สอนมวย‘ธนาธร’!ไล่ไปศึกษาก่อนร้องปฏิรูปการปกครอง ยกเลิกอำเภอ-กำนันผู้ใหญ่บ้าน
5 พฤษภาคม 2565 นายไพศาล พืชมงคล อดีตกรรมการผู้ช่วยรองนายกรัฐมนตรี (พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ) โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Paisal Puechmongkol มีเนื้อหาดังนี้...
“ธนาธร” เรียกร้องให้ปฏิรูปการปกครองยกเลิก อำเภอ กำนันผู้ใหญ่บ้าน และโอนอำนาจนี้ไปให้อบจ.
ธนาธร ต้องศึกษาเรื่องการปฏิรูปการปกครองท้องถิ่นเพิ่มเติม!!!!
1.ปัจจุบันรัฐราชการได้ขยายตัวเติบใหญ่มากที่สุดในประวัติศาสตร์ของชาติ เกิดรายจ่ายประจำผูกพันจนแทบไม่เหลืองบประมาณเพื่อการพัฒนาประเทศอีกแล้ว มีการปกครองที่ทับซ้อนกันหลายประเภท จนขัดขวางการพัฒนาท้องถิ่น ไม่สามารถตอบสนองความปรารถนาของประชาชนในท้องถิ่น ซึ่งจะทำให้การปกครองของประเทศพังทลายลงทั้งระบบ
2.พระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 5 ทรงริเริ่มปฏิรูปการปกครองท้องถิ่นในรูปแบบเทศบาล และถือว่าเป็นพระบรมราโชบายสำคัญ ถึงขั้นเสด็จไปเปิดเทศบาลแห่งแรกของประเทศด้วยพระองค์เอง
แต่พระบรมราโชบายนั้น ถูกบิดเบือนและทอดทิ้ง จนเปลี่ยนโฉมเป็นรัฐราชการในปัจจุบัน
ดังนั้นถึงเวลาแล้วที่ต้องสืบทอดการปฏิรูปการปกครองตามพระบรมราโชบายนั้น ให้เป็นผลสำเร็จประเทศจึงจะอยู่รอดได้!!!
ผมเห็นด้วยกับแนวคิดของคุณธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ที่จะให้ยกเลิกอำเภอ และกำนันผู้ใหญ่บ้าน แต่ไม่เห็นด้วยที่จะให้โอนอำนาจนี้แก่ อบจ. ซึ่งสะท้อนว่าคุณธนาธร ไม่เข้าใจระบบการปกครองของประเทศ จึงอยากจะแนะนำให้คุณธนาธร ลองไปค้นคว้าศึกษาราชกิจจานุเบกษาทั้งหมดที่ได้จัดพิมพ์ขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ก็จะได้รู้ได้เห็นได้เข้าใจถึงพระมหากรุณาธิคุณ พระปัญญาคุณของสมเด็จพระมหาราชเจ้าพระองค์นั้น ว่าทรงมีพระปัญญาทัศนะที่สุขุมลุ่มลึก กว้างไกล ก้าวล้ำไปในอนาคตขนาดไหน และเมื่อเข้าใจแล้ว ก็อาจเป็นที่ตั้งให้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง และดีงามต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ของเรา ว่าไม่ได้ด้อย หรือย่อหย่อนกว่าประมุข หรือผู้นำใด ๆ ในโลกนี้เลย และเมื่อเข้าใจแล้ว ก็จะได้ใช้สติปัญญาความสามารถนั้นให้บังเกิดประโยชน์สุขต่อบ้านเมืองของเรา และช่วยกันสืบสานต่อยอดที่พระองค์ได้ทรงริเริ่มไว้ไปจนกว่าจะสำเร็จ
3.การปกครองของประเทศไทยขณะนี้แบ่งเป็น
(1) ราชการส่วนกลาง คือ กระทรวง และกรม ซึ่งเป็นองค์กรกำหนดนโยบาย และกำกับการปฏิบัติของนโยบายส่วนกลาง ยังมีความจำเป็นที่จะต้องดำรงอยู่
(2) การปกครองส่วนภูมิภาค ซึ่งปัจจุบันนี้มีจังหวัด อำเภอ ยังมีความจำเป็นที่จะต้องดำรงการปกครองส่วนภูมิภาคไว้ที่ระดับจังหวัด แต่ลดขนาดลงให้เหลือเฉพาะหน่วยงานที่ทำหน้าที่กำกับดูแล สนับสนุนการปกครองท้องถิ่น และการประสานระหว่างการปกครองท้องถิ่น และราชการส่วนกลาง!!!
สำหรับอำเภอนั้น สมควรยกเลิกทั้งหมด ซึ่งมีจำนวนทั้งสิ้นเกือบ 600 อำเภอ เพราะมีราชการส่วนท้องถิ่นรับผิดชอบอยู่แล้ว และการคมนาคม การสื่อสารก็สะดวกที่ส่วนท้องถิ่นจะประสานโดยตรงกับจังหวัดได้
สำหรับกำนันผู้ใหญ่บ้านนั้น เป็นราชการ "ปกครองส่วนท้องที่" ทับซ้อนกับการปกครองส่วนท้องถิ่น จึงต้องยกเลิกทั้งหมด ก็จะแก้ไขปัญหาความทับซ้อน และความขัดแย้ง ตลอดจนภาระที่สับสนอลม่านในการปกครองได้
(3) การปกครองส่วนท้องถิ่น ปัจจุบันนี้มี อบจ. อบต. เทศบาลนคร เทศบาลเมือง เทศบาลตำบล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิเศษ เช่น กรุงเทพฯ และเมืองพัทยา ซึ่งสับสนอลม่านเต็มที
จะต้องกำหนดให้เหลือ 2 รูปแบบ คือ เทศบาล และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นพิเศษ แบบกรุงเทพฯ และพัทยา นอกนั้นให้แปรสภาพหรือรวมเป็นเทศบาลทั้งหมด โดยถือเขตอำเภอเป็นหลัก เรียกว่าเทศบาลเมือง สำหรับเมืองใหญ่ ให้เรียกว่าเทศบาลนคร ที่ฝ่ายบริหาร และสภามาจากการเลือกตั้งของประชาชน
4.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีอำนาจเต็มที่ในการบริหารส่วนท้องถิ่น ยกเว้นเฉพาะด้านการต่างประเทศ ด้านกลาโหม และการจัดวางระบบ และหลักสูตรการศึกษา มีอำนาจในการจัดทำงบประมาณของตนเอง โดยแจ้งให้ส่วนภูมิภาค และส่วนกลางรับทราบ เพื่อใช้อำนาจยับยั้งในกรณีที่ไม่ถูกต้อง หรือเกินความจำเป็น
5.การปฏิรูประบบการปกครอง ดังกล่าว จะทำให้ส่วนกลางมีกระทรวง และกรมที่มีขนาดเล็กลง มีส่วนภูมิภาคที่มีจังหวัดเป็นศูนย์กลางแต่มีขนาดเล็กลง มีการปกครองส่วนท้องถิ่นในรูปแบบของการปกครองพิเศษ เทศบาลนคร และเทศบาลเมือง ก็จะลดรายจ่ายในการบริหาร ลดความทับซ้อน และเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารที่ตอบสนองความปรารถนาของประชาชนในท้องถิ่น โดยส่วนกลาง และส่วนภูมิภาคยังคงมีอำนาจยับยั้งในส่วนที่ไม่ถูกต้อง หรือเกินความจำเป็นได้
สำหรับตำรวจให้ขึ้นอยู่กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยตำรวจส่วนกลางนั้นให้เหลือไว้เฉพาะสำนักงานตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานตำรวจตะเวนชายแดน สำนักงานตำรวจเพื่อความมั่นคงภายใน สำนักงานนิติเวช และสำนักงานตำรวจสันติบาล
ถ้าไม่ปฏิรูปการปกครองประเทศไทยก็ไม่มีทางเดินต่อไปได้เลย
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี