการทำงานของอสม. ซึ่งการตอบแทนอาจจะไม่จำเป็นในรูปแบบของเงินอย่างเดียว อาจจะเป็นในรูปแบบของการชื่นชม แจกประกาศนียบัตร การให้สิทธิในการรักษาพยาบาลให้กับอสม.และครอบครัว เป็นต้น นอกจากนี้ยังจัดระบบกองทุนฌาปนกิจสงเคราะห์ให้กับอสม. เพื่อสร้างความมั่นคงกับ อสม.ให้มากที่สุด
นายอนุทิน ยังกล่าวอีกว่า ส่วนการใช้สิทธิลงเลือกตั้งของประชาชนที่ติดเชื้อโควิด-19 กรมควบคุมโรคกำลังหารือเร่งด่วนกับเลขาธิการกกต.ในระดับหนึ่งแล้ว ซึ่งอย่างที่ตนได้เรียนว่าเรากำลังจะเดินทางไปสู่เป้าหมายให้โควิด-19 เป็นโรคประจำถิ่น ที่เราเดินมากว่าครึ่งทางแล้ว เราได้ลดมาตรการต่างๆลง ทั้งการลดการรักษาพยาบาลแบบที่ทุกคนต้องกักตัว 14 วัน ที่ขณะนี้ไม่มีแล้ว ก็จะเหลือกลุ่มที่มีอาการหนักเท่านั้น หรือกลุ่ม 608 ที่ยังไม่ได้รับวัคซีน ถึงจะเข้ารับการรักษาที่มีความยุ่งยาก สลับซับซ้อน เพราะความเป็นอันตรายเริ่มลดน้อยลง โดยพยายามหาทางกับทางกกต. ในการเลือกตั้งถ้ามีผลตรวจ 2 ขีดก็ไปแจ้งหน่วยเลือกตั้ง เพื่อใช้ช่องแยกช่องแยก หรือใส่หน้ากากอนามัย 2 ชั้น ขอให้ความมั่นใจว่าเราคำนึงถึงความเป็นปลอดภัยของส่วนรวมเป็นหลัก ไม่มีสาเหตุที่ทำให้เกิดความสูญเสียแน่นอน
“เราไปตัดสิทธิเขาไม่ได้ ถ้าเขายืนยันว่าจะใช้สิทธิของเขาในความเป็นประชาชน เพราะว่าการเลือกตั้งคือสิทธิที่ทุกคนหวงแหน ผมเคยโดนตัดสิทธิทางการเมืองมา 5 ปี สมัยเป็นกรรมการบริหารพรรคไทยรักไทย ผมอกแทบแตก ทุกครั้งที่ไม่ได้ไปเลือกตั้งรู้สึกว่าตัวเองถูกลิดรอน ฉะนั้นการที่ผู้คนเจ็บป่วยแล้วบอกว่าออกมาใช้สิทธิไม่ได้ ผมถือว่าเป็นการก้าวล่วง เพราะฉะนั้นเราต้องหาวิธีที่จะทำให้การบริหารจัดการเลือกตั้งเป็นไปด้วยดี” นายอนุทิน กล่าว
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี