ถกงบฯ66วันที่2! แจ้งที่ประชุมสภาฯใช้เวลาวันแรกไปแล้วรวม 13 ชั่วโมง เหลือ 34 ชม. ด้าน‘เพื่อไทย’ประเดิมซัดรัฐขูดรีดประชาชน แช่งให้ถูกตีตก อวย‘นายใหญ่โทนี่’อีกแล้ว ถ้าอยู่ยาว 8 ปีเศรษฐกิจไทยไม่ใช่แบบนี้แน่นอน
เมื่อเวลา 09.00 น.วันที่ 1มิ.ย.2565 ที่รัฐสภา มีการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาผู้แทนราษฎรคนที่2 ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ที่คณะรัฐมนตรี (ครม.) เป็นผู้เสนอ ในวาระรับหลักการ ต่อเป็นวันที่ 2 ทั้งนี้ก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายศุภชัยได้แจ้งให้ที่ประชุมรับทราบถึงกรอบเวลาการชี้แจงและการอภิปรายว่า ในการประชุมพิจารณาร่างพ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วันแรกเมื่อวันที่ 31 พ.ค. ที่ผ่านมา จากที่แบ่งสัดส่วนกรอบระยะเวลาการอภิปรายไว้เป็นฝ่ายครม. และส.ส.พรรคร่วมรัฐบาล รวม 22 ชั่วโมง และฝ่ายค้าน รวม 22 ชั่วโมงนั้น ได้ใช้เวลาการประชุมไปแล้วรวมทั้งสิ้น 13 ชั่วโมง 13 นาที ทำให้ขณะนี้ครม. และพรรคร่วมรัฐบาลเหลือเวลา 15 ชั่งโมง 53 นาที ส่วนฝ่ายค้าน เหลือเวลา 15 ชั่วโมง 9 นาที ขณะที่ประธานในที่ประชุมเหลือเวลา 3 ชั่วโมง 13 นาที จากนั้นได้เข้าสู่วาระการพิจารณากฎหมายต่อไป
จากนั้นเวลา 09.15 น. น.ส.จิราพร สินธุไพร ส.ส.ร้อยเอ็ด พรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า วันนี้ประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศเต็มรูปแบบ เป็นสัญญาณของการฟื้นเศรษฐกิจ ร่างพ.ร.บ.งบฯ 66 ที่จะเริ่มใช้ช่วงปลายปี 65 จะต้องเป็นงบที่เตรียมไว้ฟื้นฟูเศรษฐกิจหลังโควิด - 19 แต่ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ นอกจากจะไม่ช่วยฟื้นฟู ยังเป็นการทำงบแบบหารายได้เข้ารัฐโดยขูดเลือดขูดเนื้อประชาชน จึงขอเรียกร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ว่า ฉบับขูดรีดประชาชน ซึ่งรายได้หลักของรัฐบาลมาจากภาษี และรัฐพาณิชย์ หรือ รัฐวิสาหกิจ ตามพ.ร.บ.วินัยการเงินการคลัง รัฐบาลกู้ได้สูงสุด 7.1 แสนล้านบาท แต่รัฐบาลตั้งใจปรับลดเหลือ 6.9 แสนล้านบาท ไม่กู้เต็มเพดาน เพื่อให้ตัวเลขดูน้อยกว่าปีก่อน แต่เพิ่มประมาณการรายได้แทน โดยปี 66 ประมาณการรายได้เพิ่มเป็น 2.49 ล้านล้านบาท
น.ส.จิราพร กล่าวว่า พฤติกรรมเช่นนี้ถือว่าเอาเปรียบประชาชน ผลักภาระซ้ำเติมประชาชนที่ยังไม่เห็นแสงสว่างที่จะฟื้นตัวจากภาวะเศรษฐกิจ ภาษีส่วนใหญ่ที่ปรับเพิ่มขึ้นเป็นรายการที่กระทบประชาชนโดยตรง โดยตั้งเป้าปี 66 จะเก็บภาษีนิติบุคลให้ได้ 6.7 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 9 หมื่นล้านบาท ถามว่าจะเน้นเก็บจากใคร จากธุรกิจขนาดใหญ่หรือธุรกิจเอสเอ็มอี ตนมีข้อสังเกตว่า รายได้ภาษีนิติบุคล 80% มาจากบริษัทขนาดใหญ่ รัฐบาลอาจเอื้อประโยชน์ให้บริษัทเหล่านี้เพื่อที่จะได้มาจ่ายภาษีตามที่รัฐบาลตั้งเป้า และละเลยธุรกิจเอสเอ็มอี แต่หากเก็บภาษีจากธุรกิจขนาดใหญ่ไม่ได้ตามเป้า กรรมก็อาจตกมาอยู่ที่เอสเอ็มอีที่บอบช้ำอยู่แล้ว
น.ส.จิราพร กล่าวต่อว่า ปีนี้เป็นปีแรกที่รัฐบาลเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง แต่พอเก็บจริงไม่สามารถเก็บจากกลุ่มเป้าหมายได้ เพราะมีช่องโหว่ทางกฎหมาย กลายเป็นคนที่จ่ายภาษีจริงเป็นคนที่มีรายได้ปานกลางเป็นชนชั้นกลาง นอกจากรัฐบาลจะรีดภาษีประชาชนยามวิกฤต รัฐบาลยังไปขอเงินจากรัฐวิสาหกิจเพิ่ม ตั้งแต่ปีงบ 65 – 66 รัฐบาลเรียกเก็บเงินจากรัฐวิสาหกิจทุกแห่งเข้าคลังเพิ่มขึ้นอีก 5% เดิมรัฐวิสาหกิจต้องนำเงินส่งคลัง 45% ของกำไร แต่ต้องส่งเพิ่มเป็น 50% การให้รัฐวิสาหกิจส่งเพิ่มแม้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่สะท้อนว่าหลังโควิด – 19 รัฐบาลชุดนี้สิ้นไร้ไม้ตอกไม่รู้จะหาเงินจากไหน แต่สิ่งที่ผิดเต็มๆคือกลับปล่อยปละละเลยให้รัฐวิสาหกิจขูดรีดประชาชนด้วยการประกาศขึ้นค่าไฟโดยที่รัฐไม่เข้าไปกำกับดูแล เพราะต้องการส่วนแบ่งกำไรจากรัฐวิสาหกิจมาเป็นส่วนแบ่งของรัฐบาลใช่หรือไม่ รัฐบาลกำไรปล่อยให้ประชาชนไปตายเอาดาบหน้า ดังนั้น รัฐบาลต้องหาทางกำกับดูแลเพื่อช่วยเหลือประชาชน แต่พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม คงไม่รู้สึกอะไร เพราะท่านอยู่บ้านหลวง ใช้ไฟฟรี น้ำฟรี รถหลวง ไม่เข้าใจความทุกข์ยากประชาชน
“รัฐบาลใช้เงินมือเติบ สุรุ่ยสุร่าย แต่หารายได้ไม่เป็น บริหารประเทศมา 8 ปี ยังลงทุนแบบเก่าๆ ไม่ได้ให้ความสำคัญกับนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ เมื่อเกิดโควิด - 19 เราไม่มีอะไรขับเคลื่อนใหม่ๆ มัวแต่กินบุญเก่า เศรษฐกิจประเทศจึงน่วมมาจนทุกวันนี้ ถ้ารัฐบาลทักษิณอยู่ยาว 8 ปี อย่างพล.อ.ประยุทธ์ หน้าตาเศรษฐกิจไทยจะไม่ใช่แบบนี้แน่นอน ถ้าประชาชนให้โอกาสพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เราจะนำนโยบายเศรษฐกิจสร้างสรรค์ ซอฟท์พาวเวอร์ มาใส่ลงในเศรษฐกิจของประเทศ เพื่อสร้างโอกาส สร้างรายได้ ความคิดสร้างสรรค์ไม่มีวันเกิดขึ้นได้จากรัฐบาลเผด็จการ สืบทอดอำนาจ” น.ส.จิราพร กล่าว
น.ส.จิราพร กล่าวด้วยว่า ถ้าปล่อยให้ร่างพ.ร.บ.ฉบับนี้ผ่านทุกอย่างจะวนเวียนซ้ำซากแบบนี้ทุกปี ไม่เห็นอนาคตของประเทศ อยากให้นายกฯ ทำความเข้าใจว่ารัฐบาลทำงบแบบเดิม โคiงสร้างแบบเดิม เปลี่ยนแค่ตัวเลขใหม่ ตนจึงไม่อยากให้เอาร่างกลับไปแก้ เพราะแก้ไปก็เหมือน 8 ปีที่ผ่านมา จึงขอให้ร่างพ.ร.บ.งบฯ 66 ถูกตีตกไปพร้อมพล.อ.ประยุทธ์ และให้รัฐบาลที่มาจากเลือกตั้งของประชาชนได้มาจัดทำงบฉบับใหม่เพื่อคืนความหวังให้ประชาชน
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี