หวุดหวิดร่อแร่!เช็ค‘เสียงปริ่มน้ำ’ที่ห้องสุริยัน ความเป็นความตายของรัฐบาล
2 มิถุนายน 2565 นายวันชัย สอนศิริ หรือทนายวันชัย สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) โพสต์ข้อความผ่านเหฟซบุ๊ก “ทนายวันชัย สอนศิริ” เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน ที่ผ่านมา หัวข้อ “เสียงปริ่มน้ำกับดาวมฤตยู และสุริยันจันทรา” มีเนื้อหาดังนี้...
“เสียงปริ่มน้ำกับดาวมฤตยู และสุริยันจันทรา
ระยะนี้ทั้งราหูและมฤตยูกำลังเขย่าดวงเมืองอย่างแรง ทั้งดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวราหูอยู่กับลัคนา ทั้งอาทิตย์ก็เป็นอริ พฤหัสบดีก็เป็นวินาศ พุ่งตรงไปที่ดวงเมืองกันทั้งนั้น ทุกดวงดาวต่างทำหน้าที่แสดงฤทธิ์เดชของตนอย่างเต็มกำลัง ทั้งสุริยันจันทราก็เกิดแรงกระเพื่อมอย่างหนัก ทั้งท่าเกียกกายและถนนสามเสนก็เกิดอาการสะท้านสะเทือน ต่างไม่มีใครกลัวใคร
ดาวทุกดวงที่ห้องสุริยันก็เปล่งประกายทั้งแสงสีเสียงอย่างเต็มที่ มฤตยูก็กำลังจะไป ราหูก็สิงสถิตอยู่ แค่สองดวงดาวนี้ก็สาหัสอยู่แล้ว มาเจอดาวพฤหัสเป็นวินาศ พลังแห่งอำนาจก็กำลังอ่อนแรง มันมารุมเร้าอยู่ในเรือนลัคนา จะเจรจาตกลงก็ไม่เรียบร้อย พระศุกร์ก็เข้าพระเสาร์ก็มาแทรก อีกทั้งราหูและมฤตยูก็รุมกระหน่ำกันเต็มที่
ทั้งหมดเหล่านี้มันเกี่ยวกับอำนาจและความเป็นความตายของรัฐบาลโดยแท้ จะอยู่จะไปก็สมัยแห่งสุริยันจันทรานี้แหละ ดูจากดวงดาวดูจากอาการที่โคจรของดาวแต่ละดวง ร่อแร่รุ่งริ่งเต็มที
ลองมาดูเสียงของส.ส.ในห้องสุริยันทั้งหมดในขณะนี้มีทั้งสิ้น 477 เสียง จะเป็นองค์ประชุมเพื่อดำเนินกิจการใดๆในสภาได้นั้นต้องมีเสียงครึ่งหนึ่งคือ 239 เสียง ฝ่ายรัฐบาลเดิมมีอยู่ 269 เสียง หักพรรคของร้อยเอกธรรมนัสออก 16 เสียงและพรรคเศรษฐกิจใหม่อีก 1 เสียง จะเหลือ 252 เสียง ฝ่ายค้านเดิมมี 208 เสียง เพิ่มพรรคของร้อยเอกธรรมนัสเข้าไป 16 เสียงกับพรรคเศรษฐกิจใหม่ 1 เสียง จะเป็น 225 เสียง ทำให้พรรครัฐบาลกับพรรคฝ่ายค้านมีเสียงห่างกันอยู่ 27 เสียง แต่ห่างจากองค์ประชุมที่จะทำงานทำการในสภาได้แค่ 13 เสียง (252-239=13)
นั่นก็หมายความว่ารัฐบาลมีเสียงปริ่มน้ำมาก
จะโหวตแต่ละครั้งต้องห้ามเจ็บห้ามป่วยห้ามตายห้ามลา แค่ให้แสดงตนเป็นองค์ประชุมก็ต้องระดมกันมาให้ครบเพราะมันเกินอยู่แค่ 13 เสียงเท่านั้น หวุดหวิดเต็มที แค่ดาวเสาร์ ดาวราหู ดาวมฤตยูเล่นเกมสักหน่อย สภาก็จะล่มแล้วล่มอีก จะผ่านกฎหมายแต่ละฉบับก็ไม่ง่ายนักในสถานการณ์นี้ อาการมันจึงเจียนอยู่เจียนไป
และถ้ามีการเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐธรรมนูญมาตรา 151 กำหนดไว้ว่ารัฐมนตรีที่จะได้ความไว้วางใจนั้นต้องมีเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของสมาชิกที่มี คือแต่ละคนต้องได้เสียง 240 เสียงขึ้นไป แต่รัฐบาลมีเสียงอยู่แค่ 252 จึงต่างกันอยู่แค่ 12 เสียงเท่านั้น หวุดหวิดร่อแร่ไหมล่ะ...
ยิ่งพรรคเล็กพรรคน้อยเว้นพรรคคุณสุเทพ รวมกันก็ได้ราวๆประมาณ 25 เสียง แตกทัพออกมาสักครึ่งหนึ่ง แค่นี้ดาวพฤหัสบดีที่เป็นรัฐบาลก็วินาศแล้ว หรือพรรคร่วมบางพรรคแตกแถวออกมาบางส่วนก็ทำให้วงแตกได้อีกเหมือนกัน เพราะดาวอาทิตย์ที่มันเป็นอริอยู่นั้นฝังตัวอยู่ในพรรคร่วมรัฐบาลจะเป็นสนิมเกิดแต่เนื้อใน อะไรๆก็เกิดขึ้นได้ โดยเฉพาะเลข 12 หมายถึงสุริยันจันทราจะมากับมฤตยู คอยดูกันต่อไป...”
-005
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี