‘บิ๊กตู่’ลั่นทำงานเพื่อคนไทยทั้งประเทศ
‘ใครจะไล่ก็ไล่ไป’
ปลุกคนไทยในสหรัฐฯอยู่ที่ไหนต้องรักกัน
บ่นถูกจับตาเยือนสหรัฐฯเลือกข้าง
พรรคเล็กฮึดสู้สภาใหญ่วาระ2-3
ชี้ยังไม่จบสส.ปาร์ตี้ลิสต์หาร100
พิเชษฐปัดทำผิด/ยื่นอุทธรณ์โทษ
“บิ๊กตู่” ปลุกคนไทยสหรัฐฯอยู่ที่ไหนต้องรักกัน ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้นใครจะไล่ก็ไล่ไป ลั่น ทำงานเพื่อคนไทยทั้งประเทศ บ่นถูกจับตาเยือนสหรัฐฯเลือกข้างยันยึดหลัก ไม่ขัดแย้งใคร ขอทุกคนรักแผ่นดินเกิด อย่าฟังไอ้พวกไม่มีชาติ “ไพบูลย์” ฟันธง กฎหมายลูก 2 ฉบับ เสร็จประมาณเดือนกันยายน-ตุลาคม คาดศาล รธน.ตีความวาระนายกฯนาน 4-5 เดือน เฉียดครบเทอมไม่กระทบกับก.ม.ลูก “เทวัญ” ยัน “ชาติพัฒนา” หนุน “บิ๊กตู่”นั่งนายกฯต่อ วอนสมาชิกร่วมโหวตผ่าน พ.ร.บ.งบประมาณปี 2566 ด้าน “พิเชษฐ” ยื่นอุทธรณ์โทษ พปชร.ยันไม่ได้ทำผิดข้องใจแผนปิดปาก
ไล่ออกการเมือง ยันเดินหน้าดินเนอร์ “เพื่อไทย” 23 พฤษภาคม พรรคเล็กประกาศ ยังไม่จบสูตรคำนวณสส.ปาร์ตีลิสต์หาร 100 “หมอระวี” ขอสู้ต่อในวาระ 2-3 พร้อมกาง 3 แผนอนาคต “ถอย ยุบรวม ยืนหยัด”
เมื่อเวลา10.00น.วันที่ 12พฤษภาคม2565 ตามเวลาท้องถิ่นสหรัฐอเมริกา (หรือเวลา 21.00น.ตามเวลาประเทศไทย) ที่ ห้อง George Washington โรงแรม St. Regis พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ได้พบปะชุมชนไทยในสหรัฐฯระหว่างเดินเยือนในการประชุมสุดยอดผู้นำอาเซียน-สหรัฐฯ (สมัยพิเศษ) โดยนายกฯกล่าวว่า วันนี้เราอยู่ท่ามกลางคนไทยด้วยกัน คนไทยเรามีคติว่า ไม่ว่าจะอยู่ไหนคนไทยต้องรักกัน วันนี้อยากจะมาพบมาพูดคุย สิ่งสำคัญที่สุดคือ เป็นกำลังใจให้นายกฯเพราะนายกฯต้องไปสู้อีกหลายการประชุม จะไปร่วมพูดคุยว่าจะทำอย่างไรให้ประเทศไทยสามารถเดินไปข้างหน้าให้ได้ เพราะเป็นประเทศที่ค่อนข้างมีศักยภาพในอาเซียน
‘บิ๊กตู่’ลั่นทำงานเพื่อคนไทยทั้งปท.
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า สิ่งแรกที่ตนมาเจอกันวันนี้คือ ยินดี สิ่งที่สองตนอยากฝากไว้ด้วยว่า ท่านเป็นตัวแทนของคนไทยในต่างประเทศ เพราะฉะนั้นต้องทำหน้าที่เพื่อแผ่นดินเกิดของท่าน รวมไปถึงหน้าที่ที่สองที่มีหน้าที่ต่อประเทศของท่านในเวลานี้ สิ่งสำคัญคือลูกหลาน จะทำอย่างไรให้ไม่ลืมบ้านเกิดของเรา ไม่ลืมบ้านเกิดของต้นตระกูล วันนี้จะเห็นว่าหลายอย่างเปลี่ยนแปลงไปเยอะ โลกปัจจุบันเทคโนโลยีดิจิทัล ทำให้ทุกอย่างวุ่นวายไปหมด การทำงานก็ไม่ง่ายนัก สิ่งสำคัญที่สุดคือ จะต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดีในการที่จะเสพหรืออ่านเชื่อหรืออะไรก็แล้วแต่ ตนเข้ามาทำงานอยู่หลายปี ผ่านวันเวลามาอย่างอดทนเพื่อให้ทุกอย่างมันดีขึ้น แต่สุดแล้วแต่ประชาชนจะว่าอย่างไร แต่ตนจะทำทุกอย่างให้ดีที่สุด โดยจะต้องไม่ทุจริต ไม่แสวงหาผลประโยชน์ ไม่ทำอะไรที่ผิด นี่คือเป้าหมายของตนว่า ตนทำเพื่อใคร เพื่อประชาชนคนไทยทั้งประเทศ ไม่ได้ทำเพื่อตนเอง เพื่อตระกูลตน หรือเพื่อใครสักคนเลย ตนไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว ตนรับราชการมาจนเกษียณอายุราชการด้วยความภาคภูมิใจ หลังจากนั้นก็กลายมาเป็นนักการเมืองโดยจำเป็น ก็สุดแล้วแต่
ไม่เลือกอยู่ข้างใคร-ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
นายกฯกล่าวอีกว่า วันนี้ตนเดินทางมาประชุมอาเซียน-สหรัฐฯ(สมัยพิเศษ) หลายคนก็จับตาว่าวันนี้นายกฯจะพูดอะไร จะไปอยู่ข้างไหน จะไปอยู่อะไรกับใคร เราจะไปอยู่ข้างใคร ก็ต้องทำให้ดีที่สุด ทำอย่างไรประเทศของเราจะไม่เสียหาย ขณะเดียวกันก็ต้องเคารพกติกาของเขาด้วย นั่นคือหลักการของเรา ไม่ขัดแย้งกับใครทั้งสิ้น ต้องว่าไปตามหลักการ สิ่งสำคัญที่สุดวันนี้ที่รองนายกรัฐมนตรีมาด้วย เราได้มีกำหนดการพูดคุยกับนักธุรกิจสหรัฐฯ เพื่อเชิญชวนให้เข้าไปลงทุนในประเทศไทย
“สิ่งสำคัญที่สุดคือทำอย่างไรจะดูแลประชาชนคนไทยให้ดีที่สุด ทั้งในและต่างประเทศ ถ้าในประเทศก็พอได้ แต่ถ้าเป็นต่างประเทศก็ต้องเจรจากันมากหน่อย บางทีในประเทศยังเจรจากันไม่รู้เรื่องเลย เพราะว่ามีปัญหากับคน ทำไมเขาถึงเรียกว่าคนรู้หรือไม่ ทำไมเขาถึงเรียกคำว่ามนุษย์คือคน คำว่าคนคือคนใส่ไปในหม้อ คนมั่วไปหมด คือเละไปหมด ความคิดแตกต่าง ผมห้ามใครไม่ได้ แต่เรามีหลักการ เราต้องมีภูมิต้านทานภูมิคุ้มกันในการที่จะเสพ จะฟัง จะเชื่อ จะอ่าน ผมอ่านทั้งหมด เช้าขึ้นมาเปิดขึ้นมาด่าผมครึ่งหนึ่ง ผมก็สบายใจ ไม่มีอะไรด่าก็ด่า เพราะผมไม่ได้เป็นอย่างที่เขาว่า สิ่งที่ผมทำไม่เห็นชมผมเลย ก็ช่างเขา ผมไม่ได้ต้องการคำชม แต่ต้องการให้เห็นประเทศไทยเจริญขึ้นมาอย่างไรในวันนี้’พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น-ใครจะไล่ก็ไล่ไป
นายกฯ กล่าวด้วยว่า ส่วนการเตรียมจัดประชุมเอเปคซึ่งไทยจะเป็นเจ้าภาพในเดือนพฤศจิกายนนี้ อยากให้คนไทยเป็นเจ้าบ้านที่ดี เรื่องความรักความสามัคคี ตนห่วงแค่นั้น ก่อนจะกล่าวติดตลกว่า ที่กรุงเทพฯพร้อมจะตีกันทั้งวันคือฟังวิทยุ อ่านก็โมโหแล้ว เพราะไม่ใช่เรื่องจริง นี่คือปัญหาที่ทุกประเทศเจอทั้งหมด เพราะนี่คือช่องทางสื่อสารใหม่ที่ใครก็เป็นนักข่าวได้ เป็นตำรวจได้ แสดงความคิดเห็นได้ทั้งหมด แล้วคนก็เชื่อตามไป คนทำงานแทบตายผิดหมด เราต้องมีภูมิคุ้มกันที่ดี ส่วนคนไม่ดีก็มี นายกฯก็ปลดทิ้งไล่ออกไปเยอะแล้ว มันก็ต้องมีคนดีคนชั่ว ไม่ดีก็ไม่เอาไว้ ถ้าตราบใดถ้าผู้นำเราไม่ทุจริต ทำได้ทั้งหมด เพราะฉะนั้นนายกฯไม่กลัวอะไรทั้งสิ้น ใครจะว่าใครจะไล่ ไล่ได้ก็ไล่ไป แต่ที่อยู่วันนี้ต้องการทำให้ดีที่สุด
ต้องรักแผ่นดินเกิด-อย่าฟังพวกไม่มีชาติ
อย่างไรก็ดี นายกฯยังได้สอบถามประชาชนว่าได้กลับไปเยี่ยมประเทศไทยบ้างหรือไม่ ลืมทางเข้าบ้านแล้วหรือยัง อย่าลืมแผ่นดินที่โน่นคือแผ่นดินเกิด แผ่นดินที่นี่คือแผ่นดินหากิน แล้ววันหน้าจะอยู่ไหนก็เรื่องของท่าน ลูกหลานตนเคยเจอเด็กๆที่กลับไป ไปเยี่ยมเมืองไทย พูดไทยได้รำไทยได้ อย่างน้อยเขาไม่ลืมชาติกำเนิด ทุกประเทศเขาปลูกฟังอย่างนี้ อย่าไปฟังไอ้พวกที่ไม่มีชาติเลย หลายคนบอกไม่ต้องมี มันไม่ได้ ก็รู้อยู่ ตนไม่ทะเลาะกับเขา
‘ไพบูลย์’ชี้ตีความวาระนายกฯ4-5เดือน
นายไพบูลย์ นิติตะวัน สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ(พรป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.กล่าวถึงกรณี นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรี ระบุว่า การพิจารณาจัดทำกฎหมายลูกจะเสร็จสิ้นหลังเดือนก.ค.โดยตั้งข้อสังเกตว่า อาจจะกระทบกับกฎหมายลูก เพราะเป็นช่วงที่อาจมีผู้ยื่นตีความวาระการดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี 8ปี ว่า ตนคาดว่าการพิจารณากฎหมายลูกทั้ง 2ฉบับ จะเสร็จประมาณเดือนก.ย.หรือต.ค.65และเชื่อว่าปมนายกฯ8ปี จะไม่กระทบกฎหมายลูก
“หากจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ จะต้องยื่นหลังวันที่ 24ส.ค.และคิดว่าผู้ที่จะยื่นคือ ส.ส.ฝ่ายค้าน โดยเมื่อยื่นแล้ว คาดว่าศาลรัฐธรรมนูญจะใช้กระบวนการพิจารณาไม่น้อยกว่า 4-5เดือน หรือหลังเดือนม.ค.2566 จึงจะมีคำวินิจฉัยออกมา อย่างไรก็ตาม เมื่อได้ดูข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้องทั้งหมดแล้ว คิดว่าไม่น่าจะมีปัญหา เนื่องจากบทบัญญัตินี้อยู่ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 158 วรรคสี่ ซึ่งใช้บังคับที่มาของนายกฯ ในมาตราเดียวกัน ดังนั้นจึงไม่มีปัญหาอยู่แล้วไม่ว่าจะอย่างไร”นายไพบูลย์ กล่าว
เมื่อถามว่า มีโอกาสที่ศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยในช่วงเกือบครบวาระของรัฐบาลในช่วงเดือนมี.ค.66 หรือไม่ นายไพบูลย์ กล่าวว่า ตนไม่ทราบ เพราะต้องแล้วแต่ศาลรัฐธรรมนูญ แต่ก็เป็นไปได้
เทวัญ’ยันชทพ.หนุนบิ๊กตู่นั่งนายกฯต่อ
ด้านนายเทวัญ ลิปตพัลลภ อดีต รมต.สำนักนายกรัฐมนตรี หัวหน้าพรรคชาติพัฒนา กล่าวถึงกรณีการเปิดประชุมสภาฯ ซึ่งจะมีการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี2566ว่า ตามปกติแล้วงบประมาณแผ่นดินเป็นสิ่งที่จะต้องมีการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศอยู่แล้ว ฉะนั้นมีความจำเป็นในการที่จะต้องให้ผ่านให้ได้ เพื่อจะได้นำเงินต่างๆ งบประมาณต่างๆ ไปลงทุนและเป็นค่าใช้จ่ายของรัฐบาล จึงอยากให้เพื่อนสมาชิกทั้งฝ่ายรัฐบาล และฝ่ายค้านให้เห็นแก่ประเทศชาติที่จะเดินหน้าไปได้
เมื่อถามว่า พรรคชาติพัฒนายังสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นนายกรัฐมนตรี เต็มร้อยหรือไม่ นายเทวัญ ตอบว่า วันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ยังเป็นนายกรัฐมนตรีปกติ เราในฐานะพรรคร่วมรัฐบาลก็ต้องสนับสนุนอยู่แล้ว พรรคชาติพัฒนาเรา ไม่มีปัญหา โนพรอบเบลม
‘พิเชษฐ’ดิ้นยื่นอุทธรณ์พปชร.ยันไม่ได้ทำผิด
ด้านนายพิเชษฐ สถิรชวาล สส.บัญชีรายชื่อ พรรคพปชร.ในฐานะหัวหน้ากลุ่ม16 เปิดเผยว่า วันที่ 17พ.ค.เตรียมยื่นอุทธรณ์ต่อ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.หลังคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรคลงโทษ นายพิเชษฐ ที่เคลื่อนไหวทางการเมืองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพรรค พร้อมยืนยันไม่ได้กระทำผิดตามข้อกล่าวหา ข้อกล่าวหาไม่ใช่เรื่องจริงและบทลงโทษส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงตัวเอง
โดยตนขอปฏิเสธ 3 ข้อกล่าวหาของคณะกรรมการกฎหมายและข้อบังคับพรรค ดังนี้ 1.การประชุมกับฝ่ายค้านในการตรวจสอบการทุจริตเป็นการร่วมกันกระทำประโยชน์เพื่อบ้านเมือง ตรงนี้เป็นเรื่องที่นักการเมืองคุยกัน ไม่ได้ร่วมกันวางแผนใดตามข้อกล่าวหา 2.ข้อกล่าวหาที่ระบุว่ามีการพูดคุยกับ นายทักษิณ ชินวัตร ผู้ต้องหาหลบหนีคดีในต่างประเทศนั้น ขอชี้แจงว่าตัวเองไม่ได้เป็นคนต่อสายพูดคุย แต่เป็นนายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคราม รองหัวหน้าเพื่อไทย เป็นผู้ต่อสายซึ่งตัวเองเพียงอยู่ในเหตุการณ์เท่านั้น รับประทานอาหารอยู่ ส่วนภาพที่ปรากฏตัวเองใช้โทรศัพท์นั้น เป็นการพูดคุยกับหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐที่ขอให้เคลื่อนไหวการเมืองเบาๆหน่อย
“และ3.ขอชี้แจงจุดยืนตั้งกลุ่ม16 ที่ยืนยันจะเดินหน้าตรวจสอบการทุจริตคอร์รัปชั่นเพื่อแสดงให้เห็นว่ากลุ่ม16 เป็นที่คาดหวังของประชาชนในการตรวจสอบการทุจริต พร้อมกับยืนยันการนัดดินเนอร์ร่วมกับนายยุทธพงศ์ ในวันที่ 23พ.ค.เช่นเดิม
“ผมขอย้ำไม่มีการพูดเรื่องเงินทองใดๆในการเคลื่อนไหวโดยดำเนินการชี้แจงก็เพื่อปกป้องชื่อเสียงตัวเอง ขอตั้งถามกลับมีการวางแผนจะปิดปากตัวเองเพื่อให้ออกจากวงการการเมืองหรือไม่”นายพิเชษฐ ย้ำ
พรรคเล็ก สู้ต่อวาระ2-3ปมหาร100
นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ (พธม.) ในฐานะคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่าง พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.ให้สัมภาษณ์กรณี กมธ.พิจารณา พรป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง สส.เสียงส่วนใหญ่ลงมติใช้สูตรคำนวณปาร์ตี้ลิสต์หารด้วย100 ว่า เราอยู่ใน กมธ.ก็ต้องยอมรับว่ามติเสียงข้างมากเขาเลือกสูตรหารด้วย100 แต่เราก็ดำเนินตามระเบียบคือสงวนคำแปรญัตติส่วนแนวทางหลังจากนี้จะเป็นอย่างไรต่อพูดได้คำเดียวว่า สงครามยังไม่จบยังไม่นับศพทหาร ยังต้องสู้กันด้วยเหตุและผลในวาระ2และ3 เมื่อจบวาระ3ไม่ว่าฝ่ายใดจะชนะก็ตาม ตามระเบียบรัฐสภาจะต้องยื่นไปให้องค์กรอิสระไม่ว่าจะศาลรัฐธรรมนูญ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.)หรือศาลฎีกาดูทั้ง 2ฉบับและต้องจบที่ว่าองค์กรอิสระตีความกลับมาอย่างไร หากตีความกลับมาว่าต้องแก้ รัฐสภาอาจต้องแก้ไข แต่หากตีกลับมาว่าไม่มีอะไรที่ต้องแก้ก็ถือว่าจบและนำขึ้นโปรดเกล้าฯได้ ฉะนั้นสิทธินี้ยังไม่จบจะจบในวาระ 3
เมื่อถามว่าได้คิดเรื่องแนวทางการยุบพรรค หรือควบรวมพรรคไว้หรือไม่ นพ.ระวีกล่าวว่า สมมุติว่าหากหาร500 เกิดพลิกชนะ พรรคเล็กทั้งในและนอกสภาก็มีโอกาสควบรวมพรรคน้อย เพราะทุกพรรคก็อาจจะสู้ได้ แต่หากหาร100 ชนะ
กาง3แผน‘ถอย ยุบรวม ยืนหยัด’
“พรรคเล็กก็อาจจะดำเนินการไป 2-3รูปแบบ คือ 1.บางพรรคอาจจะถอยเลย 2.บางพรรคอาจจะมีการควบรวมกันหรือไปรวมกับพรรคใหญ่ 3.บางพรรคอาจจะยืนหยัดสู้ต่อไป โดยแยกออกไปเป็น 2รูปแบบ เช่น พธม.สู้ต่อไปเต็มรูปแบบ หรือ บางพรรคอาจจะถอย สส.บัญชีรายชื่อและไปลงเขตแทน เนื่องจากใช้คะแนนน้อยกว่า ซึ่งขอย้ำว่าพธม.จะสู้ต่ออย่างเต็มรูปแบบ”นพ.ระวี กล่าวทิ้งท้าย‘
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี