เมื่อเวลา 18.50 น.วันที่ 2 มิถุนายน 2565 ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มี นายศุภชัย โพธิ์สุ รองประธานสภาฯ คนที่ 2 ทำหน้าที่ประธานในที่ประชุม พิจารณาร่างพ.ร.บ.งบฯ 66 นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ชี้แจงว่า กระทรวงคมนาคมดำเนินการทั้งหมดเพื่อให้ประชาชนมีขีดความสามารถในการแข่งขันเพิ่มขึ้น เรายึดถือว่าจะต้องดำเนินการภายใต้ระเบียบกฎหมาย ภายใต้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) ตามหลักธรรมภิบาล และดำเนินการโดยคำนึงประโยชน์ประชาชน และประเทศ เป็นศูนย์กลาง ซึ่งการกระจายตัวของงบประมาณนั้น ยึดหลักการแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชน สร้างโอกาส สร้างรายได้ และสร้างความปลอดภัยในการเดินทาง ซึ่งเรามีงบลงทุนมี 4 ด้าน ทั้งทางถนน ทางน้ำ ทางอากาศ และทางราง รวม 205,806 ล้านบาท ทั้งหมดมีการกระจายงบไปยังภูมิภาคต่างๆ ทั่วทั้งประเทศ
นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า การก่อสร้างถนนของกรมทางหลวง และกรมทางหลวงชนบท เราพิจารณาถึงการกระจายตัวของประชากรในแต่ละภูมิภาค ที่ท่านกล่าวว่างบกระจุกตัวที่ จ.บุรีรัมย์ ซึ่งเป็นภูมิลำเนาของตนนั้น หากย้อนดูในอดีตตั้งแต่ปี 2554 จะเห็นว่าเครือข่ายคมนาคมของ จ.บุรีรัมย์ เมื่อเทียบกับจังหวัดอื่นๆ มีไม่เพียงพอ ทั้งที่ จ.บุรีรัมย์ มีกิจกรรมที่ส่งเสริมการท่องเที่ยวระดับโลก สร้างรายได้ให้ประเทศ ไม่ว่าจะมีสนามแข่งขันรถระดับโลก การพัฒนาการสร้างสนามกีฬาระดับโลก และกิจกรรมอื่นๆ ทำให้มีพี่น้องประชาชน นักท่องเที่ยว และนักกีฬา เดินทางมา จ.บุรีรัมย์ มาก ด้วยเหตุนี้จึงจำเป็นต้องสร้างและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ เราต้องพิจารณาภาพรวมจะเห็นว่า จ.บุรีรัมย์ ไม่ได้มีงบประมาณที่มากเกินกว่าจังหวัดอื่นๆ
รมว.คมนาคม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ ในส่วนของบริการขนส่งทางราง โครงการรถไฟฟ้าขนส่งมวลชน 27 เส้นทาง ระยะทาง 554 กม.จะเสร็จสิ้นปี 2572 ซึ่งปัจจุบันเปิดให้บริการได้แล้ว 11 เส้นทาง ระยะทาง 212 กม.และจะมีการเร่งรัดอีก 4 เส้นทาง ขณะที่ การพัฒนาทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองเส้นทางบางปะอิน - นครราชสีมา ระยะทาง 196 กม.รวม 40 ตอน ซึ่งก่อนที่ตนจะมาดำรงตำแหน่ง รมว.คมนาคม สร้างเสร็จแล้ว 15 ตอน และในช่วงปี 2563 ถึงปัจจุบัน ก่อสร้างแล้วเสร็จเพิ่มขึ้น 9 ตอน รวมเป็น 24 ตอน จึงคงเหลือ 16
อย่างไรก็ตาม อุปสรรคด้านสภาพพื้นที่ที่เปลี่ยนแปลงไปจากพื้นราบกลายเป็นบ่อลึก ทำให้แบบที่ออกไว้ไม่สามารถก่อสร้างได้ตามรูปแบบเดิม ต้องปรับปรุงรูปแบบวิศวกรรมให้สอดคล้องกับลักษณะทางกายภาพในปัจจุบัน และเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนของประชาชน ทั้งหมดกระทรวงคมนาคมได้ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงด้านวิศวกรรม เพื่อสรุปเรื่องทั้งหมดเสนอต่อ ครม.เพื่อปรับรูปแบบโครงการต่อไป คาดว่าจะเปิดให้บริการได้บางส่วนในปี 2566 และปี 2567 จะเปิดใช้ได้ทั้งเส้นทาง ส่วนทางหลวงพิเศษเส้นทางสายบางใหญ่ - กาญจนบุรี คาดว่าจะเปิดให้บริการได้ปี 2566
- 006
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี