กมธ.การศาสนาฯ แฉปม ‘อดีตพระกาโตะ’ถอนเงินวัดออกไปมากกว่า 6 แสน แถมการแต่งตั้งเป็นรักษาการเจ้าอาวาสไม่ถูกระเบียบ-ไร้อำนาจเบิกถอนเงิน ส่อผิด ‘ยักยอกทรัพย์’ ผู้เกี่ยวข้องโดนด้วยกราวรูด
10 พ.ค.2565 เมื่อเวลา 12.20 น. ที่รัฐสภา นายสุชาติ อุสาหะ ส.ส.เพชรบุรี พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม สภาผู้แทนราษฎร แถลงผลการประชุมกมธ.ว่า ช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา มีประเด็นเรื่องข้อกฎหมาย กฎกระทรวง และกฎมหาเถรสมาคม ที่เกี่ยวข้องกับอดีตพระกาโตะ และสีกาตอง ที่เกิดขึ้นในจ.นครศรีธรรมราช โดยกมธ.ได้เชิญตัวแทนหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามาชี้แจง ได้แก่ สำนักพุทธศาสนาแห่งชาติ(พศ.) กองบังคับการป้องกันปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ (ปปป.) รวมถึงพนักงานสอบสวนที่ทำคดีนี้ ซึ่งใช้เวลาหารือกันกว่า 2 ชั่วโมง โดยมีการซักถามเรื่องข้อกฎหมายและเส้นทางการเงิน ได้ข้อสรุป คือ กรณีข้อกฎหมาย กฎกระทรวง และกฎมหาเถรสมาคม ถ้าพระภิกษุปาราชิกแล้วจะกลับมาบวชใหม่ได้หรือไม่ ทางสำนักพุทธฯ ชี้แจงว่า ทั้งประเทศมีพระภิกษุประมาณ 250,000 รูป มีวัดและสำนักสงฆ์ประมาณ 42,000 แห่ง และที่พักสงฆ์ 10,000 แห่ง ต้องยอมรับว่าฐานข้อมูลของสำนักพุทธฯ ยังไม่สามารถปรับให้เป็นปัจจุบันได้
"ดังนั้น การยืนยันตัวตนในบางครั้งหากต้องอาบัติปาราชิกในกรณีที่เสพเมถุน และหากเกิดเหตุเช่นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช หรือบางครั้งอาจเกิดเหตุในจังหวัดอื่น อาจจะเป็นบุคคลเดิมหรือไม่ แล้วถ้ามีการเปลี่ยนชื่อหรือนามสกุลด้วย จึงทำให้ไม่สามารถยืนยันข้อมูลปัจจุบันได้ โดยสำนักพุทธฯ ยืนยันว่าจะไปปรับปรุงข้อมูลในส่วนนี้โดยเร่งด่วน” นายสุชาติ กล่าว
นายสุชาติ กล่าวต่อว่า ส่วนการแต่งตั้งรักษาการแทนเจ้าอาวาส ตามพ.ร.บ.สงฆ์ มาตรา 36,37,39 ในกรณีของอดีตพระกาโตะ จะถูกต้องตามระเบียบข้อกฎหมายหรือไม่ ได้รับการชี้แจงว่า อดีตพระกาโตะ ไม่เป็นเจ้าพนักงานตามกฎหมาย เพราะไม่ได้มีคำสั่งที่แต่งตั้งถูกต้องตามระเบียบ ซึ่งเจ้าพนักงานตามกฎหมายที่ถูกต้อง คือเจ้าอาวาสวัดบุปผาราม ซึ่งเป็นผู้รักษาการตามกฎหมาย ขณะที่การเปิดบัญชี และอำนาจการเบิก-ถอนเงินในบัญชีของวัด ต้องแยกเป็น 2 ส่วน 1.บัญชีเป็นชื่อของวัดซึ่งถูกต้อง แต่ 2.ผู้มีอำนาจในการถอนเงินไม่ถูกต้องตามระเบียบ เพราะทั้ง3คนที่มีชื่อในการเบิกจ่าย ไม่ได้เป็นรักษาการเจ้าอาวาส หรือไวยาวัจกรณ์
“เป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ตามกฎหมายที่จะต้องไปสืบต่อว่าเงินในส่วนนี้เข้ามาอย่างไร รวมถึงการเบิกจ่ายที่ไม่มีอำนาจผลจะเป็นอย่างไร แต่สิ่งหนึ่งที่บอกได้คือ จำนวนเงินที่เบิกจ่ายออกจากวัดมีมากกว่า 600,000 บาทตามที่ปรากฎเป็นข่าว เฉพาะเดือนเม.ย.ที่ผ่านมาก็มากกว่า 600,000 บาทแล้ว แต่ตัวเลขที่ชัดเจนยังไม่สามารถเปิดเผยได้ ซึ่งทางฝ่ายสืบสวนกำลังตามอยู่ ในกรณีนี้จะเข้าข่ายที่จะสามารถเอาผิดฐานยักยอกทรัพย์ได้ ทางพนักงานสอบสวนยืนยันแล้ว ซึ่งจะรวมถึงผู้เกี่ยวข้องกับอดีตพระกาโตะในฝ่ายต่างๆด้วย หากมีความชัดเจนกว่านี้จะแจ้งให้ทราบต่อไป” ประธาน กมธ.การศาสนาฯ ระบุ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี