ฝ่ายค้านล็อกเป้า‘นายกฯ-6รมต.’
ยื่นซักฟอก15มิ.ย.
ชี้บริหารเหลว/ทุจริต/ผิดจริยธรรม
ไม่พึ่งมือสส.-หวังซื้อใจปชช.
รับอาจมี‘งูเห่า’โผล่มากกว่า7
รบ.ลั่นพร้อมแจงทุกประเด็น
ท้าให้นำหลักฐานโกงมาโชว์
เตือนคนฟังเบื่อพูดน้ำท่วมทุ่ง
“บิ๊กตู่” ตรวจเยี่ยมพัฒนาการศึกษาภูเก็ต ลั่น 3 สถาบันหลัก“ชาติ-ศาสนา-พระมหากษัตริย์”เราจะละทิ้งไม่ได้ ไม่ใช่เรื่องต้องบังคับ แต่ต้องปลูกฝังให้เด็กเข้าถึง รบ.ท้าโชว์หลักฐานทุจริต อย่าใช้แต่วาทกรรม-เสียดสี-สาดโคลน พร้อมนำข้อเสนอแนะไปตรวจสอบ “แรมโบ้” อัด“สุทิน” ก่อนจะอภิปรายฯนายกฯช่วยกวาดบ้านตัวเองให้สะอาดก่อน เห็นสส.หลายคนเตรียมเผ่นหนี “สุทิน” โวจับรมต.ขึ้นเขียง 5-6 คน ไม่หวังมือในสภา แต่หวังปชช.เห็นด้วย รับโหวตซักฟอก“งูเห่า”พท.อาจมีมากกว่า 7 คน พร้อมลงดาบเจ้าเก่าหากเจตนาทำร้ายพรรค ปธ.วิปรัฐบาลคาดลากยาวถกร่างพ.ร.บ.ตำรวจเหตุมีผู้แปรญัตติเพียบ กระทบกม.ลูก2ฉบับอาจล่าช้า เข้าใจสว.-พรรคเล็ก เอาสูตรหาร500ต่อสู้ เพื่อให้ได้สิทธิเสรีภาพ
เมื่อเวลา 14.00 น.วันที่ 6 มิถุนายน ที่โรงเรียนพุทธมงคลนิมิตร ต.รัษฎา อ.เมืองภูเก็ต จ.ภูเก็ต พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม เดินทางมาตรวจเยี่ยมงานการพัฒนาการศึกษาของ จ.ภูเก็ต โดยกล่าวว่า นายกฯให้ความสำคัญการศึกษาเป็นอย่างมาก ตั้งแต่วันแรกที่เป็นนายกฯโดยกำหนดเป็นหนึ่งในหัวข้อหลักในยุทธศาสตร์ชาติของเราคือ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ที่ต้องพัฒนาตั้งแต่เด็กเล็ก เด็กกลาง เด็กโต จนมีงานทำ สิ่งที่ทำวันนี้คือทำให้ทุกคนเข้าถึงระบบการศึกษาอย่างเท่าเทียม ทุกอย่างอยู่ที่ความร่วมมือซึ่งกันและกัน ขณะที่รัฐบาลทำทุกอย่าง แม้เผชิญปัญหาอย่างมากมาย แต่ก็ไม่ทิ้งเรื่องการศึกษาเพราะนี่คืออนาคตของประเทศไทย
‘บิ๊กตู่’ย้ำต้องรักษา3สถาบันหลัก
“สังคมไทยต้องเริ่มมาตั้งแต่ครอบครัว โรงเรียนและสังคม ที่จะหล่อหลอมให้เด็กทุกคนเป็นคนดี เป็นคนเก่ง มีคุณธรรมและนึกถึงคนอื่นมีใจสาธารณะนี่คือสิ่งที่ประเทศไทยต้องการ พื้นฐานประเทศเราไม่มีด้อยกว่าใคร ถ้าย้อนประวัติศาสตร์ของเราไม่มีด้อยกว่าประเทศไหน สิ่งเหล่านี้ต้องให้เกิดในจิตใจของเด็กของเราให้ได้ ให้ภูมิใจให้ได้ หน้าที่และสิทธิมาด้วยกันเสมอและเรามีสถาบันหลักของประเทศ ชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องผูกพัน ไม่ใช่บังคับ ปลูกฝังทุกคนให้เข้าถึงสิ่งเหล่านี้ เราจะรู้ว่าถ้าไม่สนใจ 3เรื่องนี้ เราจะไม่รู้ว่าเราเป็นใครมาจากไหน ไม่รู้ประวัติศาสตร์มาจากไหน ไม่รู้เราเกิดและโตมาจากไหน แล้วเราจะรักประเทศได้อย่างไร ถ้าทุกคนไม่เรียนรู้ประวัติศาสตร์ หวังว่าตั้งแต่เด็กเล็กขึ้นมาต้องเติมเรื่องเหล่านี้ ประวัติศาสตร์ ศาสนาและสถาบันหลักของเรา เราทิ้งไม่ได้ซึ่ง คิดว่าทุกคน ณ ที่นี้และทั้งหมดประเทศไทยเข้าใจที่พูด เราต้องยืนหยัดให้ได้ภายใต้บริบทสังคมไทยในปัจจุบัน อย่าให้ถูกทำลายไปโดยเด็ดขาด ทุกคนคงเข้าใจที่ผมพูด’พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
‘บิ๊กป้อม’ไม่ตอบ7งูเห่าโหวตหนุน
เวลา 12.00น.ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาน้ำใน กทม.จะร่วมมือทำงานกับ นายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าฯกทม.อย่างไร ว่า แก้ได้ๆ แก้ได้แล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธตอบคำถามเรื่องการเมืองกรณีมีเสียง7สส.งูเห่าของฝ่ายค้าน โหวตสนับสนุนร่างพรบ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี2566 จะทำให้เกิดความมั่นใจว่า ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล จะหันมาสนับสนุนรัฐบาลให้ผ่านไปได้หรือไม่ โดยพล.อ.ประวิตร มีท่าทีนิ่งเฉยและเดินขึ้นรถยนต์เดินทางกลับไปทันที
‘พท.’เล็งยื่นซักฟอก5-6รัฐมนตรี
ด้าน นายสุทิน คลังแสง สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ถึงการยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจ ว่า พรรคร่วมฝ่ายค้านหารือถึงเป้าหมายและข้อกล่าวหารัฐมนตรี มีความพร้อม90%แล้ว จะสรุปได้ครบ100% ในวันที่ 7มิถุนายน จากนั้นจะแถลงว่า จะอภิปรายใคร ด้วยข้อกล่าวหาอะไรบ้างในวันที่ 8มิถุนายนและพร้อมยื่นญัตติในวันที่ 15มิถุนายนแน่นอน
บริหารเหลว-ทุจริต-ผิดจริยธรรม
เมื่อถามว่า มีรายชื่อรัฐมนตรีที่จะอภิปรายที่ชัดเจนแล้วกี่คน นายสุทิน กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่คอนเฟิร์ม แต่ที่แน่นอนมีนายกฯและรมต.กระทรวงหลักๆ อาทิ กระทรวงการคลัง กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กระทรวงคมนาคม และกระทรวงสาธารณสุข อย่างไรก็ตามทั้งหมดนี้จะถูกคัดกรองอีกครั้งในช่วงเย็นวันพรุ่งนี้ ซึ่งคาดว่า จะมี 5-6คน น้อยกว่าการอภิปรายครั้งที่ผ่านมา ทั้งนี้แต่เวลาที่เหลือนี้ยังมีข้อมูลงอกขึ้นเรื่อยๆ ที่ยังไม่สามารถสรุปตอนนี้ได้ เนื่องจากยังมีความเสียดายในหลายเคส มีข้อกล่าวหาทั้งหมด 5ข้อ อาทิ ล้มเหลวบริหารราชการแผ่นดิน การทุจริตหาประโยชน์เพื่อตัวเองและพวกพ้อง ทำผิดกฎหมายขัดต่อจริยธรรมและนโยบายที่แถลงไว้ต่อสภาไม่ได้ทำ หรือทำแล้วล้มเหลว ส่วนเรื่องเสียงสนับสนุนเราไม่ได้คาดหวังมือในสภา เพราะเป็นช่วงปลายเทอมแล้ว เราไม่คิดว่าจะต้องพึ่งพาใคร แต่ประชาชนจะเห็นด้วยและเชื่อมั่นในข้อมูลของฝ่ายค้าน
สส.งูเห่าโหวตสวนอาจมากกว่า7คน
สำหรับ สส.ที่โหวตสวนมติพรรค พท.เบื้องต้นอยู่ระหว่างการเรียกมาชี้แจงต่อคณะกรรมการตรวจสอบจริยธรรม ขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจนว่า จะขับพ้นพรรคหรือไม่ เพราะเราต้องดูว่ามีเจตนาอย่างไร ถ้ามีเจตนาทำร้ายพรรคคงต้องว่ากันไป ถ้าไม่มาชี้แจงจะสามารถตัดสินลับหลังได้ว่าเขารับสารภาพแล้ว ซึ่งการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้อาจมี สส.พรรค พท.โหวตสวนมติฝ่ายค้านมากกว่า7คน
‘ธนกร’ท้าเปิดหลักฐานรบ.ทุจริต
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง เลขาธิการพรรคประชาชาติ ระบุการอภิปรายไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลว่า จะเน้นข้อมูลที่เห็นว่ารัฐบาลทำผิดกฎหมายและส่อไปในทางทุจริต มีหลักฐานเป็นหลัก ประมาณ 2-3 เรื่องใหญ่ ว่า เป็นเรื่องปกติที่ฝ่ายค้านชอบโหมโรงก่อนศึกซักฟอกทุกครั้งว่ามีหลักฐาน มีไม้เด็ด แต่เมื่อถึงเวลาอภิปรายจริงก็มักจะเป็นอย่างที่ประชาชนได้เห็น ได้รับทราบว่า มีแต่วาทกรรม เสียดสี สาดโคลน เนื้อหาต่างจากที่แกนนำม็อบบนท้องถนนพูดบนเวทีหรือไม่ ประชาชนทราบดี เพียงแต่ถูกนำมาพูดในสภาฯ โดยคนที่เรียกตัวเองว่าเป็น สส.ซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้อง
“ถ้าฝ่ายค้านมีหลักฐานจริงตามที่กล่าวอ้างก็นำมาแสดงในสภาฯ ได้ รัฐบาลพร้อมรับฟังอยู่แล้ว ที่ผ่านมารัฐบาลก็รับฟังข้อเสนอแนะและนำไปตรวจสอบทุกครั้ง เพียงแต่ฝ่ายค้านไม่ยอมเปิดใจ ทำเหมือนอภิปรายเสร็จแล้วก็แลัวกันไป ไม่ได้สนใจคำชี้แจงของรัฐบาลเท่าที่ควรด้วยซ้ำ ทั้งนี้ เชื่อว่าเมื่อรัฐบาลชี้แจงข้อบิดเบือนต่างๆ ของฝ่ายค้านแล้ว ประชาชนจะเข้าใจและเลิกสับสน”โฆษกประจำสำนักนายกฯกล่าว
อย่าพูดน้ำท่วมทุ่ง-ไม่ได้ประโยชน์
ส่วนกรณี น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกลระบุว่า รายชื่อรัฐมนตรีที่ถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจ เป้าหมายหลักเป็นรัฐมนตรีกลุ่ม3ป.คือ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและพล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยนั้น นายธนกร กล่าวว่า ขอให้ฝ่ายค้านไปคุยกันเองให้ตกผลึกก่อนดีกว่าว่า สามารถหาข้อมูลที่อ้างว่ามีการทุจริตได้จริงหรือไม่ ควรใช้เนื้อหาเป็นตัวตั้งแล้วค่อยสรุปว่า จะอภิปรายรัฐมนตรีกี่คนแน่ ไม่ใช่เอาจำนวนรัฐมนตรีที่จะถูกอภิปรายเป็นตัวตั้ง แล้วค่อยไปหาข้อมูลเอาดาบหน้า ซึ่งสุดท้ายจะกลายเป็นการอภิปรายแบบน้ำท่วมทุ่งเหมือนที่ผ่านมา ทั้งนี้ ฝ่ายค้านควรอภิปรายแบบเสนอแนะด้วยข้อมูล ข้อเท็จจริง ให้เห็นว่ารัฐบาลตัดสินใจอะไรผิดพลาด ใช้งบประมาณไม่เหมาะสมตรงไหน อย่างไรและการบริหารที่อ้างว่าผิดพลาด สร้างความเสียหายจริงหรือไม่ ซึ่งจะทำให้ประชาชนได้รับประโยชน์มากกว่า
‘แรมโบ้’ อัดไปกวาดบ้านตัวเองก่อน
นายเสกสกล อัตถาวงศ์ อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี กล่าวถึง นายสุทิน คลังแสง รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทยและประธานวิปฝ่ายค้าน ออกมาเปิดเผยจะยื่นญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่ 15มิถุนายน ว่า เป็นเรื่องปกติของพรรคการเมืองฝ่ายค้านในระบบรัฐสภา ที่ต้องตรวจสอบถ่วงดุลการบริหารประเทศของรัฐบาล แต่ยืนยันว่านายกฯพร้อมให้ตรวจสอบ ไม่เคยกลัวการถูกอภิปราย และสามารถชี้แจงได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว การอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ อยากขอให้ฝ่ายค้านทำหน้าที่ไปตามข้อมูลข้อเท็จจริง มีเนื้อหาสาระที่เชื่อถือได้ ไม่ใช่ข้อมูลจากโซเชียลแล้วตัดมาแปะ กล่าวหาโจมตีรัฐบาลโดยปราศจากข้อเท็จจริง แบบนี้นอกจากประชาชนไม่ได้ประโยชน์อะไรแล้ว ฝ่ายค้านเองยิ่งจะเสียเครดิต ส่วนที่อ้างว่ามีข้อมูลเด็ดอยู่ในมือนั้น ก็เห็นอ้างแบบนี้มาตลอด แต่เมื่อถึงเวลาอภิปรายไม่ไว้วางใจก็มุกแป๊กทุกครั้ง เช่น การอภิปรายวาระ1ร่างพรบ.งบประมาณปี2566ที่ผ่านมา เห็นคุยโวว่าจะล้มรัฐบาลให้ได้ แต่ผลโหวตออกมากลายเป็นสส.ฝ่ายค้านหลายคนหันมาสนับสนุนร่างพรบ.งบฯกันหลายคน จนแกนนำพรรคเพื่อไทยออกอาการแทบกระอักเลือดไปเลย ถึงขั้นจะขับไล่ออกจากพรรค
“ผมอยากฝากไปยังฝ่ายค้าน โดยเฉพาะพรรคเพื่อไทย ก่อนจะตรวจสอบอะไรนายกฯและรัฐบาล ควรกวาดบ้านตัวเองให้เรียบร้อยก่อน เพราะขณะนี้มี สส.เตรียมย้ายออกเป็นจำนวนมาก เป็นเพราะรับไม่ได้ที่จะต้องเป็นสิ่งมีชีวิตอยู่ในคอกที่รอให้เจ้าของคอกบงการ หรือสั่งหันซ้ายหันขวา รับไม่ได้ จึงแหกคอกออกมา”นายเสกสกล กล่าว
ปธ.วิปรบ.คาดลากยาวถกพรบ.ตำรวจ
นายนิโรธ สุนทรเลขา สส.นครสวรรค์ พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมรัฐบาล (วิปรัฐบาล) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมวิปรัฐบาลว่า จะมีการประชุมร่างพรบ.ตำรวจแห่งชาติ โดยเชิญคณะกรรมาธิการ(กมธ.) วิสามัญร่างพรบ.ตำรวจฯมาชี้แจงให้ทราบ รวมถึงร่างพรบ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือกฎหมายสมรสเท่าเทียม ทั้งนี้ในส่วนการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างพรบ.ตำรวจฯนั้น มีผู้แปรญัตติเป็นจำนวนมาก ดังนั้นการพิจารณา 2 วันคือวันที่ 9-10มิ.ย.อาจไม่แล้วเสร็จ แต่ นายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภาได้กำหนดวันประชุมร่วมรัฐสภาเพิ่มเติมอีก 2 วันคือวันที่ 16-17มิ.ย.จากนั้นวันที่23-24มิ.ย.จะพิจารณาร่างพรป.เกี่ยวกับการเลือกตั้ง 2ฉบับ ซึ่งส่วนตัวไม่รู้สึกกังวลในเรื่องกฎหมายลูกทั้งสองฉบับ เพราะส่วนใหญ่ในที่ประชุมชั้นกรรมาธิการเห็นพ้องต้องกันเป็นเสียงข้างมากเยอะ แต่ต้องไปดูในชั้นการประชุมร่วมรัฐสภา เพราะยังไม่ทราบว่าสว.และพรรคเล็กจะมีความคิดเห็นที่แตกต่างออกไปอย่างไร
เมื่อถามว่า กังวลกรณีที่มี สว.และสส.พรรคเล็กสงวนคำแปรญัตติเรื่องการคำนวณสส.บัญชีรายชื่อด้วยการหาร100และหาร500 หรือไม่ นายนิโรธ กล่าวว่า ตนไม่รู้สึกกังวล เพราะเป็นเรื่องที่แต่ละท่านต่อสู้เพื่อให้ได้สิทธิและเสรีภาพว่าจะทำอย่างไรให้สมดุล เพราะพรรคเล็กอาจเห็นว่าเสียเปรียบ จึงต้องต่อสู้ด้วยการแปรญัตติ ซึ่งสุดท้ายยังไม่ทราบว่าจะต้องไปถึงศาลรัฐธรรมนูญหรือไม่
เปิดตัว’เจ๊นาง’ลงชิงสส.กาฬสินธุ์
เวลา 10.00น.ที่ ต.ยางตลาด อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธ์ ประธานพรรคไทยสร้างไทย นำคณะผู้บริหารของพรรค ประกอบด้วย นายพงศกร อรรณพพร ประธานคณะกรรมการบริหารพื้นที่ นายต่อพงษ์ ไชยสาร ประธานคณะกรรมการ ด้านความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ นายจอนนี่ แอนโฟเน่ และทีมไทยสร้างไทย ลงพื้นที่ จ.กาฬสินธุ์ เยี่ยมยามถามข่าวให้กำลังใจพี่น้องประชาชน ขณะเดียวกันยังได้เปิดตัว นางวันเพ็ญ เศรษฐรักษา หรือเจ๊นาง อดีตรองนายก อบจ.กาฬสินธุ์ อดีตที่ปรึกษารัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์และเจ้าของ ห้างหุ้นส่วนจำกัด ยุทธชัยการโยธา เป็นผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดกาฬสินธุ์ พรรคไทยสร้างไทยในเขตเลือกตั้งที่2 ประกอบด้วยอำเภอยางตลาด, อำเภอฆ้องชัย และอำเภอกมลาไสย
โดย “เจ๊นาง” เป็นที่รู้จักของพี่น้องชาวกาฬสินธุ์ จากการทำโรงทานเจ๊นางและกิจกรรมทางสังคมช่วยเหลือชาวบ้านร้านตลาดอย่างต่อเนื่อง เมื่อนางวันเพ็ญ ได้ตัดสินใจมาลงสมัครรับเลือกตั้งเป็น สส.ในนามพรรคไทยสร้างไทย พี่น้องทั้ง 3อำเภอในเขตเลือกตั้งที่สองต่างยินดีเป็นอย่างยิ่ง เพราะตลอด 2-3ปีที่ผ่านมา แม้จะไม่มีตำแหน่งทางการเมือง แต่เจ๊นาง ยังดูแลพี่น้องด้วยดีเสมอมา
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี