ฝ่ายค้านยื่นซักฟอก 11 รมต.
ล็อกเป้าถล่ม 3 ป.
อัดบริหารงานล้มเหลว-ฉีกปชต.
‘บิ๊กตู่’ควง‘บิ๊กป๊อก’บุกสกลนคร
ลั่นเร่งแก้ยากจน/จัดงบให้ทุกจว.
ปลุกปกป้อง 3 สถาบันหลักชาติ
ตะโกนเชียร์กระหึ่ม‘ลุงตู่อยู่นานๆ’
‘อุ๊งอิ๊ง’เปิดตัว‘ณัฐวุฒิ’สู้เลือกตั้ง
“บิ๊กตู่”ลงพื้นที่เยือนสกลนคร ย้ำรัฐบาลจัดงบให้ทุกจังหวัด ขอเลิกขัดแย้งหันมาร่วมมือกัน ทุกอย่างจะสำเร็จ ยันลุยแก้ยากจน ปลุกปกป้อง3 สถาบันหลักชาติ อ้อนชาวสกลนคร เราหัวใจเดียวกัน คือครอบครัวประเทศไทย ตะโกนเชียร์ “บิ๊กตู่อยู่นานๆรักลุงตู่” ฝ่ายค้านหอบรายชื่อ182 สส.ยื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจ 11 รมต. ล็อกเป้าเชือด 3 ป.พ่วง 8 รัฐมนตรี ซัดบริหารล้มเหลว-ฝ่าฝืนจริยธรรม-ทำลายปชต.-ส่อโกง-เอื้อพวกพ้อง-ละเมิดสิทธิมนุษยชน “อนุทิน”มั่นใจแจงซักฟอกได้ ขอให้เล่นในเกม–อย่าใช้ข้อมูลเท็จ เป็นโอกาสจะชี้แจงข้อมูลถูกต้อง ด้าน“สุชาติ”ไม่หวั่น ชี้แจงได้แน่ แฉผู้มีอิทธิพลนอกพรรคฝ่ายค้านลากขึ้นเขียง
เมื่อเวลา 09.40น.ที่ จ.สกลนคร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม พร้อมด้วย พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย เดินทางด้วยรถยนต์โตโยตาอัลพาร์ด เลขทะเบียน1ขส2605กรุงเทพมหานคร มายัง รพ.พระอาจารย์ฝั้น อาจาโร ต.พรรณา อ.พรรณานิคม เพื่อตรวจเยี่ยมผลดำเนินงานแก้ปัญหาความยากจนและพัฒนาคนทุกช่วงวัย โดยมี นายอานนท์ แสนน่าน ประจำสำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานหมู่บ้านเทิดไท้องค์ราชันแห่งประเทศไทย ได้นำมวลชนมาให้การต้อนรับและชูป้ายให้กำลังใจนายกฯ บริเวณด้านนอกโรงพยาบาล ซึ่งระหว่างขบวนรถเคลื่อนเข้าภายในพื้นที่จัดงานนายกฯได้เปิดกระจกโบกมือทักทายกลุ่มมวลชนเมื่อมาถึงภายในงานกลุ่มแม่บ้านนำผ้าครามผูกเอวให้นายกฯและคณะ ขณะที่ชาวบ้านที่มาร่วมงานตะโกนให้กำลังใจ”เรารักลุงตู่สู้ๆ”ก่อนนายกฯจะมอบบ้านที่ซ่อมแซมแล้วเสร็จให้ประชาชน
นายกฯยันเร่งแก้ยากจน-ให้งบทุกจังหวัด
โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวกับประชาชนตอนหนึ่งว่า ยินดีได้มาเยี่ยมพวกเราทุกคน ซึ่งวันนี้ใครว่างก็มากับนายกฯ หมดและช่วงนี้ทุกคนทำงานกันอย่างหนัก เพราะปัญหารุมเร้าเข้ามาจากโควิดที่ผ่านมา แต่ก่อนไม่ลำบากเท่าไหร่ พอเจอโควิดเข้ามาก็เรียบร้อย แต่เราทำได้ดีกว่าหลายประเทศที่ต่างชื่นชมเรา ดังนั้นทุกอย่างขึ้นอยู่กับความร่วมมือก็สามารถทำได้ทุกอย่าง วันนี้สาละวนการแก้ปัญหาภายในประเทศ โดยเฉพาะความยากจน เพื่อให้ทุกคนอยู่รอดในสถานการณ์นี้ ซึ่งหลายอย่างก็มีความคืบหน้าไปมากแล้ว ขอย้ำว่ารัฐบาลพยายามจัดหางบประมาณให้ทุกจังหวัด โดยเฉพาะจังหวัดที่เดือดร้อนและมีความยากจนมาก เราต้องเรียงลำดับลงไป โดยยืนยันว่าจะจัดให้ทุกจังหวัด76+1 รวมกรุงเทพฯ เพราะเราคือครอบครัว ครอบครัวคนไทย ครอบครัวประเทศของเรา จึงต้องเผื่อแผ่คิดถึงซึ่งกันและกัน ขัดแย้งไม่ได้ ขอให้ร่วมมือกัน
ปลุกปชช.ปกป้องพิทักษ์3สถาบันหลัก
ขณะที่ จ.สกลนคร เป็นเมืองแห่งธรรมะ รวมทั้งสถานที่ท่องเที่ยวก็มี ทุกอย่างล้วนมีประวัติศาสตร์ ถ้าเราลืมประวัติศาสตร์ไม่รู้เป็นใครมาจากไหน แล้วจะรักพื้นที่ ดินแดน หรือประเทศของเราได้อย่างไร ถ้าไม่รู้เป็นใครจากไหน ทั้งหมดเป็นสายสัมพันธุ์ที่เรามี จึงขออย่าทำลายที่เรามีอัตลักษณ์มายาวนานและวันนี้เห็นแววตาของทุกคนต่างคนก็รักและห่วงลูกของท่าน ลูกก็ต้องรักพ่อแม่ อย่าให้ใครมาทำลายสายสัมพันธ์ที่ดีนี้ไปได้ ยืนยันวันนี้ต่างชาติให้ความร่วมมือกับรัฐบาลไทยอย่างดี ทุกคนชื่นชมในสิ่งที่เรากำลังทำจึงขอให้ภูมิใจในความเป็นไทยในอัตตาลักษณ์ของเรา ภูมิใจในสถาบันหลักคือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ซึ่งเป็นแก่นแกนของประเทศไทย ขอให้ช่วยกันเก็บ ช่วยกันพิทักษ์ ปกป้อง รักษาทรัพย์สินและสถาบันที่มีค่าของเราไว้ คงไม่เป็นการขอร้องที่มากเกินไป ไม่ต้องขอร้องก็ได้เพราะชาวสกลนครรู้อยู่แล้ว
ดูแลทุกปัญหาให้ปชช.กว่า70ล้านคน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายกฯถามว่า“มีอะไรจะพูดหรือไม่ เพราะผมพูดเหนื่อยแล้ว”จึงมีพูดว่า”รักลุงตู่”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า“โอเคนะจ๊ะวันนี้มีความสุขจริง วันนี้มีปัญหาเยอะทุกคนก็ต้องบริหารอารมณ์ของตัวเอง การดูแลปัญหาสารพัด นายกฯต้องดูแลคน70กว่าล้านคน หลายอาชีพ เรารักทุกคนเหมือนกัน เราหัวใจเดียวกันครอบครัวเดียวกันคือครอบครัวประเทศไทย ขอเสียงปรบมือให้ทุกคนก็มีกำลังใจไปทำงานกัน ใครดีไม่ดีว่ากันมา จากนั้นนายกฯเดินทักทายและถ่ายรูปกับประชาชน พร้อมร่วมฟ้อนรำภูไท
ตะโกน’รักลุงตู่-อยู่เป็นนายกฯนานๆ’
ทั้งนี้ ก่อนเดินทางกลับ พล.อ.ประยุทธ์ ได้ทักทายกลุ่มสนับสนุนด้านหน้า ซึ่งแบ่งออกเป็นสองกลุ่มกลุ่มแรกเป็นของ นายอานนท์ แสนน่าน ประธานหมู่บ้านเทอดไทองค์ราชันแห่งประเทศไทย และกลุ่มร่วมพัฒนาชาติไทย ภาคอีสาน นำผ้าขาวม้า พร้อมตะโกนให้กำลังใจและชูป้ายสนับสนุนให้ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯต่อ พร้อมกับเขียนข้อความบนป้ายว่า“ชาวอีสานต้องการ พล.อ.ประยุทธ์ เป็นนายกฯนานๆเพราะหมู่มาร คนพาลที่คิดคตทรยศแผ่นดินเกิดยังไม่หมดสิ้นไป ขอให้ลุงตู่ช่วยส่งเสริมการเกษตรฐานรากให้เข้มแข็งเกษตรกรไทยพร้อมรวมใจเป็นหนึ่งเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจและร่วมพัฒนาชาติให้เจริญรุ่งเรืองสืบต่อไป ลุงตู่สู้สู้“ขอบคุณที่ไม่ทอดทิ้งประชาชน”“ลุงตู่อยู่ยาว”รักลุงตู่”ขอร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการสนับสนุนให้เป็นนายกฯต่อไป โดย พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวขอบคุณ ทำมือสัญลักษณ์ไอเลิฟยูทุบที่หัวใจ ก่อนส่งให้ทุกคน
นายกฯนั่งกองฟางล้อมวงคุยเกษตรกร
เวลา 13.40 น.ที่บ้านท่าเยี่ยม ต.โนนหอม อ.เมืองสกลนคร จ.สกลนคร พล.อ.ประยุทธ์ ตรวจเยี่ยมการส่งเสริมปศุสัตว์เกษตรมูลค่าสูง การพัฒนาโคเนื้อจังหวัดสกลนคร โดยทันทีที่มาถึงนายกรัฐมนตรีได้ขึ้นรถรางเพื่อเยี่ยมชมการดำเนินงานของกลุ่มวิสาหกิจชุมชนโคขุนโพนยางคำ ซึ่งนายกฯได้สวมเสื้อหมกโคลนย้อมครามและให้กำลังใจกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุน พร้อมเยี่ยมชมกระบวนการผลิตอาหารสัตว์ลดต้นทุนตามนโยบายรัฐบาล เยี่ยมชมสาธิตการปิ้งย่างเนื้อโคขุนคุณภาพโพนยางคำ และให้กำลังใจกลุ่มเกษตรกรผู้เลี้ยงโคขุนภูไท
จากนั้นพล.อ.ประยุทธ์นั่งล้อมวงบนก้อนฟางข้าวพบปะเกษตรกรกลุ่มผู้เลี้ยงโคขุนโพนยางคำอย่างเป็นกันเองดีใจที่มีคนสืบสานทำต่อไปโดยเฉพาะนักวิชาการจากศูนย์ศึกษาการพัฒนาภูพานที่มีการพัฒนา แพะดำ หมูดำ กระต่ายดำและไก่ดำ เป็น4 ดำมหัศจรรย์ เชื่อไม่ยากในการพัฒนาคุณภาพเนื้ออะไรต่างๆ
ไม่ตอบซักฟอก-ให้ไปถามที่กทม.
ภายหลังตรวจเยี่ยม พล.อ.ประยุทธ์ ปฏิเสธการตอบคำถาม โดยเมื่อผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่ฝ่ายค้านยื่นญัตติเพื่อขอเปิดอภิปรายทั่วไปนายกรัฐมนตรี พร้อมรัฐมนตรีอีก10 คนว่า“เฮ้ย มันคนละเรื่องกัน”ก่อนจะผละออกจากโพเดี้ยมการให้สัมภาษณ์พร้อมกล่าวก่อนขึ้นรถว่า เรื่องนี้ค่อยไปถามที่กรุงเทพฯ
‘อนุทิน’ย้ำ ภท.ไม่มีถกปมครูโอ๊ะ
ที่อาคารรัฐสภา มีการประชุม สส.พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มี นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข ในฐานะหัวหน้าพรรคภท.เป็นประธาน พร้อมด้วย สส.พรรค นายอนุทินให้สัมภาษณ์ก่อนเข้าประชุมว่า เป็นการประชุมตามปกติของพรรค ที่จะมีการประชุมในช่วงเช้าก่อนเข้าร่วมประชุมสภาผู้แทนราษฎร เพื่อกำหนดแนวทางและรับฟังความเห็นของสส.ไม่มีเรื่องนางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รมช.ศึกษาธิการ อยู่ในวาระการประชุมพรรค
มั่นใจแจงศึกซักฟอกได้แน่
นายอนุทินกล่าวว่ามั่นใจว่าสามารถชี้แจงการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ได้ มองว่าเป็นเรื่องดีที่จะได้คลายข้อสงสัยในการให้ข้อมูลที่ไม่ถูกต้องต่อสาธารณชน ตนจะได้ชี้แจงโดยใช้ข้อมูลที่ถูกต้องอย่างเต็มที่ ข้อกล่าวหาจริงหรือเท็จ จะได้ใช้โอกาสนี้ชี้แจง ส่วนกระทรวงสาธารณสุขที่ดูแลอยู่ ก็ทำงานร่วมกับข้าราชการทุกคนแล ตนก็ลงไปดูทุกเรื่องที่เป็นงานกระทรวงสาธารณสุข จึงมั่นใจว่ามีคลังข้อมูลมากเพียงพอที่จะตอบข้อสงสัยได้ ไม่น่ากังวลอะไร
“ขอให้เล่นอยู่กันในเกม อย่าเป็นข้อมูลที่เป็นเท็จมาก เพราะถ้าเสนอข้อมูลไม่ถูกต้องจะมีความเสียหาย”นายอนุทิน ย้ำ เมื่อถามว่ายังมั่นใจว่ารัฐบาลจะอยู่ครบเทอมหรือไม่ นายอนุทิน กล่าวว่า การทำงานระหว่างพรรคร่วมรัฐบาล เป็นการทำทำบนสปิริตของคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยเอาประชาชนเป็นหัวใจ เอาบ้านเมืองเป็นศูนย์กลาง ซึ่งก็ต้องเป็นไปตามนั้น
‘สุชาติ’ชี้ผู้มีอิทธิพลฝ่ายค้านทำติดบัญชี
นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงาน ในฐานะผู้อำนวยการพรรคพลังประชารัฐ(พปชร.)กล่าวถึงกรณีมีชื่อ1ใน11รัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจก่อนหน้านี้ไม่มีรายชื่ออยู่ในโผว่าคงอาจจะมีคนคิดถึงตนมั้ง แต่ไม่เป็นไรตอบได้ทุกเรื่องอยู่แล้ว เราไม่ได้คิดอะไร เป็นเรื่องของประชาธิปไตย เขากล่าวหาเราก็หักล้างข้อกล่าวหา แต่อย่างที่สื่อมวลชนได้เห็น ก่อนหน้านี้ไม่มีชื่อตน มีการเพิ่มญัตติมาคนสุดท้าย ก็อาจจะมีคนที่มีอิทธิพลที่อยู่นอกพรรคฝ่ายค้านก็ได้ ไม่อยากกล่าวหาใคร แต่ไม่เป็นไรเรารู้หมดแล้วว่าใครทำ เรื่องนี้ไม่ยาก เพราะสุดท้ายเจอกันในสภา ส่วนในพรรค พปชร.ก็ต้องเตรียมพร้อมเรื่องนี้แน่นอน
ฝ่ายค้านยื่นซักฟอก3ป.พ่วง8รมต.
เวลา13.00น.ที่รัฐสภา นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว สส.น่าน พรรคเพื่อไทย (พท.)ผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร พร้อมแกนนำพรรคร่วมฝ่ายค้าน รวบรวม 182รายชื่อ ส.ส.ฝ่ายค้านเข้ายื่นญัตติขอเปิดอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคล ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา151 ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหมและรัฐมนตรีอื่นอีกรวม11ราย ต่อ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร โดยระบุข้อกล่าวหาในญัตติฯว่า รัฐบาลผิดพลาดล้มเหลวบริหารราชการแผ่นดิน จงใจฝ่าฝืนรัฐธรรมนูญและมาตรฐานจริยธรรม ส่อทุจริต เอื้อประโยชน์ให้พวกพ้อง ไม่ปฏิบัติตามนโยบายที่แถลงไว้ต่อรัฐสภา หรือเรื่องที่ฝ่ายค้านเคยอภิปรายทักท้วงไว้ การละเมิดสิทธิมนุษยชนและทำลายระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา ตามยุทธการ“เด็ดหัว สอยนั่งร้าน”
สำหรับรายชื่อ11รัฐมนตรี ที่จะถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ ประกอบด้วย พล.อ.ประยุทธ์ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย นายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รมว.กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายสุชาติ ชมกลิ่น รมว.แรงงานและนายสันติ พร้อมพัฒน์ รมช.คลัง จากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.)รวมไปถึงรัฐมนตรีที่เป็นแกนนำจากพรรคร่วมที่เปรียบเหมือนเป็นนั่งร้านให้ ประกอบด้วย นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯและรมว.สาธารณสุข นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม จากพรรคภูมิใจไทย (ภท.)นายจุรินทร์ ลักษณะวิศิษฎ์ รองนายกฯ และรมว.พาณิชย์ นายจุติ ไกรฤกษ์ รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ นายนิพนธ์ บุญญามณี รมช.มหาดไทย จากพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.)
ชี้ยุบสภาไม่เกิดช่วงศึกซักฟอก
นายสุทิน คลังแสง สส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทย (พท.) ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน(วิปฝ่ายค้าน) กล่าวถึงญัตติการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐมนตรีเป็นรายบุคคลว่าหลังการยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจ การเมืองจะถูกคิดอีกแบบ ข่าวที่บอกว่า รัฐบาลจะยุบสภา จะยังไม่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการอภิปราย แต่ใครจะลาออกช่วงนี้ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งและสามารถทำได้ เมื่อถามว่า หากเกิดอุบัติเหตุทางการเมือง หรือนายกฯถูกไม่ไว้วางใจจนต้องออกจากตำแหน่ง ฝ่ายค้านจะเสนอชื่อใครเป็นนายกฯเพราะบัญชีของฝ่ายค้านเหลือชื่อ นายชัยเกษม นิติสิริ อดีต รมว.ยุติธรรม เพียงคนเดียว นายสุทิน กล่าวว่า มีกระบวนการที่สามารถทำได้ คือ เลือกจากบัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองเคยเสนอไปก่อนหน้านี้ หรือจะเป็นนอกบัญชีก็ได้ ซึ่งมีช่องทางอยู่และคิดว่าจะได้นายกฯดีกว่าเดิม เมื่อถามย้ำว่ารายชื่อนอกบัญชีจะเสนอชื่อ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร หรือไม่ นายสุทิน ยังย้ำว่า ต้องทำไปตามขั้นตอนรัฐธรรมนูญก่อน
‘อุ๊งอิ๊ง’เปิดตัว‘เต้น’กลับบ้านพท.
ที่พรรคเพื่อไทย จัดงาน“ครอบครัวเพื่อไทย ต้อนรับ‘เขา’กลับบ้าน”โดย น.ส.แพทองธาธ ชินวัตร ประธานที่ปรึกษาด้านการมีส่วนร่วมและนวัตกรรมและหัวหน้าครอบครัวเพื่อไทย ได้กล่าวต้อนรับ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เข้ารับตำแหน่งผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย เพื่อนำทำกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทยว่า ชาวง3เดือนที่ผ่านมา ที่เปิดตัวกิจกรรมครอบครัวเพื่อไทย ซึ่งเป็นกิจกรรมการเมืองที่ออกแบบเพื่อลดข้อกำหนดทางกฎหมาย ให้ทุกคนสามารถเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองได้อย่างแท้จริงและที่ผ่านมาครอบครัวเพื่อไทยทำงานอย่างหนักในการลงพื้นที่ไปรับฟังปัญหา วันนี้ยินดีอย่างยิ่งที่ นายณัฐวุฒิ กลับบ้าน กลับครอบครัวเพื่อไทยเพื่อมาช่วยกันทำงาน เพราะไม่ใช่แค่เป็นที่รักของประชาชน แต่ยังเข้าใจพรรคเพื่อไทย ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กับพี่น้องประชาชนมาตลอด ส่วนตัวยินดีและเป็นเกียรติอย่างมากที่ได้ร่วมงานกัน
“การที่เราประกาศเรื่องแลนด์สไลด์ในหลายครั้งในหลายที่ที่เราไป ต้องการให้ฝั่งประชาธิปไตยเป็นผู้ชนะเพื่อพี่น้องจะได้พ้นจากความทุกข์ความยากจน เราเสียเวลากับเผด็จการมานานแล้ว ทำให้เราล้าหลังไปซะทุกเรื่อง ถึงเวลาแล้วที่เราจะมารวมพลังกันและวันนี้ดิฉันมีความเชื่อมั่นอย่างมากว่าพี่เต้นของพวกเรา คุณณัฐวุฒิ จะเป็นอีกแรงสำคัญแรงหนึ่งที่จะทำให้บ้านนี้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น เพราะพี่เต้นเข้าใจพรรคเพื่อไทยเป็นอย่างดี และเข้าใจปัญหาของพี่น้องประชาชนอย่างลึกซึ้ง” หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยกล่าว
‘ณัฐวุฒิ’โวแลนด์สไลด์ชัยชนะปชช.
นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ ผอ.ครอบครัวเพื่อไทยกล่าวถึงการเข้ารับภารกิจผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทยว่า ขบวนการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยของคนเสื้อแดงเดินทางมาเป็นเวลา 10กว่าปี แม้ถูกเหยียดหยาม แต่ก็ยังยืนยันจุดยืนคนเท่ากันและประเทศนี้ต้องการประชาธิปไตย ที่ประชาชนทุกคนจะมีอำนาจในการปกครองประเทศอย่างแท้จริง คนนี้จะอย่างไร เมื่อไร ในสถานการณ์ไหนก็เป็นคนเสื้อแดง แต่เมื่อมายืนอยู่บนเวทีนี้กับบทบาทหน้าที่นี้ ขอให้เข้าใจว่าเวทีนี้คือเวทีครอบครัวเพื่อไทยที่จะเดินหน้าคู่ขนานไปกับพรรคเพื่อไทย เพื่อต่อสู้ในสนามเลือกตั้ง ช่วงชิงอำนาจจากรัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการ ไม่ใช่ภารกิจเฉพาะของสมาชิกพรรคเพื่อไทยหรือครอบครัวเพื่อไทย หรือ เฉพาะแต่เพียงคนเสื้อแดงเท่านั้น เราต้องเปิดประตูทุกบานและหัวใจทุกห้อง ยื่นมือออกไปสุดแขน เหยียดออกไปทุกมุมของสังคมไทยที่หมายรวมถึงคนไทยทุกคน อันเป็นพันธะสัญญาที่เราจะยืนยันร่วมกันว่า ไม่มีเวลาให้รัฐบาลสืบทอดอำนาจเผด็จการชุดนี้่อีกต่อไป และประเทศนี้ไม่เหลืออะไรให้รัฐบาลประยุทธ์จะกัดกินอีกต่อไป
“ผมเชื่อด้วยความบริสุทธิ์ใจว่าถ้าจะมีพรรคใดพรรคการเมืองหนึ่งได้คะแนนเสียงเกินครึ่งแบบแลนด์สไลด์ นั่นคือ พรรคเพื่อไทย ผมเททั้งหัวใจเพื่อภารกิจนี้ ะจะทำสุดความสามารถ เพื่อชัยชนะของพรรคเพื่อไทย และจะทุ่มเททุกความคิด ทุกกำลังความรู้ความสามารถ ทุกเม็ดเหงื่อเพื่อภารกิจผู้อำนวยการครอบครัวเพื่อไทย จนกว่าชัยชนะจะเป็นของประชาชน”ผอ.ครอบครัวเพื่อไทย กล่าว
โต้กว่าชม.เคาะถกร่วมกม.สมรส4ฉบับ
เวลา10.46น.ที่รัฐสภา ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ 4ฉบับ ประกอบด้วย 1.ร่าง พรบ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์หรือร่างพรบ.สมรสเท่าเทียม เสนอโดย นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล กับคณะ ซึ่งเป็นฉบับที่ 8รม.ขอรับไปพิจารณาก่อนรับหลักการ 2.ร่างพรบ.คู่ชีวิต ที่ 8รม.เสนอ 3.ร่าง พรบ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ เสนอโดย ครม.และ4.ร่างพรบ.คู่ชีวิต ที่เสนอโดย นายอิสระ เสรีวัฒนวุฒิ สส.บัญชีรายชื่อ พรรค ปชป.และคณะ ก่อนเข้าสู่การพิจารณา นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ สส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ในฐานะรองประธานคณะกรรมการประสานงานสภาผู้แทนราษฎร (วิปรัฐบาล) ขอให้นำร่างทั้งหมดที่ฝ่ายรัฐบาลเป็นผู้เสนอมาพิจารณาพร้อมกัน เพราะมีเนื้อหาคล้ายคลึงกัน แต่นายณัฐวุฒิ บัวประทุม สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ไม่เห็นด้วย เพราะมีหลักการแตกต่างกัน และยังไม่มีมติจากที่ประชุมสภาฯให้พิจารณาร่วมกัน
พท.ไม่เห็นด้วย-หวั่นทำผิดกฎหมาย
จากนั้น นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย (พท.) ในฐานะวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วยที่จะให้รวมพิจารณา เพราะขั้นตอนในการเสนอร่างกฎหมายประกบ ตนอยู่ในสภาฯ มาไม่เคยเห็น และตามข้อบังคับการประชุม ข้อที่64 ระบุชัดเจนว่า ญัตติใดที่ถึงวาระการพิจารณาในที่ประชุมแล้ว การเสนอญัตติที่มีหลักการเดียวกันจะกระทำไม่ได้ การที่ ครม.เสนอกฎหมายที่มีหลักการเดียวกันเข้ามาอีก 2ฉบับและสส.รัฐบาล อีก1ฉบับ แล้วประธานฯ รับรองญัตติและบรรจุเข้าระเบียบวาระ จึงถือเป็นการเริ่มต้นที่ผิด และหากมีการยื่นศาลรัฐธรรมนูญ กฎหมายที่ประกาศใช้ก็ตกทั้งฉบับ ดังนั้นรัฐบาลอย่าดื้อดึงดัน เพราะจะทำให้เกิดความเสีย ขณะที่วิปรัฐบาลยืนยันว่า สามารถนำมาพิจารณาพร้อมกันได้ แต่ฝ่ายค้านไม่เห็นด้วย โดยนพ.ชลน่าน ศรีแก้ว ส.ส.น่าน พรรค พท.ในฐานะผู้นำฝ่ายค้าน ลุกขึ้นยืนยันว่า ฝ่ายค้านกังวลว่า เราจะร่วมกระทำผิดด้วยไม่ได้ และเราไม่ได้ดื้อดึง เราจะเป็นองค์ประชุมให้ ไม่วอล์กเอาท์ แต่จะงดโหวต ซึ่งจะเป็นหลักฐานว่าท่านจงใจขัดข้อบังคับและรัฐธรรมนูญ เราไม่ได้ขู่
‘ชวน’ยันทำได้-ก่อนรับหลัการวาระ1
นายชวน ชี้แจงว่าได้ให้ฝ่ายกฎหมายสภาฯดูเรื่องนี้ว่า เคยใช้ข้อบังคับที่64เพราะตนไม่ต้องการอะไรที่ผ่านไปแล้วมีปัญหา ซึ่งข้อบังคับ64 ผู้เชี่ยวชาญบอกว่า สามารถทำได้และเคยเกิดขึ้นเมื่อปี2552และ 2553 เรื่องการเสนอการใช้ที่ดินหวงห้ามที่ไม่ใช้ประโยชน์ อย่างไรก็ตาม ที่ประชุมยังคงถกเถียงกันไม่จบ กระทั่งนายชวน ได้ขอมติจากที่ประชุม ที่สุดเสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยให้นำร่างกฎหมายทั้ง 4 ฉบับมาพิจารณารวมกัน ตามที่นายชินวรณ์เสนอและให้ลงมติรับหลักการหรือไม่รับหลักการแยกแต่ละฉบับ ทั้งนี้ ที่ประชุมใช้เวลาถกเถียงในส่วนนี้กว่า 1ชั่วโมง จากนั้นได้เข้าสู่วาระการประชุมพิจารณาพรบ.สมรสฯ โดยเจ้าของร่างแต่ละฉบับได้ลุกขึ้นชี้แจงถึงหลักการและเหตุความสำคัญของแต่ละร่างฯต่อที่ประชุมสภา
จากนั้นมีการลงมติร่าง พรบ.แก้ไขเพิ่มเติมประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ หรือร่างกฎหมายสมรสเท่าเทียม ซึ่งเสนอโดย นายธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล โดยมีการลงมติในวาระที่1วาระรับหลักการ โดยมีผลการลงมติดังนี้ เห็นด้วย212เสียง ไม่เห็นด้วย180เสียง งดออกเสียง12 เสียง ไม่ลงคะแนนเสียง 4เสียง ถือว่าร่างกฎหมายดังกล่าวที่ประชุมเสียงข้างมาก มีมติรับหลักการ
โปรดอ่านก่อนแสดงความคิดเห็น
1.กรุณาใช้ถ้อยคำที่ สุภาพ เหมาะสม ไม่ใช้ ถ้อยคำหยาบคาย ดูหมิ่น ส่อเสียด ให้ร้ายผู้อื่น สร้างความแตกแยกในสังคม งดการใช้ถ้อยคำที่ดูหมิ่นหรือยุยงให้เกลียดชังสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
2.หากพบข้อความที่ไม่เหมาะสม สามารถแจ้งได้ที่อีเมล์ online@naewna.com โดยทีมงานและผู้จัดทำเว็บไซด์ www.naewna.com ขอสงวนสิทธิ์ในการลบความคิดเห็นที่พิจารณาแล้วว่าไม่เหมาะสม โดยไม่ต้องชี้แจงเหตุผลใดๆ ทุกกรณี
3.ขอบเขตความรับผิดชอบของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ อยู่ที่เนื้อหาข่าวสารที่นำเสนอเท่านั้น หากมีข้อความหรือความคิดเห็นใดที่ขัดต่อข้อ 1 ถือว่าเป็นกระทำนอกเหนือเจตนาของทีมงานและผู้ดำเนินการจัดทำเว็บไซด์ และไม่เป็นเหตุอันต้องรับผิดทางกฎหมายในทุกกรณี